แนวปฏิบัติที่ดีในการระดมทุนเพื่อการศึกษาของโรงเรียนสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
คำสำคัญ:
แนวปฏิบัติที่ดี, การระดมทุนเพื่อการศึกษา, การศึกษาขั้นพื้นฐานบทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของโรงเรียนด้านการระดมทุนเพื่อการศึกษา และศึกษาแนวปฏิบัติที่ดีด้านการระดมทุนเพื่อการศึกษาของโรงเรียน ในการวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีดำเนินการวิจัยแบบผสานวิธี แบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบันของโรงเรียนด้านการระดมทุนเพื่อการศึกษาของโรงเรียน ใช้วิธีดำเนินการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้มาจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi - stage Random Sampling) ได้โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 378 โรง ประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน ครูที่เกี่ยวข้องกับการระดมทุน และประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานของแต่ละสถานศึกษาที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง โรงเรียนละ 3 คน รวมทั้งสิ้น 1,134 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามสภาพปัจจุบันของโรงเรียนด้านการระดมทุนเพื่อการศึกษา มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.228 – 0.876 และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.985 วิเคราะห์ข้อมูลหาร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และระยะที่ 2 ศึกษาแนวปฏิบัติที่ดีในการระดมทุนเพื่อการศึกษา ใช้วิธีดำเนินการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มเป้าหมายเป็นโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จในการระดมทุนเพื่อการศึกษา ระดับประถมศึกษา 1 โรงเรียน และระดับมัธยมศึกษา จำนวน 1 โรงเรียน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่แบบสำรวจข้อมูล แบบสังเกต และแบบสัมภาษณ์ ผลการวิจัยพบว่าสภาพปัจจุบันของโรงเรียนด้านการระดมทุนเพื่อการศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.53, S.D. = 0.65) องค์ความรู้ด้านการระดมทุนเพื่อการศึกษาที่ต้องการฝึกอบรม โดยรวมอยู่ในระดับมาก (
= 3.97, S.D. = 0.53) และแนวปฏิบัติที่ดีในการระดมทุนของสถานศึกษาระดับประถมศึกษาจะต้องมีอย่างน้อย 3 ขั้นตอน 18 องค์ประกอบ ส่วนในระดับมัธยมศึกษาจะต้องมีอย่างน้อย 3 ขั้นตอน 20 องค์ประกอบ
เอกสารอ้างอิง
กรมสามัญศึกษา. (2546). คู่มือครูระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนช่วงชั้นที่ 3–ช่วงชั้นที่ 4 (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6). กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ ทหารผ่านศึก.
ธาดา ยาวังเสน. (2550). การระดมทรัพยากรเพื่อการจัดการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่พิเศษจังหวัดเชียงราย. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
บุญชม ศรีสะอาด. (2545). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.
วีระวัชร์ สุนทรนันท์. (2551). การพัฒนาแนวทางการวางแผนการระดมทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษาในสถานศึกษาขนาดเล็ก. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2557). ข้อมูลสารสนเทศ ประจำปีการศึกษา 2556. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา. (2547). หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: บริษัทพิมพ์ดี.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2547). การประชุมวิชาการ การวิจัยทางการบริหารการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์และทำปกเจริญผล.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2548). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาข่าราชการ พ.ศ. 2548-2551. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2549). 15 รูปแบบการบริหารโรงเรียน ของผู้บริหารสถานศึกษาต้นแบบรุ่น 1 ปี 2544. กรุงเทพมหานคร: 21 เซ็นจูรี่.
สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562. เรียกใช้เมื่อ 5 กรกฎาคม 2560 จาก http://plan.bopp-obec.info/
Denzin, N. K. (1970). Sociological Methods: A source Book. Chicago: Aldine.
Levenson, S. (2003). Fundraising help for School Principals and other School Leaders. Retrieved September 12 , 2017, from http://www.arc.gov /index.do?nodeId=1729
Ronald R. R. (1997). Impact of Donor Motivations and Characteristics on Giving to Higher Education. In A Dissertation Doctor of Philosophy. University of Oklahoma Graduate College.
Seiler, T. L. (2003). Developing and Articulating a Case for Support. (2nd ed.). an Francisco: Jossey-Bass.




