การพัฒนาโปรแกรมการใช้เวลาว่างเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของผู้สูงอายุ
คำสำคัญ:
โปรแกรมการใช้เวลาว่าง, สุขภาวะ, ผู้สูงอายุบทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของงานวิจัยและพัฒนานี้เพื่อพัฒนาโปรแกรมการใช้เวลาว่างเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของผู้สูงอายุ และศึกษาผลของโปรแกรมการใช้เวลาว่างเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของผู้สูงอายุ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุระหว่าง 60 ปีขึ้นไป อาศัยอยู่ในจังหวัดนนทบุรี จำนวน 60 คน ที่ได้มาจากความสมัครใจ และตอบแบบประเมินสุขภาวะเพื่อคัดกรองกลุ่มตัวอย่าง และสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบจับคู่ (Match-Paired Sampling) ออกเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มละ 30 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้สำหรับการทดลองขยายผลเพื่อพัฒนาโปรแกรมการใช้เวลาว่างเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของผู้สูงอายุ จำนวน 150 คน ได้จากการสุ่มอย่างง่ายมา 5 ชมรม ชมรมละ 30 คน ได้แก่ ชมรมผู้สูงอายุบางแม่นาง ชมรมผู้สูงอายุนครนนท์ ชมรมผู้สูงอายุบางศรีเมือง
ชมรมผู้สูงอายุปากเกร็ด และชมรมผู้สูงอายุชมพูเวก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แบบสอบถามประเมิน
ความต้องการใช้เวลาว่างของผู้สูงอายุ (IOC อยู่ระหว่าง 0.86 – 1 และได้ค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นของ Cronbach เท่ากับ 0.85) 2) แบบประเมินสุขภาวะของผู้สูงอายุ (IOC อยู่ระหว่าง 0.86 – 1 และได้ค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นของ Cronbach เท่ากับ 0.91) และ 3. โปรแกรมการใช้เวลาว่างเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของผู้สูงอายุ ผ่านการตรวจค่าความเที่ยงตรงเชิงประจักษ์จากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 ท่าน มีความเหมาะสม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า: - 1) ภายหลังการเข้าร่วมโปรแกรมฯ 8 สัปดาห์ กลุ่มทดลองมีการเปลี่ยนแปลง
สุขภาวะโดยรวมดีขึ้นกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) ภายหลังการขยายผล
การใช้โปรแกรมฯ ของชมรมผู้สูงอายุ 5 ชมรม มีการเปลี่ยนแปลงสุขภาวะโดยรวมดีขึ้นกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) คู่มือการใช้โปรแกรมการใช้เวลาว่างเพื่อส่งเสริมสุขภาวะผู้สูงอายุมีความเหมาะสมมาก ( = 3.00) ที่จะนำไปประยุกต์ใช้
เอกสารอ้างอิง
ธนิษฐา ศิริรักษ์. (2562). การดูแลสุขภาพตามวัย (Health Care in Differently Age Population).
สืบค้นเมื่อ 18 มิถุนายน 2562 จาก https://meded.psu.ac.th/binlaApp/class01/388-100/Health_care_in_Differently/index.html
บรรลุ ศิริพานิช. (2549). คู่มือผู้สูงอายุฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ: หมอชาวบ้าน.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2560). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2559. นครปฐม:
บริษัท พริ้นเทอรี่ จำกัด.
ศักดิภัทร์ เฉลิมพุฒิพงศ์. (2556). การพัฒนาโปรแกรมการใช้เวลาว่างเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ. (ปริญญานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต). มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, กรุงเทพฯ
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล. (2562). ประชากรของประเทศไทย พ.ศ. 2563. สารประชากร มหาวิทยาลัยมหิดล. สืบค้นเมื่อ 28 มิถุนายน 2562 จาก http://www.ipsr.mahidol.ac.th/ipsr/Contents/Documents/Gazette/Gazette2019TH.pdf
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ. (2562). กลุ่มโรค NCDs. สืบค้นเมื่อ 18 มิถุนายน 2562 จาก https://www.thaihealth.or.th/microsite/categories/5/ncds/2/173/176-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84+NCDs.html
สำนักงานสถิติจังหวัดนนทบุรี. (2562). รายงานสถิติจังหวัดนนทบุรี พ.ศ. 2561. นนทบุรี: สำนักงานสถิติจังหวัดนนทบุรี.
สุวิมล ตั้งสัจจพจน์. (2553). นันทนาการและการใช้เวลาว่าง. กรุงเทพฯ: บริษัท เอดิสันเพรสโพรดักส์ จำกัด.
Edginton, C.R.; Hanson, C.J.; and Edginton, S. R. (1992). Leisure Programming Concepts, Trends. and Professional Practice. 2nded. Iowa: Wm. C.BrownCommnications Inc.
Krejcie, R. V.; and Morgan, D. W. (1970). “Determining Sample Size for Research Activities”. Educational and Psychological Measurement. 30: 3.
Mundy, J. (1998). Leisure Education: Theory and Practice. IL: Sagamore Publishing.
Nash, J. B. (1960). The Philosophy of Recreation and Leisure: Wm. C. Brown.




