รูปแบบพุทธจิตวิทยาพัฒนาตนที่มีผลต่อองค์การแห่งการเรียนรู้

ผู้แต่ง

  • อาณัติ นิลขาว มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

พุทธจิตวิทยาพัฒนาตน, สาราณียธรรม, มิตรแท้, องค์การแห่งการเรียนรู้

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาหลักธรรมและจิตวิทยาเชิงบวกในการพัฒนาตนที่ส่งผลต่อองค์การแห่งการเรียนรู้ 2) เพื่อสร้างรูปแบบพุทธจิตวิทยาพัฒนาตนที่ส่งผลต่อองค์การแห่งการเรียนรู้ และ 3) เพื่อตรวจสอบความตรงและนำเสนอรูปแบบพุทธจิตวิทยาพัฒนาตนที่ส่งผลต่อองค์การแห่งการเรียนรู้ โดยใช้การวิจัยแบบผสมวิธี ที่ใช้วิธีการเชิงปริมาณเพื่อขยายผลวิธีการเชิงคุณภาพ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือ ผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนาและ จิตวิทยา จำนวน 12 ท่าน ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณใช้การสุ่มอย่างง่าย จำนวน 405 คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาและการสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย สำหรับข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติบรรยาย การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ด้วยโปรแกรม SPSS และ การวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลกับข้อมูลเชิงประจักษ์ด้วยโปรแกรม LISREL ผลการวิจัยพบว่า อิทธิพลทางตรง พบว่า สาราณียธรรม 6 ได้รับอิทธิพลทางตรงจากพุทธจิตวิทยาพัฒนาตน และมิตรแท้ 4 โดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ .60 และ .35 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ตามลำดับ สาราณียธรรม 6 ยังได้รับอิทธิพลทางอ้อมจากมิตรแท้ 4 โดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ .18 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มิตรแท้ 4 ได้รับอิทธิพลทางตรงจากพุทธจิตวิทยาพัฒนาตน โดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ .51 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ องค์การแห่งการเรียนรู้ ได้รับอิทธิพลทางตรงจากพุทธจิตวิทยาพัฒนาตน โดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ .16 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ได้รับอิทธิพลทางตรงจากสาราณียธรรม 6 และ มิตรแท้ 4 โดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ .33 และ .46 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ตามลำดับ และองค์การแห่งการเรียนรู้ยังได้รับอิทธิพลทางอ้อมจากพุทธจิตวิทยาพัฒนาตนผ่านสาราณียธรรม 6 และมิตรแท้ 4 โดยมีขนาดอิทธิพลเท่ากับ .49 และ .12 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

เอกสารอ้างอิง

กัญญาภัค เฮงใจบุญ. (2555). การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ฉบับสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, 4(2), 53-62.

ณัฐวุฒิ อรินทร์. (2555). การศึกษาปัจจัยเชิงเหตุและผลของทุนจิตวิทยาเชิงบวกที่มีต่อสุขภาวะทางจิตและพฤติกรรมการปฏิบัติงานภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบของบุคลากรสาธารณสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้. ใน ดุษฎีนิพนธ์วิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ธัญญภัสร์ ศิรธัชนราโรจน์. (2559). จิตวิทยากับการพัฒนาตน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พระครูพิมล ปัญญานุยุต. (2557). กระบวนการพัฒนาตนตามหลักพุทธจติวิทยาเพื่อการตื่นรู้. ใน ดุษฎีนิพนธ์พุทศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธจิตวิทยา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต). (2555). พุทธธรรมฉบับปรับขยาย. (พิมพ์ครั้งที่ 35). กรุงเทพมหานคร: ผลิธัมม์.

พระมหาไสว สนฺตมโน. (2556). การศึกษาเปรียบเทียบการคบมิตรในพระพุทธศาสนาเถรวาทกับศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศาสนาเปรียบเทียบ. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พุทธทาสภิกขุ. (2538). พุทธประวัติ ฉบับสำหรับยุวชน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ธรรมสภา.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

ลำพอง กลมกูล. (2554). อิทธิพลของกระบวนการสะท้อนคิดต่อประสิทธิผลการปฎิบัติการในชั้นเรียน : การวิจัยแบบผสมวิธี. ใน ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต ภาควิชาวิจัยและจิตวิทยาการศึกษา. จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย.

ศิริพร ทัศนศรี. (2557). การพัฒนาตนเองเชิงพุทธศาสตร์ของผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวเอกชน. ใน ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพุทธบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

Compton, W.C., & Hoffman, E. (2013). Positive Psychology The Science of Happiness and Flourishing. U.S.A: WADSWORTH CENGAGE Learning.

Hair, J. F. et al. (1998). Multivariate data anlysis. (5th ed). New Jersey: Prentice Hall.

Luthans, F. et al. (2007). Psychological capital: Developing the human competitive edge. Oxford: Oxford University Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

03/31/2020

รูปแบบการอ้างอิง

นิลขาว อ. . (2020). รูปแบบพุทธจิตวิทยาพัฒนาตนที่มีผลต่อองค์การแห่งการเรียนรู้. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 5(3), 53–69. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/240233

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย