การพัฒนารูปแบบการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิงเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพทางด้านร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุ ในชุมชนที่มีอาการปวดข้อเข่า
คำสำคัญ:
การออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิง, สมรรถภาพทางกาย, สมรรถภาพทางใจ, ข้อเข่าเสื่อมบทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบและประเมินคุณภาพของรูปแบบการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิงเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพทางด้านร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุในชุมชนที่มีอาการปวดข้อเข่า โดยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ประกอบด้วย ระยะที่ 1 พัฒนารูปแบบการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิง ได้แก่ 1) สำรวจสถานการณ์ปัญหาโรคข้อเข่าเสื่อมของผู้สูงอายุในพื้นที่ที่ดำเนินการวิจัย 2) ศึกษาแนวคิดการส่งเสริมสมรรถภาพทางด้านร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุโดยการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิง 3) สนทนากลุ่มกับชุมชน ร่วมกันวิเคราะห์สาเหตุปัญหา ผลกระทบของโรคข้อเข่าเสื่อม และความต้องการของชุมชนในป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิง 4) ร่างรูปแบบการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิง ระยะที่ 2 ประเมินคุณภาพของรูปแบบ โดยทดลองใช้กับผู้สูงอายุที่ปวดข้อเข่าเรื้อรัง 10 คน เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ๆ ละ 3 วัน ๆ ละ 50 - 60 นาที เปรียบเทียบน้ำหนักตัว ชีพจร ความดันโลหิต ระดับความเจ็บปวด และสมรรถภาพทางด้านร่างกายและจิตใจก่อนและหลังทดลองออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิง โดยสถิติ Dependent t - test ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิง ประกอบด้วย 3 ช่วง ได้แก่ ช่วงอบอุ่นร่างกาย 18 ท่า ช่วงรำ 16 ท่า ช่วงผ่อนคลาย 12 ท่า ใช้เวลาทั้งหมด 50 - 60 นาทีต่อครั้ง และไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p - value>0.05) ของน้ำหนักตัว ชีพจร ความดันโลหิต ระดับความเจ็บปวด และสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจของกลุ่มตัวอย่างก่อนและหลังการออกกำลังกายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิงโดยรวมในระดับมากที่สุด ( = 4.74, SD. = 0.17)
เอกสารอ้างอิง
กลุ่มฟื้นฟูสมรรถภาพสมอง (Train the Brain Forum Thailand). (2537). แบบวัดความซึมเศร้าในผู้สูงอายุไทย (Thai Geriatric Depression Scale: TGDS). สารศิริราช, 46(1), 1 - 9.
ฉลาด จันทรสมบัติ. (2554). การมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น. (พิมพ์ครั้งที่ 3). มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
พุทธิพงษ์ พลคำฮัก และคณะ. (2559). การพัฒนาการทดสอบลุกยืน 3 ครั้งแล้วเดินเพื่อใช้ทำนายความเสี่ยงต่อการล้มในผู้สูงอายุไทยในชุมชน. วารสารกายภาพบำบัด, 38(2), 48 - 58.
ไพรัช โกศัลย์พิพัฒน์. (2552). การพัฒนารูปแบบการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิงเพื่อส่งเสริมภาวะสุขภาพและสุขสมรรถนะของสตรีผู้สูงอายุ. ใน ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาพลศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รังสิยา นารินทร์ และคณะ. (2558). การพัฒนาโปรแกรมดูแลผู้สูงอายุข้อเข่าเสื่อมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน. พยาบาลสาร, 42(3), 170 - 181.
วรรณดี สุทธิวรากร. (2556). การวิจัยเชิงปฏิบัติการ: การวิจัยเพื่อเสรีภาพและการสรรค์สร้าง. กรุงเทพมหานคร: สยามปริทัศน์.
วิลาวัลย์ ตันติพงศ์วิวัฒน์. (2553). ผลการออกกำลังกายแบบโนราบิคต่อความดันโลหิตและสมรรถภาคทางกายของผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง. ใน วิทยานิพนธ์พยาบาล ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ศุภาพร รัตนสิริ และคณะ. (2552). ผลของการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิงต่อสมรรถภาพทางกายในผู้สูงอายุ. วารสารพยาบาลสาร, 36(4), 21 - 34.
