การศึกษาความต้องการจำเป็นการนิเทศภายในโดยใช้ ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
คำสำคัญ:
การนิเทศภายใน, ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ, โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา, ความต้องการจำเป็นบทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษากระบวนการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา 2) เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นของกระบวนการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย ได้แก่ 1) ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา จำนวน 5 คน โดยใช้วิธีการเลือกตามคุณสมบัติแบบเจาะจง และ 2) ผู้บริหารสถานศึกษาและครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 750 คน โดยใช้วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบประเมินและแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงมาตรฐาน และค่าดัชนีความต้องการจำเป็น ผลการวิจัยพบว่า 1) กระบวนการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ประกอบด้วย 5 กระบวนการ ได้แก่ การวางแผนการนิเทศภายใน การกำหนดกลยุทธ์การนิเทศภายใน การดำเนินการนิเทศภายใน การกำกับ ติดตามการนิเทศภายใน และการประเมินผลการนิเทศภายใน ผลการประเมินกระบวนการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา โดยผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา พบว่า กระบวนการนิเทศภายในมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และ 2) ผลการศึกษาความต้องการจำเป็นของกระบวนการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ สำหรับโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา พบว่า ความต้องการในการพัฒนากระบวนการนิเทศภายใน โดยการวิเคราะห์ค่าดัชนี PNIModified เรียงตามลำดับได้ดังนี้ ลำดับที่ 1 การกำหนดกลยุทธ์การนิเทศภายใน ลำดับที่ 2 การดำเนินการนิเทศภายใน ลำดับที่ 3 การวางแผนการนิเทศภายใน ลำดับที่ 4 การประเมินผลการนิเทศภายใน และ ลำดับที่ 5 การกำกับ ติดตามการนิเทศภายใน
เอกสารอ้างอิง
กมล ภู่ประเสริฐ. (2547). การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร: เมธีทิปส์.
กรองทอง จิรเดชากุล. (2550). คู่มือการนิเทศภายในโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร: ธารอักษร.
กำพล วิลยาลัย. (2549). การศึกษาการดำเนินงานการนิเทศภายในโรงเรียนในโครงการหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานิเทศการศึกษาและพัฒนาหลักสูตร. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
จิณหธาน์ อุปาทัง. (2551). การศึกษาการดำเนินงานนิเทศภายในของโรงเรียนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานคร. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานิเทศการศึกษาและพัฒนาหลักสูตร. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชุมศักดิ์ อินทร์รักษ์. (2551). การบริหารและการนิเทศภายในโรงเรียน (พิมพ์ครั้งที่ 5). ปัตตานี: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ณัฐพงศ์ ทับสุลิ. (2559). การพัฒนาระบบการนิเทศภายในโดยใช้ทีมงานเป็นฐานสำหรับโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการนิเทศการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์. (2554). ทักษะแห่งอนาคต:การศึกษาในศตวรรษที่ 21. เรียกใช้เมื่อ 21 กรกฎาคม 2562 จาก http://thaipublica.org/2014/10/prasert-thaissf-education-reform/
พิชิต ฤทธิ์จรูญ และคณะ. (2552). สภาพปัญหาและแนวทางแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอนที่ส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
พุทธชาด แสนอุบล. (2561). ศึกษาสภาพ ปัญหา และแนวทางการปรับปรุงการนิเทศภายในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยบูรพา.
รัตนา ดวงแก้ว. (2554). การสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับการนิเทศการเรียนการสอนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาศึกษาศาสตร์. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร: ตถาตาพับลิเคชั่น.
ศักดิ์ชัย ภู่เจริญ. (2558). ภาวะผู้นำของผู้บริหาร. นครราชสีมา: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.
ศูนย์ประกันคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. (2557). ชุมชนเรียนรู้ของครูเพื่อศิษย์. เรียกใช้เมื่อ 9 สิงหาคม 2562 จาก http://www2.it.kmutnb.ac.th/FileDL/113255718192.pdf
สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2551). แนวทางการทำมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา. (2552). ข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการจัดการศึกษา 3 ระดับ. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2555). การประเมินศักยภาพและความพร้อมของสถานศึกษาขั้นฐานเพื่อรองรับการกระจายอำนาจการจัดการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อธิศ ไชยคิรินทร์. (2562). การพัฒนารูปแบบการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับโรงเรียนมัธยมศึกษา. ใน ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการนิเทศการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Acheson, K., & Gall, M. (2003). Clinical supervision and teacher development: Preservice and inservice applications (5th ed.). New York: John Wiley & Sons.
Beach, D.M., & Reinhartz, J. (2000). Supervisory leadership: Focus on instruction. Boston: Allyn and Bacon.
Cogan, Morris L. (1972). Clinical supervision. Boston: Houghton Mifflin.
DuFour, R., & Mattos, M. (2013). How do principals really improve schools? Educational Leadership, 70(7), 34 - 40.
Eye, Glen G., & Netzer, Lanore A. (1965). Supervision of instruction: a phase of administration. New York: Harper & Row.
Glickman, C.D., Gordon, S.P. & Ross-Gordon, J.M. (2013). Supervision and instructional leadership: A developmental approach. (9th ed.). Mass: Pearson Education.
Harris, Ben M. (1985). Supervisory behavior in education. (3nd ed.). Englewood Cliffs: Prentice-Hall.
Hord, Shirley M. (1997). Professional Learning Communities: Communities of Continuous Inquiry and Improvement. Austin: Southwest Educational Development Laboratory.
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.
Stoll, L. et al. (2006). Professional learning communities: A review of the literature. Journal of Education Change, 7(4), 221 - 258.




