ความร่วมมือของผู้นำชุมชนกับการพัฒนาจังหวัดระนอง
คำสำคัญ:
ความร่วมมือ, ผู้นำชุมชน, การพัฒนา, จังหวัดระนองบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพความร่วมมือของผู้นำชุมชนกับการพัฒนาจังหวัดระนอง 2) ศึกษาปัจจัยความร่วมมือและเงื่อนไขในการส่งเสริมความร่วมมือของผู้นำชุมชนกับการพัฒนาจังหวัดระนอง และ 3) หาแนวทางความร่วมมือของผู้นำชุมชนกับการพัฒนาจังหวัดระนอง เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกและการสนทนากลุ่ม กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ข้าราชการภาครัฐระดับบริหารและผู้บริหารภาคเอกชน จังหวัดระนอง จำนวน 10 ท่าน กลุ่มที่ 2 ผู้นำชุมชนแบบเป็นทางการ แบบไม่เป็นทางการ แบบหุ้นส่วน แบบกลุ่มรวมพลัง แบบเครือข่าย จังหวัดระนอง จำนวน 10 ท่าน และกลุ่มที่ 3 ผู้มีส่วนได้เสียในพื้นที่จังหวัดระนอง จำนวน 3 กลุ่ม ๆ ละ 10 ท่าน รวมเป็น 30 ท่าน และนำมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ผลการวิจัยพบว่า สภาพความร่วมมือของผู้นำชุมชนกับการพัฒนาจังหวัดระนอง คุณสมบัติผู้นำแต่ละท่านไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน ควรยึดหลักสัปปุริสธรรม คือ คุณธรรมของผู้นำที่จะต้องรู้เหตุ รู้ผล รู้ตน รู้ประมาณ รู้กาลเวลา รู้ชุมชน รู้บุคคล และเลือกใช้คุณธรรมนั้นอย่างเหมาะสม การพัฒนาจังหวัดระนองต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่าง เริ่มจากความรู้ความสามารถ ความแตกต่างระหว่างบุคคล ความเป็นบุคคลทั้งตัว แนวโน้มพฤติกรรมเมื่อได้รับแรงกระตุ้น ศักดิ์ศรีของความเป็นคน รวมถึงเครือข่ายที่เชื่อมโยงกลุ่มคนหรือกลุ่มองค์กรที่สมัครใจแลกเปลี่ยนความรู้ร่วมกัน ซึ่งผู้นำชุมชนในการพัฒนาตำบลจังหวัดระนองควรมีแนวทางความร่วมมือ ดังต่อไปนี้ 1) มีการสอบถามจากผู้รู้ 2) มีการศึกษาจากขนบธรรมเนียมประเพณี 3) มีการใช้ประสบการณ์ 4) การใช้วิธีการอนุมาน 5) การใช้วิธีการอุปมาน 6) การใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์
เอกสารอ้างอิง
คงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์. (27 พฤศจิกายน 2562). ความร่วมมือของผู้นำชุมชนกับการพัฒนาจังหวัดระนอง. (กิตติวัตร ฝอยทอง, ผู้สัมภาษณ์)
จิตจำนงค์ กิติกีรติ. (2552). การพัฒนาชุมชน: การมีส่วนร่วมของประชาชนในงานพัฒนาชุมชน. กรุงเทพมหานคร: พัฒนาชุมชน.
จิราวัจน์ เจริญนิธิโภคิน. (15 ธันวาคม 2562). ความร่วมมือของผู้นำชุมชนกับการพัฒนาจังหวัดระนอง. (กิตติวัตร ฝอยทอง, ผู้สัมภาษณ์)
บุญชัย สมใจ. (15 ตุลาคม 2562). ความร่วมมือของผู้นำชุมชนกับการพัฒนาจังหวัดระนอง. (กิตติวัตร ฝอยทอง, ผู้สัมภาษณ์)
ประเวศ วะสี. (2557). ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคน ศักยภาพแห่งความสร้างสรรค์. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน.
ไพบูลย์ เจริญทรัพย์. (2554). การส่งเสริมและการพัฒนาการมีส่วนร่วมของชุมชน. กรุงเทพมหานคร: บริษัท นวกนก จำกัด.
อภิชัย พันธเสน. (2559). แนวคิด ทฤษฎี และภาพรวมของการพัฒนา. กรุงเทพมหานคร: บริษัท อมรินทร์ พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน).
Balassa, B. (2011). The Theory of Economic Integration. Homewood, ILL: Richard D. Irwin.
Funetan, J. (2010). Asean and the Principle of Non - Intervention Practice and Prospects. Retrieved July 12 , 2019, from https://bookshop.iseas.edu.sg /publication/1706
Galtung, J. (2012). A Structural Theory of Integration. Journal of Peace Research, 5(4), 375-395.
Haas, E. (2007). The Uniting of Europe and the uniting of Latin America. Journal of Common Market Studies, 5(4), 315-343.
Keraminiyage, K. et al. (2009). Achieving success in collaborative research: the role of virtual research environments. Journal of Information Technology in Construction, 14(March), 58-69.
Öztürk, A. et al. (2017). Critical Review of Implicit aTheory on the Validity of Organizational Actor-National Culture Fitness. International Journal Organizational Leadership, 6(4), 465-469.
Schalk, R. & Curs¸eu, P. L. (2013). Virtual communicating, conflicts and performance in teams. Team Performance Management, 14(7/8), 364-380.
Schmidt, W. H. (1958). How to Choose A Leadership Pattern. Harvard Business Review, 36(2), 95-101.




