การอนุรักษ์ภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจากผลกระทบ น้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในพื้นที่ลุ่มน้ำย่อย แควใหญ่ตอนล่าง จังหวัดกาญจนบุรี

ผู้แต่ง

  • นิพนธ์ โซะเฮง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • ณัฐพงศ์ บุญเหลือ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • ทิพรัตน์ บุบผะศิริ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • คึกฤทธิ์ ศิลาลาย มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • มาริสา แก้วสุวรรณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

คำสำคัญ:

การอนุรักษ์, ภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม, น้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลัน, ดินถล่ม, ลุ่มน้ำย่อยแควใหญ่ตอนล่าง

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพทั่วไปในการอนุรักษ์ภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในพื้นที่ลุ่มน้ำย่อยแควใหญ่ตอนล่าง 2) ศึกษาแนวทางในการอนุรักษ์ภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไปอันเนื่องมาจากน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในพื้นที่ เป็นวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการเก็บข้อมูลจากเอกสาร การสังเกตการณ์และการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จำนวน 54 ท่าน ในอำเภอเมือง ศรีสวัสดิ์ และทองผาภูมิ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพทั่วไปของพื้นที่ พบว่า 1.1) ความสำนึกในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของตัวเองของประชาชนอยู่ในระดับต่ำ 1.2) ความเป็น “ท้องถิ่นนิยม” เน้นความตื่นตัวของชุมชนในการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการท้องถิ่นของตนเอง อยู่ในระดับที่ต้องการการส่งเสริม 1.3) พลัง สิทธิและอำนาจของชุมชนท้องถิ่นในการมีส่วนร่วมในการควบคุมและการจัดการทรัพยากรในท้องถิ่นของตนเองยังมีน้อย 1.4) ประชาชนมีภาษา จารีต ประเพณี และวัฒนธรรมรวมถึงวิถีปฏิบัติที่มีอัตลักษณ์และความโดดเด่นตามชาติพันธุ์ของตนเอง แต่ยังขาดการเผยแพร่สู่สังคมภายนอก 1.5) ผู้มีส่วนได้เสีย มีการรับรู้ มีความเข้าใจเกี่ยวกับความเสี่ยงจากผลกระทบน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในพื้นที่ลุ่มน้ำย่อยแควใหญ่ตอนล่างอยู่ในระดับต่ำ 1.6) ประชาชนยังไม่มีฐานข้อมูลที่เป็นระบบของตนเองสำหรับการตัดสินใจวางแผน 2) แนวทางในการอนุรักษ์ พบว่า การยึดถือศาสนาพุทธแบบชาวบ้าน เป็นแก่นแกนความคิดในการอนุรักษ์ภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของคนทั้ง 3 อำเภอ นอกจากนี้การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญในการอนุรักษ์

เอกสารอ้างอิง

กรมทรัพยากรธรณี. (2558). ข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัยจากดินถล่ม น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: กองธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม.

ธวัช มณีผ่อง. (2548). ความรู้ชายขอบ: อำนาจและปฏิบัติการของสำนักทรงในผู้ป่วย. กากโรงพยาบาล. ใน ดาริน อินทร์เหมือน (บรรณาธิการ), ภูมิปัญญาสุขภาพ: ปฏิบัติการต่อรองของความรู้ท้องถิ่น (หน้า 42). กรุงเทพมหานคร: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน).

นักสิทธิ์ สังข์จันทร์. (2553). ป่าชุมชน... เรื่องของ “คน” กับ “ป่า” บทเรียนการฟื้นฟูภูมิทัศน์ป่าไม้และคุณภาพชีวิตชุมชนอย่างมีส่วนร่วม อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น. กรุงเทพมหานคร: โครงการฟื้นฟูลุ่มน้ำชี WWF ประเทศไทย.

พัฒนา กิติอาษา. (2546). ท้องถิ่นนิยม. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: กองทุนอินทร์-สมเพื่อการวิจัยทางมานุษยวิทยา.

วัชราภรณ์ เครือพันธ์. (2555). แนวทางการฟื้นฟูบริเวณชุมชนเก่า บ้านสิงห์ท่า จังหวัดยโสธร. มหาสารคาม: สำนักพิมพ์แห่งมหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

วิวรณ์ สีหนาท. (2546). การศึกษาแนวทางการพัฒนาอาคารเพื่อการอนุรักษ์ชุมชนในพื้นที่ลุ่มคลอง: กรณีศึกษาคลองอ้อมนนท์และคลองบางกอกน้อย จังหวัดนนทบุรี. ใน วิทยานิพนธ์การวางแผนภาคและเมืองมหาบัณฑิต สาขาวิชาการวางแผนชุมชนเมืองและสภาพแวดล้อม. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.

สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. (2559). แผนยุทธศาสตร์กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2559 - 2564. เรียกใช้เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2562 จาก http://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER15/DRAWER053/GENERAL/DATA0000/00000106.PDF

อานันท์ กาญจนพันธุ์. (2554). มิติชุมชน วิธีคิดท้องถิ่นว่าด้วยสิทธิ อำนาจ และการจัดการทรัพยากร. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).

Feilden, B. M. & Jokilehto, J. (1998). Management guidelines for world cultural heritage site. (2nd ed.). Rome: ICCROM.

Garnham, H. L. (1985). Maintaining the spirit of place: A process for the preservation of town character. Mesa AZ: PDA Publisher Corporation.

Husain, M. Z. (1995). Global Islamic politics. Global Islamic politics. Virginia: Harper Collins College Publishers.

Morris, D. J. & Hess, K. (1975). Neighborhood power: The new location. Boston: Beacon Press.

Murtagh, W. J. (2006). Keeping time: The history of theory of preservation in America. New York: John Wiley & Sons.

Ruskin, J. (1849). The seven lamps of architecture. London: Smith, Elder, and Co.

Thompson, D. F. (2010). The democratic citizen. Cambridge: Cambridge University Press.

Tyler, N. et al. (2009). Historic preservation: An introduction to its history, principles, and practice. (2nd ed.). New York: W. W. Norton Company.

Viollet-Le-Duc, E. E. (1990). The Foundations Of Architecture : Selections From The Dictionnaire Raisonne Of Eugene-Emmanuel Viollet-Le-Duc. Whitehead, K. D. (Translator). New York: George Braziller.

Wells, J. C. (2014). Social science research methodologies and historic preservation: Broadening the possibilities for a preservation. (Thesis). Retrieved November 4, 2019, from https://www.academia.edu/14177784/Social_Science_Research_Methodologies_and_Historic_Preservation_Broadening_the_Possibilities_for_a_Preservation_Thesis

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

07/06/2021

รูปแบบการอ้างอิง

โซะเฮง น., บุญเหลือ ณ., บุบผะศิริ ท., ศิลาลาย ค., & แก้วสุวรรณ ม. (2021). การอนุรักษ์ภูมิทัศน์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจากผลกระทบ น้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในพื้นที่ลุ่มน้ำย่อย แควใหญ่ตอนล่าง จังหวัดกาญจนบุรี. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(7), 64–82. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/251634

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย