ปัจจัยส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการปรับตัวของสตรีที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะตั้งครรภ์

ผู้แต่ง

  • อัจฉโรบล แสงประเสริฐ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์
  • สุดกัญญา ปานเจริญ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์

คำสำคัญ:

ภาวะแทรกซ้อนในระยะตั้งครรภ์, พฤติกรรมการปรับตัว, ปัจจัยส่วนบุคคล

บทคัดย่อ

          บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพสมรส รายได้ของครอบครัว ผู้ดูแลสตรีตั้งครรภ์ ของสตรีที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะตั้งครรภ์ 2) ศึกษาพฤติกรรมการปรับตัวของสตรีที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะตั้งครรภ์ 3) ศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการปรับตัวของสตรีที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะตั้งครรภ์ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ สตรีที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะตั้งครรภ์ ที่มาฝากครรภ์ในโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ระหว่างเดือน กรกฎาคม 2563 ถึง เดือน ตุลาคม 2563 จำนวน 100 ราย โดยวิธีสุ่มอย่างเป็นระบบ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามปัจจัยส่วนบุคคล แบบสอบถามพฤติกรรมการปรับตัว วิเคราะห์ข้อมูล โดยสถิติพรรณนา สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน การทดสอบไคสแควร์ ผลการวิจัย พบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ อายุ 20 - 35ปี (ร้อยละ 56) จบระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ร้อยละ 38) สถานภาพสมรสคู่ (ร้อยละ 60) รายได้ของครอบครัวอยู่ในช่วง 5,001 - 10,000 บาท (ร้อยละ 60) ผู้ดูแลหลักขณะตั้งครรภ์ คู่สมรส (ร้อยละ 58) 2) พฤติกรรมการปรับตัว โดยรวมอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{x} = 3.86, S.D. = 0.55) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านร่างกาย ด้านบทบาท ด้านพึ่งพา ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (gif.latex?\bar{x} = 3.87, S.D. = 0.64, gif.latex?\bar{x} = 4.17, S.D. = 0.67, gif.latex?\bar{x}  4.22, S.D. = 0.51) และด้านอัตมโนทัศน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (gif.latex?\bar{x} = 3.19, S.D. = 0.52) 3) ค่าความสัมพันธ์ พบว่า ระดับการศึกษา, สถานภาพสมรส, ผู้ดูแลสตรีตั้งครรภ์ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการปรับตัว (χ2 = 15.124, 15.405 และ12.437, p < .01) อายุ, รายได้ของครอบครัว มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมการปรับตัว (r = .491 และ .265, p < .01)

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงสาธารณสุข. (2562). สถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข. เรียกใช้เมื่อ 5 กรกฎาคม 2563 จาก http://healthkpi.moph.go.th/kpi2/kpi/index/?id=1409

กิ่งดาว แสงจินดา. (2559). ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพัฒนกิจการเป็นมารดาของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่นที่ ตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ. ใน วิทยานิพนธ์คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาผดุงครรภ์ชั้นสูง. มหาวิทยาลัย บูรพา.

กุสุมา หมวกมณี และมาลี ลิ่มสกุล. (2563). การปรับตัวของแม่วัยรุ่นต่อบทบาทความเป็นแม่ศึกษาเฉพาะกรณีคลินิกรักษ์ดรุณ โรงพยาบาลสุราษฏร์ธานี. วารสารสังคมสงเคราะห์ศาสตร์, 28(2), 60-85.

คณะกรรมการอำนวยการจัดทำแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12 กระทรวงสาธารณสุข. (2559). แผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564). เรียกใช้เมื่อ 20 ธันวาคม 2562 จาก http://wops.moph.go.th/ops/oic/data/2018091 4162453_1_pdf

คนึงสุข ภู่พิสุทธิ์. (2556). ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสุขภาพสตรีตั้งครรภ์. กรุงเทพมหานคร: ธนาเพรส.

จิตตระการ ศุกร์ดีและศิวิไลซ์ วนรัตน์วิจิตร. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กของ สตรีตั้งครรภ์ที่รับบริการฝากครรภ์ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สุขภาพ, 10(1), 1-7.

นันทพร แสนศิริพันธ์ และฉวี เบาทรวง. (2561). การพยาบาลและการผดุงครรภ์ : สตรีที่มีภาวะแทรกซ้อน. เชียงใหม่: บริษัท สมาร์ทโคตติ้ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด.

บุนนาค พวงทอง. (2558). ปัจจัยส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการปรับตัวของหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในจังหวัดสุโขทัย. ใน วิทยานิพนธ์คณะพยาบาลศาสตร์ สาขาวิชาเวชปฏิบัติชุมชน. มหาวิทยาลัยนเรศวร.

บุนนาค พวงทอง และคณะ. (2560). ปัจจัยส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการปรับตัวของหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กในจังหวัดสุโขทัย. วารสารพยาบาลและสุขภาพ, 11(1), 16-27.

ประคอง กรรณสูต. (2554). สถิติศาสตร์ประยุกต์. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.

ปัญญา สนั่นพานิชกุล และยศพล เหลืองโสมนภา. (2558). การตั้งครรภ์ในหญิงวัยรุ่น: ปัจจัยทางด้านมารดาที่มีผลต่อทารก. วารสารศูนย์การศึกษาแพทย์ศาสตร์คลินิก โรงพยาบาลพระปกเกล้า, 32(2), 156-174.

พิมพ์ศิริ พรหมใจษา. (2557). ผลของการส่งเสริมการสนับสนุนทางสังคมต่อบทบาทการเป็นมารดาในสตรีตั้งครรภ์วัยรุ่น. พยาบาลสาร, 41(2), 97-106.

มาลีวัล เลิศสาครศิริ. (2560). แนวคิดและการพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะแทรกซ้อน. (ปรับปรุงใหม่). กรุงเทพมหานคคร: โรงพิมพ์อัสสัมชัน.

รัตนาภรณ์ ตามเที่ยงตรง. (2560). ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพด้านโภชนาการของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 25(1). 49-60.

โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์. (2563). สถิติแผนกฝากครรภ์ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์. นครสวรรค์: โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์.

วิชชุลดา พุทธิศาวงศ์ และคณะ. (2560). ผลของโปรแกรมส่งเสริมการรับรู้ความสามารถของตนเองร่วมกับการสนับสนุนจากสามีต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารของหญิงตั้งครรภ์วัยรุ่น. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 9(3),12-24.

Lowdermilk, D. L. et al. (2016). Maternity & Women,s Health Care. (11th edition). New York: Elsevier.

Perry, S. E. et al. (2014). Maternal Child Nursing Care. (5th ed.). Canada: Elsevier.

Pillitteri, A. (2014). Maternal & child health nursing: care of the childbearing & childbearing Family. (7th ed). New York: Lippincott Williams & Wilkins.

Roy, C. et al. (2009). The Roy Adaptation Model and Research: Global Perspective. Nursing Science Quarterly, 22(3):209-211.

Thorndike, R. M. (1978). Correlational procedures for research. New York: Gardner.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

09/11/2021

รูปแบบการอ้างอิง

แสงประเสริฐ อ., & ปานเจริญ ส. . (2021). ปัจจัยส่วนบุคคลที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการปรับตัวของสตรีที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะตั้งครรภ์. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(9), 396–409. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/247622

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย