ตัวแบบการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยสงฆ์ ที่ส่งผลต่อองค์กรแห่งความสุข

ผู้แต่ง

  • สุวิทย์ ฝ่ายสงค์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
  • สิรินธร สินจินดาวงศ์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
  • พระมหาสหัส ฐิตสาโร (ดำคุ้ม) มหาวิทยาลัยศรีปทุม

คำสำคัญ:

ตัวแบบการบริหารจัดการ, การบริหารเชิงพุทธ, องค์กรแห่งความสุข, มหาวิทยาลัยสงฆ์

บทคัดย่อ

          บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ส่งผลต่อองค์กรแห่งความสุข     2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความสุขของบุคลากรใน   การทำงาน การบริหารเชิงพุทธ และองค์กรแห่งความสุข และ 3) เพื่อพัฒนาตัวแบบการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ส่งผลต่อองค์กรแห่งความสุข ออกแบบโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย บุคลากรมหาวิทยาลัยสงฆ์ จำนวน 310 รูป/คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่    1) แบบสัมภาษณ์เชิงลึก 2) แบบสอบถาม การเก็บรวบรวมข้อมูล คือ 1) ใช้วิธีการส่งและรับกลับมาด้วยตัวเอง 2) การใช้แบบสอบถามออนไลน์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ 1) ข้อมูลเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา 2) ข้อมูลเชิงปริมาณ ใช้สถิติเชิงบรรยาย ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบความตรงของโมเดลแบบมีตัวแปรส่งผ่านและการวิเคราะห์ขนาดอิทธิพลทางตรงและทางอ้อมด้วยสถิติ SEM ผลการวิจัยสรุปได้ว่า 1) ตัวแปรที่เป็นองค์ประกอบของการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่ส่งผลต่อองค์กรแห่งความสุข แบ่งออกเป็น 3 องค์ประกอบ ได้แก่ 1.1) ความสุขของบุคลากรในการทำงาน มีจำนวน 5 ตัวแปร 1.2) การบริหารเชิงพุทธ มีจำนวน 4 ตัวแปร 1.3) องค์กรแห่งความสุข มีจำนวน   4 ตัวแปร รวมตัวแปรสังเกตได้ทั้งหมด 13 ตัวแปร 2) ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มตัวแปรแฝงในโมเดลพบว่า ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กันสูงสุด คือ ความสุขของบุคลากรในการทำงานกับองค์กรแห่งความสุข โดยมีขนาดความสัมพันธ์เท่ากับ .825 สัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 3) ผลการวิเคราะห์โมเดลที่ผู้วิจัยได้พัฒนาขึ้นมีความเหมาะสมกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่าดัชนีความกลมกลืนที่ผ่านเกณฑ์การยอมรับ คือ Chi-Square =49.80, df = 37, P = 0.077, GFI = 0.97, AGFI 0.94, และ RMSEA = 0.03

เอกสารอ้างอิง

กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2552). รายงานประจำปี กรมสุขภาพจิต ปี 2552. เรียกใช้เมื่อ 13 มิถุนายน 2561 จาก https://www.dmh.go.th/ebook/view.asp?id=223

ขวัญเมือง บวรอัศวกุล. (2561). การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตกับการทำงานอย่างมีความสุข. เรียกใช้เมื่อ 5 เมษายน 2561 จาก https://goo.gl/GcMg72

พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต). (2552). ความสุข 5 ชั้น. เรียกใช้เมื่อ 23 พฤษภาคม 2561 จาก http://www.cdthamma.com/forums/index.php?topic=2808.0

พระมหากิจการ โชติปญฺโญ. (2558). การบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา. วารสารบัณฑิตศาส์น มมร., 13(2), 48-5.

ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์. (2555). การพัฒนาจิตตปัญญาในองค์กร การปรับกระบวนทัศน์และวัฒนธรรมองค์กร. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.).

ราชบัณฑิตยสถาน. (2542). พจนานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน. เรียกใช้เมื่อ 27 พฤษภาคม 2561 จาก http://rirs3.royin.go.th

สมคิด ปิ่นทอง. (2556). รูปแบบการจัดการการกีฬาแห่งประเทศไทยให้เป็นองค์กรแห่งความสุข. ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬ. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

สิรินทร แซ่ฉั่ว. (2553). ความสุขในการทำงานของบุคลากรเชิงสร้างสรรค์กรณีศึกษาอุตสาหกรรมเชิง สร้างสรรค์กลุ่มสื่อและกลุ่มงานสร้างสรรค์เพื่อการใช้งาน. ใน วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และองค์การ. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.

อรุณวดี คุ้มสิริพิทักษ์. (2545). การเสริมสร้างอำนาจในงานกับความพึงพอใจในงาน ของพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม. ใน วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรมบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

อาทิตยา จุฬาเสรีกุล และพระครูธีรวสาร. (2559). การใช้หลักอิทธิบาท 4 ในการบริหารการศึกษาวิทยาลัยศาสนศาสตร์เฉลิมพระเกียรติกาฬสินธุ์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย. วารสารธรรมทรรศน์, 16(1), 41-51.

Burton, J. (2010). WHO Healthy Workplace Framework and Model. Retrieved November 29, 2018, from https://www.who.int/occupational_health/healthy_workplace_framework.pdf

Hair, J.F.J. et al. (1998). Multivariate Data Analysis. (5th ed). New Jersey: Prentice Hall.

Hosie, P. & Sevastos, P. (2009). Does the “happy‐productive worker” thesis apply to managers? International Journal of Workplace Health Management, 2(2), 131-160.

Lucas, R. E. et al. (2003). Measuring positive emotions. In S. J. Lopez & C. R. Snyder (Eds.), Positive psychological assessment: A handbook of models and measures. Washington, D.C., U.S.: American Psychological Association.

Lyubomirsky, S. et al. (2005). The Benefits of Frequent Positive Affect: Does Happiness Lead to Success? Psychological Bulletin, 131(6), 803-855.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

09/15/2020

รูปแบบการอ้างอิง

ฝ่ายสงค์ ส. ., สินจินดาวงศ์ ส. ., & ฐิตสาโร (ดำคุ้ม) พ. . (2020). ตัวแบบการบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยสงฆ์ ที่ส่งผลต่อองค์กรแห่งความสุข. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 5(9), 95–110. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/243900

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย