การสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อแก้ไขปัญหาหลักการใช้ภาษาไทยของนักเรียนไทยเชื้อสายคะฉิ่นในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

ผู้แต่ง

  • ณัฏฐ์ฤทัย อรุณศิโรจน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
  • เฉลิมชัย ไชยชมภู มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

คำสำคัญ:

ภาษาคะฉิ่น, วากยสัมพันธ์ภาษาคะฉิ่น, วากยสัมพันธ์ภาษาไทย, บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

บทคัดย่อ

          บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบต่างระบบวากยสัมพันธ์ระหว่างภาษาคะฉิ่นและภาษาไทยในระดับวลี อนุพากย์ และประโยค โดยใช้ทฤษฎีแทคมีมิก (Tagmemic)  2) สร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องหลักการใช้ภาษาไทยสำหรับนักเรียนไทยเชื้อสาย คะฉิ่นระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และ 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในเรื่องหลักการใช้ภาษาไทยของนักเรียนก่อนและหลังเรียนการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนไทยเชื้อสายคะฉิ่นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนบ้านหนองเขียว จำนวน 52 คน และโรงเรียนอรุโณทัยจำนวน 39 คน ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่โดยการสุ่มแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องหลักการใช้ภาษาไทย และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์แบบเรียงลำดับจำนวน 50 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าทีของกลุ่มตัวอย่างไม่อิสระ (t - test for Dependent Sample) ผลการวิจัยพบความแตกต่างทางด้านโครงสร้างวากยสัมพันธ์ของทั้งสองภาษาในระดับโครงสร้างวลี อนุพากย์และประโยค นอกจากนั้นคะแนนระหว่างเรียนจากการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เท่ากับ 13,673 คิดเป็นร้อยละ 83.47 และคะแนนหลังเรียนหลังจากการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เท่ากับ 3,696 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81.23 ดังนั้นประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในครั้งนี้มีประสิทธิภาพเท่ากับ (E1/E2) 83.47/81.23 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนจากการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ  ที่ระดับ .01 โดยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 40.62 และ 23.13 ตามลำดับ

เอกสารอ้างอิง

คะนึงนิตย์ จันทุรัตน์. (2554). ภาษาศาสตร์ประยุกต์ในการเรียนรู้ภาษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

ชวลิต เข่งทอง. (2560). เอกสารประกอบการบรรยายเรื่อง สื่อการเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร: สำนักพัฒนาเทคนิค ศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.

ณัฐริน เจริญเกียรติบวร และมัทนา วังถนอมศักดิ์. (2560). คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการทำงานของคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (ทวีวัฒนา) ในพระราชูปถัมภ์ฯ. Veridian E-Journal,Silpakorn University (Humanities, Social Sciences and arts), 10(2), 2088 - 2100.

ปัทมา โตอดิเทพย์. (2550). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องคำควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

พิมพ์พัชร พรสวรรค์. (2552). การพัฒนาสื่อการเรียนรู้เชิงวัตถุรูปแบบจำลองสถานการณ์ในการเรียนวิชาวิทยาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.

พีรวัฒน์ ชัยสุข และประวิทย์ ชัยสุข. (2560). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน สาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องชนิดของคำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารครุศาสตรปริทรรศน์, 4(3), 157 - 167.

วันดี ภิญญูมิตร์. (2552). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความพึงพอใจในการเรียนวิชาภาษาไทยเรื่องประโยคเพื่อการสื่อสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนกับนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการ. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการจัดการเรียนรู้. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.

สุชาดา โพธิสมภาพวงษ์. (2545). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อประกอบการสอนเสียงภาษาอังกฤษที่เป็นปัญหา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของโรงเรียนพระปฐมวิทยาลัย จังหวัดนครปฐม. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สุรีย์พร แข็งขันธ์. (2551). การใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลดอยหลวง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเชียงราย เขต 3. เชียงราย: มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.

Binh, D. T. (1971). A Tagmemic Comparison of the Structure of English and Vietnamese Sentences. The Hague: Mouton.

Cheung, Y. (2007). An empirical model of daily highs and lows. International Journal of Finance & Economics, 12(1), 1 - 20.

Dai, Q. & Xu, X. . (1992). Jingpo yu yufa. Beijing: Zhongyang Minzu Xueyuan Chubanshe.

Dixon, R. M. W. (2004). The small adjective class in Jarawara’, pp. 177-98 of Adjective classes: a cross-linguistic typology, edited by R. M. W. Dixon and A. Y. Aikhenvald. Oxford: Oxford University Press.

Kenneth, P. (1967). Language in relation to a unified theory of the structure of human behavior. In Janua Linguarum, Series Maior Vol. 32. Mouton.

Kurabe, K. (2012). Jingpho Dialogue Texts with Grammatical Notes. Asian and African Language and Linguistics, 7(2012), 121 - 153.

Lado, R. (1964). Language teaching: A scientific approach. New York: McGraw-Hill.

Noss, R. B. . (1964). Thai Reference Grammar. Washington: Foreign Service Institute, Department of State, United States Government.

Saville-Troike, M. (2003). Introducing Second Language Acquisition. Cambridge: Cambridge University Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

10/15/2020

รูปแบบการอ้างอิง

อรุณศิโรจน์ ณ. ., & ไชยชมภู เ. . (2020). การสร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อแก้ไขปัญหาหลักการใช้ภาษาไทยของนักเรียนไทยเชื้อสายคะฉิ่นในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 5(10), 347–363. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/245255

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย