การตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศของเด็กและเยาวชน
คำสำคัญ:
การล่วงละเมิดทางเพศ, ความรุนแรง, เด็กและเยาวชนบทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจประสบการณ์ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศของเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี และทดสอบความสัมพันธ์ระหว่าง เพศ อายุ สถานภาพของบิดามารดา และการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศของเด็กและเยาวชน การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ โดยใช้แบบสอบถาม กับกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 2,443 คน ผลการวิจัย พบว่า เด็กและเยาวชนส่วนน้อยที่มีประสบการณ์ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศ กลุ่มพฤติกรรมที่เคยถูกกระทำรุนแรงทางเพศมากที่สุด ได้แก่ การถูกกระทำอนาจาร รองลงมาคือ พยายามมีเพศสัมพันธ์โดยใช้กำลังบังคับหรือล่อลวงแต่ไม่สำเร็จ และ การล่อลวงให้คุณต้องยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย ผู้กระทำส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเพื่อนมากที่สุด รองลงมาคือ กลุ่มคนที่รู้จัก เช่น ญาติ แฟน ส่วนสถานที่เกิดเหตุนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดในที่พักอาศัย รองลงมาคือ โรงเรียน พฤติกรรมดังกล่าวจะเป็นการกระทำในขณะอยู่ตามลำพังกับผู้กระทำ ซึ่งเป็นการกระทำโดยการแกล้ง และการหลอกลวง นอกจากนี้เพศ กลุ่มอายุ และสถาภาพของบิดามารดา มีความสัมพันธ์กับการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 เพศหญิงมีสัดส่วนของการตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศมากกว่าเพศชาย เด็กและเยาวชนอายุ 16 – 17 ปีจะมีสัดส่วนการถูกกระทำรุนแรงทางเพศมากกว่ากลุ่มอื่น และ กลุ่มเด็กที่ไม่ได้อยู่กับบิดามารดาตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศมากกว่ากลุ่มที่บิดามารดาอยู่ด้วยกัน ผลการสำรวจเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาแนวทางในการป้องกันการกระทำรุนแรงทางเพศแก่เด็กและเยาวชนต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2556). รายงานสถิติการถูกทำร้าย ร่างกายในเด็กและสตรีที่เข้ารับบริการที่ศูนย์พึ่งได้ ปีพุทธศักราช 2556. กรุงเทพมหานคร: กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.
ข่าวสดออนไลน์. (2562). หนึ่งเสียงเปลี่ยนชีวิต ยุติความรุนแรงต่อเด็ก. เรียกใช้เมื่อ 14 กรกฎาคม 2562 จาก https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_2538558
ฐาศุกร์ จันประเสริฐ. (2554). ความรุนแรงในโรงเรียน: เสียงสะท้อนจากเด็ก เยาวชนและผู้ที่เกี่ยวข้อง. วารสารพฤติกรรมศาสตร์เพื่อการพัฒนา, 3(1), 1 – 9.
ทัศนีย์ คนเล และคณะ. (2553). ประสบการณ์ของการถูกทารุณกรรมทางเพศในวัยรุ่นหญิง. วารสารพยาบาลและการศึกษา, 3(2), 57 – 72.
พรรณพิมล หล่อตระกูล และมาโนช หล่อตระกูล. (2544). การถูกลาวงเกินทางเพศโดยครูชายของนักเรียนชาย: ปัญหา ผลติดตามและการป้องกัน. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 46(1), 25 – 34.
พิภพ อดุลย์อิทธิพงศ์. (2544). การปฎิบัติงานแบบสหวิชาชีพในการคุ้มครองเด็กที่ถูกทารุณกรรมและทอดทิ้ง. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก.
มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ. (2548). ภัยคุกคามทางเพศในกลุ่มผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์: กรณีศึกษาผู้หญิงในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. กรุงเทพมหานคร: เอแบคโพล.
มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ. (2549). สถานการณ์ปัญหาการคุกคามทางเพศ และเพศสัมพันธ์ในกลุ่มเยาวชน: กรณีศึกษาเยาวชนอายุ 15 – 24 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ). กรุงเทพมหานคร: เอแบคโพล.
วรรยา เทียนดี. (2546). การศึกษาทัศนคติและพฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้หญิงของข้าราชการตำรวจเพศชายในจังหวัดสมุทรปราการ. กรุงเทพมหานคร: ฐานข้อมูลวิทยานิพนธ์ไทย.
วิทยากร เชียงกูล. (2552). จิตวิทยาวัยรุ่น: ก้าวข้ามปัญหาและพัฒนาศักยภาพด้านบวก. กรุงเทพมหานคร: สายธาร.
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. (2563). แนวปฏิบัติเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดหรือคุกคามทางเพศในการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านทุจริต กระทรวงสาธารณสุข.
สุฑาทิพย์ คำเที่ยง. (2562). ความรุนแรงในเด็กและเยาวชน : ตั้งใจ หรือ แค่พลั้งเผลอ. เรียกใช้เมื่อ 21 พฤษภาคม 2563 จาก http://www.craniofacial.or.th/aggressiveness-in-youth.php
สุวรา แก้วนุ้ย และทักษพล ธรรมรังสี. (2558). พฤติกรรมการคุกคามทางเพศในกลุ่มเด็กและเยาวชนภายใต้อิทธิพลการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 5(2), 233 – 243.
Agnew, R. et al. (1996). A New Test of Classic Strain Theory. Justices Quarterly, 13(4), 681-704.
Stark, L. & Landis, D. (2016). Violence against children in humanitarian settings: A literature review of population-based approaches. Social Science & Medicine, 152(2016), 125 - 137.




