ความสัมพันธ์ระหว่างการประยุกต์ใช้หลักพรหมวิหารในการบริหารงานกับประสิทธิผลการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษาในสหวิทยาเขตสตรีทุ่งสง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12
คำสำคัญ:
หลักพรหมวิหารการบริหารงานบุคคลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการประยุกต์ใช้หลักพรหมวิหารในการบริหาร งานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษา ในสหวิทยาเขตสตรีทุ่งสง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลกับการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษา ในสหวิทยาเขตสตรีทุ่งสงสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 และ 3) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการประยุกต์ใช้หลักพรหมวิหารในการบริหารงานบุคคลกับประสิทธิผล การบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษา ในสหวิทยาเขตสตรีทุ่งสง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือผู้บริหารสถานศึกษาและครู ในสหวิทยาเขตสตรีทุ่งสง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 231 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ ได้แก่ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale) 5 ระดับของลิเคอร์ท มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามทั้งฉบับเท่ากับ .955 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน จากการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยมีความเห็นว่า ผู้บริหารสถานศึกษาใช้หลักพรหมวิหารมาประยุกต์ใช้ในการบริงานบุคคลอยู่ในระดับมาก ประสิทธิผลของการบริหารงานบุคคลของผู้บริหารสถานศึกษาก็อยู่ในระดับมาก การบริหารจะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด ส่วนหนึ่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณธรรมและจริยธรรมของผู้บริหาร
เอกสารอ้างอิง
พระครูประโชติกิตติสาร. (2533). ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการนำหลักพรหมวิหาร 4 ไปใช้ในการปฏิบัติงานของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลวัดขนุน อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา. วิทยานิพนธ์ศาสนศาสตรมหาบัณฑิต.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต). (2553). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม พิมพ์ครั้งที่ 18. นนทบุรี: เพิ่มทรัพย์การพิมพ์.
พระราชวิสุทธิโมลี (ทองดี สุรเตโช). (2525). หลักธรรมสำหรับการพัฒนาสังคม. กรุงเทพมหานคร: การศาสนา.




