การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะหมอน้อยด้านสุขภาพวัยเรียน ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
คำสำคัญ:
การพัฒนาโปรแกรม, สมรรถนะ, หมอน้อย, สุขภาพวัยเรียนบทคัดย่อ
บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบของโปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะหมอน้อยด้านสุขภาพวัยเรียน 2) พัฒนาโปรแกรม 3) ประเมินประสิทธิผลโปรแกรม โดยใช้ระเบียบวิจัย การวิจัยและพัฒนา ดำเนินการวิจัย 3 ระยะคือ ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบของโปรแกรม ระยะที่ 2 พัฒนาโปรแกรม ระยะที่ 3 ประเมินประสิทธิผลการใช้โปรแกรม กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้นำนักเรียนส่งเสริมสุขภาพ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 1 จังหวัดกระบี่ ปีการศึกษา 2561 จำนวน 41 คน โดยวิธีเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสังเคราะห์เอกสาร แบบสอบถาม แบบทดสอบความรู้ แบบประเมินทักษะการปฏิบัติงาน แบบประเมินเจตคติ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัย พบว่า องค์ประกอบสำคัญของโปรแกรมมี 5 ส่วน คือ 1) หลักการและเหตุผล 2) จุดมุ่งหมายของโปรแกรม 3) โครงสร้างเนื้อหา 4) กิจกรรมการฝึกอบรม 5) การวัดและประเมินผล องค์ประกอบของสมรรถนะหมอน้อย ได้แก่ ความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และ เจตคติ องค์ประกอบการเสริมสร้างสุขภาพ ประกอบด้วย 1) ด้านโภชนาการ 2) ด้านทันตสุขภาพ 3) ด้านกิจกรรมทางกาย และ 4) ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน การพัฒนาโปรแกรมมี 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1) การสร้างรายละเอียดโปรแกรม 2) การตรวจสอบร่างโปรแกรม 3) การปรับปรุงโปรแกรม 4) การจัดทำคู่มือโปรแกรม และ 5) การทดลองใช้โปรแกรม ได้รับการประเมินความเหมาะสมโดยผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ อยู่ในระดับมากที่สุด และมีความสอดคล้องในทุกประเด็น การประเมินประสิทธิผลพบว่า คะแนนความรู้ความเข้าใจหลังฝึกอบรมสูงกว่าก่อนฝึกอบรม คะแนนทักษะการปฏิบัติงาน อยู่ในระดับดีมาก เจตคติ อยู่ในระดับดีมากที่สุด ด้านความรู้ความเข้าใจ หลังฝึกอบรมกับหลังฝึกอบรม 1 เดือน ไม่แตกต่างกัน และผลการปฏิบัติงานหลังฝึกอบรม 1 เดือน อยู่ในระดับดีมาก
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงสาธารณสุข. (2560). แผนยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561. นนทบุรี: สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข.
ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2557). การพัฒนาหลักสูตร ทฤษฎีสู่การปฏิบัติ. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: วีพรินท์.
ชูชัย สมิทธิไกร. (2554). การฝึกอบรมบุคลากรในองค์การ. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอน. (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
นิรมล ศตวุฒิ. (2551). การพัฒนาหลักสูตร Curriculum Development. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
โรงพยาบาลคำชะอี. (2556). สรุปผลการติดตามนิเทศงานโรงเรียนส่งเสริมสุขภาพ. มุกดาหาร: โรงพยาบาลคำชะอี.
วรรณภา ศรีธัญรัตน์ และคณะ. (2555). สร้างเสริมสุขภาพองค์รวม สู่สุขภาวะสังคม. ขอนแก่น: โรงพิมพ์คลังนานาวิทยา.
วาโร เพ็งสวัสดิ์. (2551). วิธีวิทยาการวิจัย. กรุงเทพมหานคร: สุวีรียาสาส์น.
วิมล โรมา และคณะ. (2561). การสำรวจความรอบรู้ด้านสุขภาพของประชาชนไน อายุ 15 ปี ขึ้นไป พ.ศ. 2560 (ระยะที่ 1). นนทบุรี: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข.
สมชาย สังข์สี. (2550). หลักสูตรฝึกอบรมการพัฒนามาตรฐานการศึกษาด้านผู้เรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. ใน ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สายสุนีย์ กลางประพันธ์. (2558). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมผู้นำนักเรียนส่งเสริมสุขภาพในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาตรมหาบัณฑิต สาขานวัตกรรมการบริการการศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศ ไทย จำกัด.
อภิสิทธิ์ คุณวรปัญญา และคำรณ โชธนะโชติ. (2556). การประเมินผลหลักสูตรฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับการ วิจัยทางสังคมศาสตร์. วารสารการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย, 1(1), 49-59.
Guskey, T. R. (2000). Evaluating professional development. Thousand Oaks: CA Corwin Press.
Saylor, J.G. & Alexander, W.M. (1976). Planning Curriculum for School. New York: Holt, Rinerhart and Winston.
Taba. H. (1992). Curriculum Development: Theory and Practice. New York: Harcourt, Brace and world.
Tyler. RW. (1971). Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicaco: The University of Chicaco Press.




