การพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพของพนักงานการไฟฟ้า องค์กรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
การพัฒนา, โปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพ, พนักงานการไฟฟ้า, องค์กรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาสุขภาพและพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ ของพนักงานการไฟฟ้า องค์กรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จังหวัดเชียงใหม่ โดยกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ผู้ร่วมวิจัยเป็นพนักงานการไฟฟ้า จำนวน 49 คน จากอำเภอสันกำแพง (n = 26) และอำเภอดอยสะเก็ด (n = 23) กระบวนการวิจัยประกอบด้วย 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการพัฒนา ได้แก่ ทบทวนวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องและสำรวจสภาพปัญหาสุขภาพของพนักงานการไฟฟ้าพื้นที่ที่ดำเนินการศึกษา ขั้นตอนที่ 2 พัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพ ได้แก่ สนทนากลุ่มเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาสุขภาพ สาเหตุของปัญหา และร่วมกันพัฒนาโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพขององค์กร ขั้นตอนที่ 3 ขั้นดำเนินการตามโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพที่พัฒนาขึ้น โดยมีสร้างข้อตกลงร่วมกัน ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ผลการวิจัย พบว่าโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพของพนักงานการไฟฟ้า ประกอบด้วย 1) ผลักดันนโยบายการจัดสภาพแวดล้อมในสถานที่ทำงานให้เอื้อต่อการส่งเสริมสุขภาพ 2) ร่วมกันสร้างพื้นที่สุขภาวะในสถานที่ทำงาน 3) ติดป้ายข้อมูลอาหาร จำนวนแคลอรี่ ในบริเวณร้านอาหารในสถานที่ทำงาน 4) ตั้งเป้าหมายในการรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ และลดหวาน 5) ตั้งเป้าหมายในการเดินในสถานที่ทำงาน อย่างน้อยวันละ 3,000 ก้าว 6) จัดเวลาทุกวันพุธช่วงบ่ายให้เป็นเวลาที่พนักงานออกกำลังกาย และจัดให้มีการแข่งกีฬาในองค์กร 7) มอบรางวัลแก่ผู้ที่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้สำเร็จ 8) กิจกรรมติดตามเยี่ยม เพื่อติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และให้คำปรึกษา ปัญหาต่าง ๆ ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพ ผลการวิจัยนี้คาดหวังว่าจะส่งผลให้ผู้ร่วมวิจัยมีสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น และสำนักงานการไฟฟ้าท้องที่อื่น หรือหน่วยงานอื่น ๆ สามารถนำโปรแกรมนี้ไปใช้ในการส่งเสริมสุขภาพของพนักงานในองค์กรได้
เอกสารอ้างอิง
กรมพลศึกษา. (2562). แบบทดสอบและเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายของประชาชนไทย อายุ 19-59 ปี. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.
เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย. (2560). มาร่วมกันพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็น “Healthy Organization.”. เรียกใช้เมื่อ 29 มกราคม 2562 จาก http://healthy-org.com/content/about_project/89
บุษป์รัตน์ การะโชติ. (2559). โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม. จดหมายข่าวองค์การเภสัชกรรม, 23(1), 17-18.
พรรณี ปานเทวัญ. (2560). โมเดลเชิงนิเวศวิทยากับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมสุขภาพ. วารสารพยาบาลทหารบก, 18(2), 7-15.
มุสตอพา ซิ. (2561). การพัฒนาโปรแกรมสร้างเสริมสุขภาพโดยใช้แนวคิดนิเวศวิทยาเชิงสังคมและระยะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อควบคุมระดับไขมันในเลือดของพนักงานในสถานประกอบการ. วารสารพยาบาลสงขลานครินทร์, 38(4), 1-13.
ศิรินันท์ กิตติสุข และคณะ. (2555). คุณภาพชีวิต การทำงาน และความสุข. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ธรรมดาเพรส.
สง่า ดามาพงษ์. (2562). การขับเคลื่อน Healthy Organization สู่ความยั่งยืน. กรุงเทพมหานคร: สมาคมโภชนาการแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และภาคีเครือข่ายด้านอาหารและโภชนาการ.
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (2560). การส่งเสริมสุขภาพจิต: แนวคิด หลักฐาน และแนวทางปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: แผนงานพัฒนานวัตกรรมเชิงระบบเพื่อการสร้างเสริมสุขภาพจิต.
สำนักโรคไม่ติดต่อ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข. (2560). NCD FORUM 2017 Moving Forward. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์อักษรกราฟฟิคแอนด์ดีไซน์.
หนึ่งหทัย ขอผลกลาง และ กิตติ กันภัย. (2553). งานวิจัยด้านการสื่อสารสุขภาพ: กลไกในการพัฒนาสังคม. วารสารเทคโนโลยีสุรนารี, 4(1), 65-77.
อภิชัย มงคล และคณะ. (2552). การพัฒนาและทดสอบดัชนีชี้วัดสุขภาพจิตคนไทย (Version 2007). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
McLeroy, K. R. et al. (1988). An ecological perspective on health promotion programs. Health Education Quarterly, 15(1), 351-377.
Pender, J. N. et al. (2011). Health Promotion in Nursing Practice. Boston: Pearson.
Tan, G. et al. (2004). Validation of the Brief Pain Inventory for chronic nonmalignant pain. The Journal of Pain: Official Journal of the American Pain Society, 5(2), 133-137.
World Health Organization. (2014). Global status report on non-communicable diseases. Geneva: World Health Organization.




