การพัฒนารูปแบบการเล่น เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร
คำสำคัญ:
รูปแบบการเล่น, พัฒนาการเรียนรู้, นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6บทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความต้องการการจัดกิจกรรมนันทนาการ การเล่น 2) พัฒนารูปแบบการเล่น และ 3) ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการเล่น เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผู้วิจัยเก็บข้อมูลจากแบบสอบถามความต้องการ การจัดกิจกรรมนันทนาการ การเล่น นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 662 คน จากโรงเรียนสังกัดสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานครของปีการศึกษา 2561 สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง และแบบชั้นภูมิ และการสนทนากลุ่ม จากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 15 ท่าน และแบบวัดทักษะการเล่น โดยการวิเคราะห์เนื้อหา ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) กิจกรรมดูหนัง ภาพยนตร์ การ์ตูน มีความต้องการมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 5.00 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.00 กิจกรรมงานประดิษฐ์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.89 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.11 และกิจกรรมปั้นดินน้ำมัน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.83 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.16 ตามลำดับ 2) การสร้างรูปแบบกิจกรรม การเล่น ต้องคำนึงถึงความสนุกสนาน ความตื่นเต้น ความท้าทาย ความน่าสนใจ และสร้างความกระตือรือร้น ด้านวัตถุประสงค์ มุ่งเน้นผลทาง พุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย ด้านกระบวนการ ประกอบด้วย กิจกรรมบริหารสมอง เตรียมกลุ่ม กิจกรรมการเล่น และสรุปผล การประเมินผล ด้วยวิธีการสังเกตและประเมินค่าใน 3 ด้าน คือ ความรู้ กระบวนการ และเจตคติ 3) ผู้วิจัยทำการทดลองผลการจัดรูปแบบการเล่น โดยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงนักเรียนจากโรงเรียนวัดลาดปลาเค้าจำนวน 30 คน การศึกษาวิจัยพบว่าผลคะแนนภายหลังการเข้าร่วมรูปแบบการเล่น 8 สัปดาห์นักเรียนผู้เข้าร่วมมี ผลคะแนน พุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย สูงขึ้น เมื่อเทียบกับก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
เอกสารอ้างอิง
กลัญญู เพชรากรณ์. (2561). จิตวิทยาครูสำหรับการจัดการเรียนรู้. เรียกใช้เมื่อ 14 มกราคม 2561 จาก http://www.eledu.ssru.ac.th /kalanyoo_pe/file.php/4/_6_.pdf.
กองออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย. (2561). การขยับเคลื่อนไหวและยืดเหยียดร่างกาย. เรียกใช้เมื่อ 10 ธันวาคม 2561 จาก http://dopah.anamai.moph.go.th/?page _id=78.
เกษม นครเขตต์. (2558). ประสบการณ์การเรียนรู้จากการเล่นของเด็ก ตามองค์ประกอบ Bloom s Taxonomy. วารสารสุขศึกษา พลศึกษา และสันทนาการ, 41(2), 31-37.
เกษมสันต์ พานิชเจริญ. (2559). การพัฒนารูปแบบการประเมินในการจัดการเรียรู้พลศึกษา สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. ใน ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
คณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชน. (2561). แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ฉบับที่ 2. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ เจ เอส การพิมพ์.
คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต. (2559). การจัดทำมาตรฐานจริยธรรมและผลิตรายการโทรทัศน์. เรียกใช้เมื่อ 10 ตุลาคม 2562 จาก https://broadcast.nbtc.go.th /data/academic/file/600100000001.pdf.
ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ปิยนันท์ พูลโสภา. (2560). การพัฒนาการเล่น เพื่อการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยในศตวรรษที่ 21. วารสารศึกษาศาสตร์ปริทัศน์, 32(1), 20 – 27.
พระมหาสมยศ เพียสา. (2553). การศึกษาและพัฒนาแรงจูงใจในการเรียนวิชาพระพุทธศาสนาของนักเรียนช่วงชั้นที่ 3 โดยใช้กิจกรรมกลุ่ม. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการแนะแนว. มหาวิทยาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
พิชิต เมืองนาโพธิ์. (2558). ความสามารถทางกาย. วารสารคณะพลศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 18(1), 5-6.
วรดนู จีระเดชากุล. (2551). ปรัชญา แนวคิดเกี่ยวกับ เวลาว่าง การเล่น และนันทนาการ (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร. (2562). รายงานสถิติการศึกษา ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2562). Thailand’s2018 Report Card on Physical Activity for Children and Youth. เรียกใช้เมื่อ 5 กันยายน 2562 จาก https://www.thaihealth.or.th
สำนักบริหารและพัฒนาองค์ความรู้. (2561). แนวทางการจัดการเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมอง สำหรับเด็กวัย 7-12 ปี. กรุงเทพมหานคร: บริษัท พลัสเพรส จำกัด.
สุชีวา วิชัยกุล. (2559). การพยายาบาลเด็กที่มีปัญหาผื่น. เรียกใช้เมื่อ 10 ตุลาคม 2562 จาก https://docuri.com/download/skin_59c1cc95f581710b28620215_pdf
สุรศักดิ์ อาภาสกุล. (2562). Play Day วันเล่นสนุก เล่นเปลี่ยนโลก. เรียกใช้เมื่อ 24 กันยายน 2562 จาก https://www.thaihealth.or.th /Content/50151-Play%20Day
Bloom, B. S. (1976). Human characteristics and school learning. New York: McGraw-hill.
Erik, H. E. (1950). Childhood and Society. Science, 113(2931), 253 - 260.
Freyberg, J. T. (1973). Increasing the Imaginative Play of Urban Disadvantaged Kidergarten Children Through Systematic Training . In The Child's World of Make-beleeve. J.L. Singer. New York: Academic Press.
Humphrey, J. H. (1990). Helping Learning-disabled gifted children learn through compensatory active play. the United states of America: Charles C: Thomas.