สนั่น ธรรมธิ. (2544). ฟ้อนเชิง สืบสานภูมิปัญญาล้านนา. (พิมพ์ครั้งที 1). เชียงใหม่: สันติภาพการพิมพ์.
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2560). บอร์ดสปสช.ออกแนวปฏิบัติผ่าข้อเข่าเสื่อม กระจายอำนาจให้เขตช่วยผู้ป่วยเข้าถึงการรักษา. เรียกใช้เมื่อ 26 มิถุนายน 2561 จาก https://www.nhso.go.th/frontend/NewsInformationDetail.aspxnewsid=MjA0OQ==
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวง สาธารณสุข. (2558). สาระสุขภาพ (อินเตอร์เน็ต). เรียกใช้เมื่อ 7 พฤศจิกายน 2561 จาก http://wops.moph.go.th/ops/thp/thp/userfiles/file/Issue%2024_58.pdf.
แสงอรุณ ดังก้อง. (2560). กายภาพบำบัดในผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม. เวชบันทึกศิริราช, 10(2), 115 - 121.
อรพิน จุลมุสิ. (2551). ผลของการออกกำลังกายแบบฟ้อนเจิง มช. ต่อความดันโลหิตในผู้สูงอายุโรคความดันโลหิตสูง. พยาบาลสาร, 36(4), 46 - 58.
Agency for Healthcare Research and Quality (AHRQ). (2017). Treatment of osteoarthritis of knee: An update review. Retrieved June 27, 2018, from https://effectivehealthcare.ahrq.gov/sites/default/files/pdf/osteoarthritisknee-update_research-2017.pdf
American College of Sports Medicine. (2006). ACSM’guidelines for exercise testing and prescription. (7th ed.). Philadelphia: Lippincott Williams & Wilkins.
Bhatia, D. et al. (2013). Current interventions in the management of knee osteoarthritis. Journal of pharmacy & bioallied sciences, 5(1), 30 - 38.
Department of Health, Ministry of Public Health. (2015). Elderly health record. Bangkok: Suan Sunandha Rajabhat University.
Douka, S. et al. (2019). Traditional dance improves the physical fitness and well-being of the elderly. Aging Neuroscience, 11(2019), 1 - 9.
Edge, R. & Farrah, K. (2017). Exercise for the management of knee osteoarthritis: A review of clinical effectiveness. Retrieved June 25, 2018, from https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK525040/
Graneheim, UH. & Lundman, B. (2004). Qualitative content analysis in nursing research: Concepts, procedures and measures to achieve trustworthiness. Nurse Education Today, 24(2), 105 - 112.
Guralnik, J. M. et al. (1994). A short physical performance battery assessing lower extremity function: Association with self-reported disability and prediction of mortality and nursing home admission. Journal of Gerontology, 49(2), M85 - M94.
Hsu, H. & Siwiec, R. M. (2020). Knee Osteoarthritis. Retrieved June 13, 2018, from https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK507884/
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607 - 610.
Loeser, R. F. (2017). The role of aging in the development of osteoarthritis. Transactions of the American Clinical and Climatological Association, 128(2017), 44 - 54.
Nik Shafii, N. et al. (2018). Traditional and complementary medicine use in knee osteoarthritis and its associated factors among patients in northeast peninsular Malaysia. Oman Medical Journal, 33(2), 148 - 153.
Reid, M. C. (2015). Management of chronic pain in older adults. Retrieved June 23, 2018, from https://www.bmj.com/content/350/bmj.h532/rapid-responses
Steinmeyer, J. et al. (2018). Pharmacological treatment of knee osteoarthritis: Special considerations of the new German guideline. Orthopedic reviews, 10(4), 77 - 82.
Tan, G. et al. (2004). Validation of the Brief Pain Inventory for chronic nonmalignant pain. The Journal of Pain: Official Journal of the American Pain Society, 5(2), 133 - 137.
Zhang, W. et al. (2019). Emerging trend in the pharmacotherapy of osteoarthritis. Frontiers in Endocrinology, 10(2019), 431 - 432.




