คุณลักษณะพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายตามแนวพุทธจิตวิทยา
คำสำคัญ:
คุณลักษณะพยาบาล, ผู้ป่วยระยะท้าย, พุทธจิตวิทยาบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาคุณลักษณะของพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายตามแนวพุทธจิตวิทยา 2) เพื่อสร้างโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยระยะท้ายตามแนวพุทธจิตวิทยา 3) เพื่อตรวจสอบความตรงและนำเสนอโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยระยะท้ายตามแนวพุทธจิตวิทยา การวิจัยเป็นแบบผสมวิธีที่ใช้เชิงปริมาณเพื่อขยายผลเชิงคุณภาพ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านพุทธศาสนา นักจิตวิทยา และผู้บริหารองค์กรขนาดเล็ก โดยเลือกแบบเจาะจง จำนวน 9 รูป/คน กลุ่มตัวอย่างใช้การสุ่มแบบเจาะจงจำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้เป็นแนวคำถามในการสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหาและการสร้างข้อสรุปแบบอุปนัย สำหรับข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติบรรยาย การวิเคราะห์สหสัมพันธ์ และการวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลกับข้อมูลเชิงประจักษ์ด้วย LISREL ผลการวิจัยพบว่าโมเดลความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของพยาบาลที่ดูแลผู้ป่วยระยะท้ายตามแนวพุทธจิตวิทยา สอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่าไค-สแควร์ เท่ากับ 103.91 องศาอิสระ (df) เท่ากับ 83 ความน่าจะเป็น (p) เท่ากับ .060 ค่าดัชนีวัดความกลมกลืน (GFI) เท่ากับ .97 ค่าดัชนีวัดความกลมกลืนที่ปรับแก้แล้ว (AGFI) เท่ากับ .95 และค่าดัชนีรากกำลังสองเฉลี่ยของค่าความแตกต่างโดยประมาณ (RMSEA) เท่ากับ .025 อธิบายความแปรปรวนของคุณลักษณะของพยาบาลแนวพุทธจิตวิทยาได้ร้อยละ 49.00
เอกสารอ้างอิง
กนิษฐา ตัณฑพันธ์. (2541). ลักษณะทางจิตสังคมและลักษณะทางพุทธศาสนาที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการให้การพยาบาลตามบทบาทเชิงวิชาชีพ. ใน วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2560). การเลือกกลุ่มตัวอย่าง. เรียกใช้เมื่อ 11 ธันวาคม 2560 จาก http://pioneer.Netserv.chula.ac.th
ดลนิตา ปานสุวรรณ. (2559). ความเป็นกัลยาณมิตรของหัวหน้าหอผู้ป่วยตามประสบการณ์ของพยาบาลประจำการโรงพยาบาลศูนย์ภาคใต้. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 36(1), 21-40.
ดุษฎี โยเหลา และคณะ. (2538). ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างลักษณะทางพุทธศาสนาลักษณะทางจิตและผลทางปฏิบัติงานตามหน้าที่ของครูและพยาบาล. วารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข, 2(1), 77-90.
บังอร ไทรเกตุ. (2558). คู่มือสำหรับประชาชน: การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง. (พิมพ์ครั้งที่ 7). นนทบุรี: สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ.
พุทธทาสภิกขุ. (2509). ความตายไม่มี. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สุทธิสารการพิมพ์.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2535). พระไตรปิฎกภาษาไทยฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สภาการพยาบาล. (2562). คุณลักษณะพยาบาลที่ผู้รับบริการคาดหวังและพึงพอใจ. เรียกใช้เมื่อ 15 มิถุนายน 2562 จาก https://www.tnmc.or.th
สันต์ หัตถีรัตน์. (2552). การดูแลผู้ป่วยให้ตายดี. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์พิมพ์ดี.
สุดารัตน์ สิทธิสมบัติ. (2550). การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สุวคนธ์ กุรัตน์ และคณะ. (2556). การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย: มิติใหม่ที่ท้าทายบทบาทของพยาบาล. วิทยาลัยพยาบาลศรมหาสารคาม.
Kirchhoff, K. T. & Beckstrand, R. L. (2000). Critical care nurse’ perceptions of obstacles and helpful behaviors in providing end of life care to dying patients. . American Journal of Critical Care, 9(2), 96-105.
National Health Commission Office. (2011). Manual of health care services: laws and practices on end of life care. Nonthaburi: National Health Commission Office.
WHO Publications. (2012). WHO Definition of Palliative Care. Palliative Care: symptommanagement and end - of - life care.




