รูปแบบการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบพึ่งตนเองของนักเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรียนวัดกู่สามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 6
คำสำคัญ:
รูปแบบการพัฒนาครู, การจัดการเรียนรู้แบบพึ่งตนเอง, ประถมศึกษา, หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบพึ่งตนเองของนักเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโรงเรียนวัดกู่สามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 และประเมินผลการใช้รูปแบบการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบพึ่งตนเองของนักเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโรงเรียนวัดกู่สามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ผู้ให้ข้อมูลผู้บริหาร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง จำนวน 120 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง แบบสังเกต คู่มือการพัฒนาครู แบบทดสอบ แผนการเรียนรู้แบบพึ่งตนเอง แบบสอบถามวัดความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงบรรยาย ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการพัฒนาครูในการจัดการเรียนรู้แบบพึ่งตนเองของนักเรียนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงโรงเรียนวัดกู่สามัคคี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 6 ประกอบด้วย 16 ขั้นตอน ดังนี้ 1) การศึกษาวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ 2) การประชุมชี้แจงทำความเข้าใจผู้ร่วมวิจัย 3) สร้างความตระหนักและความคิดริเริ่ม 4) การค้นหารูปแบบและทรัพยากรแรงจูงใจทีมงานวิจัย 5) การกำหนดจุดเน้นในการพัฒนาภายในทีม 6) การจัดทำคู่มือพัฒนาครู 7) การตรวจสอบและปรับปรุงคู่มือพัฒนาครู 8) การพัฒนาครูให้มีความสามารถ วิเคราะห์ สังเคราะห์ หลักสูตรการเรียนรู้แบบพึ่งตนเอง 9) การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบพึ่งตนเองและจัดการเรียนรู้ตามสภาพจริง 10) การประชุมร่างตัวชี้วัดความสำเร็จ 11) การประชุมเพื่อปรับปรุงตัวชี้วัดความสำเร็จ 12) การเก็บข้อมูลเส้นฐานผลการเรียนรู้ 13) การเชื่อมโยงและถ่ายโอนความรู้ 14) การประเมินความสำเร็จของการดำเนินงาน 15) การประเมินผลและสะท้อนผล 16) การสรุปผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และขยายผล และผลการประเมินรูปแบบโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.56)
เอกสารอ้างอิง
กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผล. (2560). รายงานประเมินตนเองของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 6 ปีการศึกษา 2560. นครราชสีมา: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 6.
ฉลาด จันทรสมบัติ. (2551). การวิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาชุมชน. มหาสารคาม: อภิชาตการพิมพ์.
ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นรินทร์ สังข์รักษา และคณะ. (2551). ผลดีของการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในกระบวนการ เรียนรู้และการจัดการความรู้เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของวิสาหกิจชุมชน: ศึกษากรณีจังหวัดราชบุรี. ใน การวิจัยขยายผลสู่ชุมชน. สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.
สมาน อัศวภูมิ. (2549). การบริหารและการจัดการศึกษาของพื้นที่การศึกษาประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอังกฤษ. ใน รายงานการวิจัย. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). แนวทางการจัดการเรียนเป้าหมายโลกเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน. วารสารวิชาการ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, 22(4), 2-3.
สุดาวรรณ เครือพานิช. (2551). การเรียนในวัยเด็กสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารวิชาการ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา, 8(5), 56-57.
Homsin, N. (2014). Using Knowledge Management for Developing primary School Students' Public Mind in Thailand. International Journal of Education and Research, 2(10), 551-566.
Ramasut, T. (1997). Participatory Operational Research. Bangkok: P.A. Livings Printing.




