พฤติกรรมข่มเหงรังแกบนโลกไซเบอร์และปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ของนักเรียนมัธยมในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
คำสำคัญ:
นักเรียนมัธยม, พฤติกรรมข่มเหงรังแก, โลกไซเบอร์บทคัดย่อ
บทความฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมข่มเหงรังแกบนโลกไซเบอร์และปัจจัยที่เกี่ยวข้องของนักเรียนมัธยมในเขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เป็นงานวิจัยเชิงพรรณนา เก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 450 คน เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยวิธีการสุ่มแบบชั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบบันทึกข้อมูลทั่วไป 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการข่มเหงรังแกบนโลกไซเบอร์ และ 3) แบบสอบถามปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกิดพฤติกรรมการข่มเหงรังแกบนโลกไซเบอร์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนมัธยมมีพฤติกรรมการข่มเหงรังแกบนโลกไซเบอร์ในด้านการนินทาหรือด่าทอผู้อื่นบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่ระดับคะแนน 1.77 และด้านการลบหรือการบล็อกผู้อื่นที่ไม่ชอบออกจากกลุ่มบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ที่ระดับคะแนน 1.50 แปลผล คือ เคยมีพฤติกรรมนั้นนาน ๆ ครั้ง (1.50 – 2.50) ปัจจัยด้านอิทธิพลความรุนแรงจากพ่อหรือแม่สัมพันธ์กับพฤติกรรมข่มเหงรังแกบนโลกไซเบอร์ทุกด้าน ได้แก่ ด้านการนินทาหรือด่าทอผู้อื่น (r = .226) ด้านการหมิ่นประมาทผู้อื่น (r = .136) ด้านการแอบอ้างชื่อผู้อื่นในด้านลบ (r = .119) ด้านการนำความลับที่เป็นข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลของผู้อื่นไปเปิดเผย (r = .225) และด้านการลบหรือบล็อกผู้อื่นที่ไม่ชอบออกจากลุ่ม (r = .128) ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ .01 ดังนั้นปัญหาการข่มเหงรังแกบนโลกไซเบอร์ของนักเรียนมัธยมจึงยังเป็นปัญหาสำคัญที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง จึงควรสอดแทรกแนวทางการป้องกันการข่มเหงรังแกบนโลกไซเบอร์และการลดความรุนแรงในครอบครัวในหลักสูตรสำหรับนักเรียนมัธยม
เอกสารอ้างอิง
กรมสุขภาพจิต. (2561). อย่าปล่อยให้เด็กถูกกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ (Cyber Bulling). เรียกใช้เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2563 จาก https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=28079
ชุตินาถ ศักรินทร์กุล และอลิสา วัชระสินธุ. (2557). ความชุกของการข่มเหงรังแกและปัจจัยด้านจิตสังคมที่เกี่ยวข้องในเด็กมัธยมต้น เขตอำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 59(3), 221-230.
ธันยากร ตุดเกื้อ. (2557). การพัฒนาตัวบ่งชี้พฤติกรรมการรังแกบนโลกไซเบอร์ของเยาวชนในจังหวัดสงขลา. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนามนุษย์และสังคม. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ธันยากร ตุดเกื้อ และคณะ. (2562). การศึกษาสภาพปัญหาและสาเหตุของพฤติกรรมการรังแกบนโลกไซเบอร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้. วารสารปาริชาต มหาวิทยาลัยทักษิณ, 32(2), 157-167.
ธันยากร ตุดเกื้อ และมาลี สบายยิ่ง. (2560). รูปแบบ ผลกระทบ และวิธีการจัดการเมื่อถูกรังแกบนโลกไซเบอร์ของนักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในภาคใต้ของประเทศไทย. วารสารพฤติกรรมศาสตร์เพื่อการพัฒนา, 9(2), 220 – 236.
พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560. (2560). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 10 ก หน้า 24 (24 มกราคม 2560).
พัชราภรณ์ ศรีสวัสดิ์ และคณะ. (2561). การพัฒนารูปแบบการป้องกันการข่มเหงรังแกในโรงเรียน. E-Journal Silpakorn, 11(1), 3653-3667.
พัชรี บอนคำ. (2560). เตือนสติเยาวชนมีสติ อย่าหลงเลียนแบบคนไม่ดีในสื่อโซเชียล. เรียกใช้เมื่อ 1 ธันวาคม 2563 จาก https://www.thaihealth.or.th/Content/37074- เตือนเยาวชนมีสติ%20 อย่าหลงเลียนแบบคนไม่ดีในสื่อโซเชียล.html.html
พิมพาภรณ์ กลั่นกลิ่น. (2563). การสร้างเสริมสุขภาพเด็กและวัยรุ่น ใน พิมพาภรณ์ กลั่นกลิ่น การพยาบาลเด็กและวัยรุ่น (หน้า 163). เชียงใหม่: สมาร์ทโคตรติ้งแอนด์เซอร์วิส.
ฤทัยชนนี สิทธิชัย และ ธันยากร ตุดเกื้อ. (2560). พฤติกรรมการรังแกบนโลกไซเบอร์ของเยาวชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้. วารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 28(1), 86-99.
ศศิประภา เกษสุพรรณ และคณะ. (2563). การกลั่นแกล้งทางอินเตอร์เน็ต: การวัด การจัดกลุ่ม และความแตกต่างระหว่างเพศของนิสิตระดับประญญาตรี. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม, 15(2), 397 – 408.
สกล วรเจริญศรี. (2559). การข่มเหงรังแก. เรียกใช้เมื่อ 1 ธันวาคม 2563 จาก http://ejournals.swu.ac.th/index.php/ENEDU/article/download/7818/7057
สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต. (2561). คู่มือปฏิบัติสำหรับการดำเนินการป้องกันและจัดการการรังแกกันในโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร: บียอนด์ พับลิสชิ่ง จำกัด.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2561). การสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในครัวเรือง พ.ศ. 2561. เรียกใช้เมื่อ 1 พฤษจิกายน 2563 จาก http://www.nso. go.th/sites/2014/DocLib13/ด้านICT/เทคโนโลยีในครัวเรือน/2561/ict61-CompleteReport-Q1.pdf
สุภาวดี เจริญวานิช. (2560). การรังแกกันผ่านพื้นที่ไซเบอร์: ผลกระทบและการป้องกันในวัยรุ่น (เล่มที่ 25). วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, 25(4), 639-648.
อัญมณี หล้าหนัก และคณะ. (2563). ความสัมพันธ์ระหว่างความผูกพันกับพ่อแม่ เพื่อนและครูกับการกลั่นแกล้งบนโลไซเบอร์. วารสารสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย, 65(3), 245-256.
Annual Bullying. (2016). Survey 2016- Bullying statistics in the UK. Retrieved June 3, 2020, from https://www.ditchthelabel.org/annual-bullying-survey-2016/
Hernández, D. F. et al. (2018). A systematic Literature review of factors that Moderate bystanders’ actions in cyberbullying. Journal of Psychosocial Research on Cyberspace, 12(4), 1-19.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Nhung, L. N. A. et al. (2020). Cyber-bullying among adolescent at school. A literature review, 24(7), 9700-9712.
Nixon, C. L. (2014). Current perspectives: the impact of cyberbullying on adolescent health. Adolescent health, medicine and therapeutics, 5(2014), 143-158.
Wang, C. W. et al. (2019). I felt angry, but I couldn’t do anything about it”: a qualitative study of cyberbullying among Taiwanese high school students. BMC public health, 19(1), 654-662.




