ผลของโปรแกรมการปรึกษาแบบกลุ่มต่อความสามารถในการปรับตัวของผู้ปกครองเด็กสมาธิสั้น
คำสำคัญ:
โปรแกรมการปรึกษาแบบกลุ่ม, การปรับตัว, ผู้ปกครองเด็กสมาธิสั้นบทคัดย่อ
บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปฏิสัมพันธ์ระหว่างโปรแกรมการปรึกษาแบบกลุ่มและระยะการทดลองที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการปรับตัว และเปรียบเทียบผลของโปรแกรมการปรึกษาแบบกลุ่มต่อความสามารถในการปรับตัวของผู้ปกครองเด็กสมาธิสั้นในระยะก่อนการทดลอง ระยะหลังการทดลอง และระยะติดตามผล รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงทดลอง กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ปกครองเด็กสมาธิสั้น ในตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 16 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 8 คน กลุ่มควบคุม 8 คน เพศหญิง 13 คน เพศชาย 3 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) โปรแกรมการปรึกษาแบบกลุ่ม 2) แบบวัดความสามารถในการปรับตัวของผู้ปกครองเด็กสมาธิสั้น 3) แบบสนทนากลุ่มในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้สถิติบรรยาย ได้แก่ ค่ามัชฌิมเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์จากบทสนทนาของผู้ปกครองในการสนทนากลุ่ม ผลการศึกษาพบว่า 1) ผู้ปกครองกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการปรับตัวสูงขึ้นในระยะหลังทดลอง และระยะติดตามผล ตามลำดับ ส่วนผู้ปกครองกลุ่มควบคุมมีคะแนนเฉลี่ยความสามารถในการปรับตัวเท่าเดิม 2) ผู้ปกครองเด็กสมาธิสั้นในกลุ่มทดลองมี ความต้องการบริการการปรึกษาทั้งในระยะก่อนการทดลอง หลังทดลอง และระยะติดตามผล โดยผู้ปกครองเด็กสมาธิสั้นมีปฏิสัมพันธ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ร่วมกัน ได้เรียนรู้เข้าใจตนเองและผู้อื่น ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนของโปรแกรมการปรึกษาแบบกลุ่มที่ช่วยเอื้ออำนวยให้เกิดความเข้าใจตนเองและนำไปสู่การเข้าใจผู้อื่นด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลไปสู่การพัฒนาตนเองทำให้ผู้ปกครองเด็กสมาธิสั้นสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสมและดำเนินชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เอกสารอ้างอิง
ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน และคณะ. (2556). ความชุกของโรคสมาธิสั้นในประเทศไทย. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศ ไทย, 22(2), 66-75.
สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต จังหวัดเชียงใหม่. (2560). แบบรายงานการตรวจราชการระดับจังหวัด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 คณะที่ 2 การพัฒนาระบบบริการ : สาขาสุขภาพจิตและจิตเวช เขตสุขภาพที่ 1 รอบที่ 1 วันที่ 16 มกราคม - 22 กุมภาพันธ์ 2560. เชียงใหม่: สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต.
Chongruksa, D. et. al. (2012). Efficacy of eclectic group counseling in addressing stress among Thai police officers in terrorist situations. Counselling Psychology Quarterly, 25(3), 83–96.
Corey, G. . (2009). Theory and Practice of Counseling & Psychotherapy. (8th ed.). CA: Belmont.
Cross, S. E. et. al. (2000). The relational-interdependent self-construal and relationships. Journal of Personality and Social Psychology, 78(4), 791-808.
Ilkhchi, S. V. et. al. (2011). The effectiveness of Cognitive Behavioral Group Therapy on self-efficacy and assertiveness among anxious female students of high schools. Procedia -Social and Behavioral Sciences, 30(2011), 2586 – 2591.
Rogers, C. R. (1951). Client-centered therapy: Its current practice, implications, and theory. Boston: Houghton Mifflin.
Sarnphusit, S. (2015). Emotional Stability Development of Adolescents from Single-parent Families by Short-term Solution-oriented Group Theory. In thesis Master of Science Department of Counseling Psychology. Burapha University (in Thai).
SHoaakazemia, M. et. al. (2014). The Effect of Cognitive Behavioral Therapy on reduction of obsessive-compulsive disorder symptoms in girl students. Procedia -Social and Behavioral Sciences, 159(2014), 738 – 742.
Stollberg, R. J. (1956). eaching Critical Thinking, Part 1: Are we Making Critical Mistakes. Phi Delta Kappan, 67(3), 194 – 197.
Wood, A. M. et. al. (2009). Gratitude predicts psychological well-being above the Big Five facets. Personality and Individual Differences, 46(4), 389-566.




