การรักเพื่อนบ้านในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ตามทรรศนะปรัชญาหลังนวยุคสายกลาง

ผู้แต่ง

  • ศาสวัต มูลสถาน มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
  • กีรติ บุญเจือ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
  • รวิช ดาแก้ว มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา

คำสำคัญ:

คำสอน, การรักเพื่อนบ้าน, พระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่, ปรัชญาหลังนวยุคสายกลาง

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตีความการรักเพื่อนบ้านตามปรัชญาหลังนวยุค สายกลาง เป็นการวิจัยเอกสารโดยใช้วิธีวิจัยทางปรัชญาได้แก่ วิภาษวิธีระหว่างฝ่ายกระบวนทรรศน์ปรัชญานวยุคและฝ่ายกระบวนทรรศน์ปรัชญาหลังนวยุคสายกลาง ร่วมกับกระบวนการคิดไตร่ตรองเชิงวิจารณญาณเพื่อวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ ประเมินคุณค่าและการประยุกต์ใช้ การตีความเชิงปรัชญาด้วยหลักเทวรูปสี่ของฟรานซิส เบคอน ปรัชญาความสุขของอริสโตเติล ความรักสี่แบบตามภาษากรีกในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ด้วยหลักอรรถปริวรรต ผลการวิจัยพบว่า กระบวนทรรศน์นวยุคมีทรรศนะว่าการรักเพื่อนบ้านควรตีความให้มีความชัดเจนในความหมายของคำศัพท์ และใช้การตีความตามภาษาสามัญนำสู่การปฏิบัติได้อย่างเหมาะสมเพื่อนำไปสู่การแสดงการรักเพื่อนบ้านแบบ อกาเป้ที่สอดคล้องตามคำสอน แต่กระแสความคิดดังกล่าวมีจุดอ่อน นั่นคือ ยังมีความยึดมั่นถือมั่นในภาษา ในขณะที่กระบวนทรรศน์ปรัชญาหลังนวยุคสายกลางทำให้ตีความและอธิบายเรื่องการรักเพื่อนบ้านของคริสตศาสนาว่าพระเยซูไม่ได้จำกัดคำว่าเพื่อนบ้านตามความเข้าใจหรือความเคยชินหรือนิยามทั่วไปเท่านั้น แต่ยังหมายถึงคนที่ต้องการการดูแล ต้องการความรักและการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ และการรักเพื่อนบ้านนั้นควรทำต่อเพื่อนบ้านไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกล เพื่อเป็นการส่งเสริมสันติภาพตามเป้าหมายของปรัชญาหลังนวยุคสายกลาง ผลการวิจัยนี้สามารถนำไปใช้อธิบายและ เป็นแนวทางในการแสดงการรักเพื่อนบ้าน คือเป็นเพื่อนมนุษย์ ทั้งผู้ที่นับถือศาสนาเดียวกัน ต่างศาสนา ผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเราและแม้กระทั่งผู้เป็นศัตรูที่กำลังมุ่งทำร้ายเรา

เอกสารอ้างอิง

กีรติ บุญเจือ. (2560ก). ปรัชญาหลังนวยุค. กรุงเทพมหานคร: ดวงกมล.

กีรติ บุญเจือ. (2560ข). ปรัชญาอรรถปริวรรตในปรัชญา ศาสนาและจริยศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา.

จิรโชค วีระสย. (2562). ปรัชญาเชิงศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงทางสังคมวัฒนธรรมและการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์. เรียกใช้เมื่อ 28 มกราคม 2563 จาก http://www.phd. ru.ac.th. เอกสารประกอบการบรรยายวิชาขอบเขตและวิธีการศึกษา 9902

พระครูปริยัติกิจจาภิรม (กระจาย รวิวรรณโณ) และคณะ. (2563). การประยุกต์ใช้อรรถปริวรรตของพุทธทาสภิกขุในแนวทางการเสริมสร้างพหุนิยมทางศาสนาในสังคมไทยปัจจุบันเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 5(6), 68-77.

ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์. (2008). หลักการตีความหมายพระคัมภีร์และการประยุกต์ใช้อย่างถูกต้อง. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: สถาบันคริสเตียนศึกษาและพัฒนาคริสตจักร.

สมาคมพระคริสต์ธรรมไทย. (2554). พระคริสต์ธรรมคัมภีร์ ฉบับมาตรฐาน 2011. กรุงเทพมหานคร: สมาคมพระคริสต์ธรรมไทย.

Bunchua, K. (2014). 84,000 Dhamma khandhas are for school, not for educators. SSRU Graduat Studies Journal, 7(1), 1-14.

David, N. F. (1992). The Anchor Bible Dictionary volume4 K-N. New York: Doubleday.

Dodd, C. H. (1961). The parable of the kingdom. New York: Charles Scribner’s Sons.

Greenfield, E. A. & Reyes, L. (2015). Continuity and change in relationships with neighbors: Implications for psychological well-being in middle and later life. J Gerontol B Psychol Sci Soc Sci. 2015, 70(4), 607–618.

Hunter, A. M. (1960). Interpreting the Parable. London: Cambridge University Press.

O’Campo, P. (2015). The neighbourhood effects on health and well-being (NEHW) study. Health & Place, 31(1), 65-74.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

07/06/2021

รูปแบบการอ้างอิง

มูลสถาน ศ. ., บุญเจือ ก. ., & ดาแก้ว ร. . (2021). การรักเพื่อนบ้านในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ ตามทรรศนะปรัชญาหลังนวยุคสายกลาง. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(7), 115–128. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/251097

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย