การจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางสังคม ของนักเรียนโรงเรียนสารภีพิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
การเรียนรู้เชิงรุก, สังคม, นวัตกรรม, นวัตกรรมทางสังคมบทคัดย่อ
บทความวิจัยเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาการแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์ทางสังคมจากการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุกสำหรับนวัตกรรมทางสังคมที่สร้างสรรค์ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสารภีพิทยาคม เครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยได้แก่ 1) แบบสอบถามแนวทาง 2) แบบวัดความคิดสร้างสรรค์ 3) แบบวัดความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการใช้แบบสอบถามแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางสังคม โดยรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 3.20, S.D. = 0.74) ผลการประเมินแนวทางการการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางสังคม อยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด เมื่อนำข้อมูลแบบสอบถามแนวทางมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางสังคมมีความเหมาะสม ในการจัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน 2) ผลการศึกษาด้านทักษะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางสังคม โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.37, S.D. = 0.33) นักเรียนมีทักษะในการเรียนรู้เชิงรุกอยู่ในระดับดีมาก ซึ่งนักเรียนมีทักษะในการเตรียมงานวางแผนทำงานร่วมกับกลุ่มเพื่อน โดยมีการกำหนดวัตถุประสงค์ขั้นตอนวิธีการทำงานมีการปฏิบัติตามขั้นตอนการทำงานที่วางแผนไว้และมีการสรุปประเมินผลการปฏิบัติงานร่วมกัน ส่งผลให้นักเรียนส่วนใหญ่มีทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่น 3) ผลการศึกษาด้าน ความพึงพอใจของผู้เรียนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (
= 3.30, S.D. = 0.78)
เอกสารอ้างอิง
เนาวนิตย์ สงคราม. (2556). การสร้างนวัตกรรม: เปลี่ยนผู้เรียนให้เป็นผู้สร้างนวัตกรรม. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
กรมวิชาการ. (2535). ความคิดสร้างสรรค์ หลักการ ทฤษฏี การเรียนการสอนการวัดผลประเมินผล. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ครุสภา.
กรมวิชาการ. (2545). แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียน. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์พัฒนาหลักสูตรกรมวิชาการ.
ทิศนา แขมมณี. (2553). ศาสตร์การสอนองค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 12). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
วรางค์ วีระนาคินทร์. (2563). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการสอดแทรกกิจกรรมเรียนรู้เชิงรุก ในกลุ่มวิชาทางเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. สิกขา วารสารศึกษาศาสตร์, 7(1), 22-33.
ศิรพันธ์ ศิริพันธ์ และยุพาวรรณ ศรีสวัสดิ์. (2554). การจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ: วิธีการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นหลัก. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 3(1), 104-112.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. (พิมพ์ครั้งที่ 3 ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Guilford, J. P. (1968). The nature of human intelligence. New York: McGrawHill Book.
Michael, J. A. & Modell, H. l. (2003). Active Learning in Secondary and College Science Classrooms: A Working Model for Helping the Learner to Learn. Mahwah, NJ.: Lawrence Erlbaum Associates.
Panich, V. (2012). A Way to Create Learning for Students in the 21st century. Bangkok: Sodsri - Saritwong Foundation in Thai.




