แนวทางสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
คำสำคัญ:
อัตลักษณ์, ประสบการณ์การบริการ, หรูหรา, การท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อค้นหาองค์ประกอบของการท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2) เพื่อค้นหาอัตลักษณ์ของประสบการณ์ในการบริการที่หรูหราการท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3) เพื่อสร้างและพัฒนาประสบการณ์ในการบริการที่หรูหราอัตลักษณ์ของธุรกิจร้านกาแฟในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพใช้วิธีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟ จำนวนทั้งหมด 45 คน ผลการวิจัยพบว่า องค์ประกอบของ การท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟกลุ่มเจนวาย 1) อัตลักษณ์วัตถุดิบท้องถิ่น ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้กล่าวถึงมากที่สุด 2) ภูมิทัศน์การบริการภายในร้านกาแฟ 3) บาลิสต้าที่มีบุคลิกภาพ มีความสามารถในการชงเครื่องดื่ม 4) กิจกรรมที่มีเสน่ห์ โดยเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริม การเสริมสร้างทางอารมณ์และความเพลิดเพลิน 5) สิ่งอำนวยความสะดวกและการบริการ ในร้านกาแฟ และ 6) ระบบการคมนาคมและระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 พบว่าประสบการณ์ในการบริการที่หรูหราแบ่งออกเป็น 6 ด้าน 1) ประสบการณ์ด้านการเติมเต็มพลังชีวิต 2) ประสบการณ์การต้อนรับและการบริการที่เกินคาดหวัง 3) ประสบการณ์คุณค่าความจริงแท้ 4) ประสบการณ์การเรียนรู้และการท้าทายตนเอง 5) ประสบการณ์การสร้างความภาคภูมิใจ 6) ประสบการณ์ความทรงจำที่ตราตรึง และเสนอแนวทางประสบการณ์การท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟ ผู้วิจัยได้ข้อค้นพบองค์ประกอบ อัตลักษณ์ประสบการณ์หรูหราสำคัญที่แท้จริง 5 ประการ 1) การออกแบบร้าน 2) กิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ 3) ความใส่ใจ 4) การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น 5) การเชื่อมโยงชุมชน เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กนกวรรณ เวชกามา และอนิตา ประดาอินทร์. (2562). รูปแบบการสร้างตราสินค้ากาแฟพิเศษภาคเหนือตอนบนกรณี ศึกษาบ้านแม่แจ๋มอำเภอเมืองปานจังหวัดลำปาง. วารสารบริหารธุรกิจศรีนครินทรวิโรฒ, 10(2), 62-77.
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2560). แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 –2564). กรุงเทพมหานคร: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา.
กองวิจัยการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2562). รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มีศักยภาพในการใช้จ่าย ปี 2561. กรุงเทพมหานคร: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.
จิตคุปต์ ละอองปลิว. (2019). การท่องเที่ยวเมืองรอง: ทางเลือกแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์จังหวัด ราชบุรี. วารสารอินทนิลทักษิณสาร มหาวิทยาลัยทักษิณ, 14(2), 39-60.
ผู้ให้ข้อมูลสําคัญกลุ่มที่ 1 ท่านที่ 18. (2563 พฤษภาคม 2563). แนวทางสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. (ฐาปกรณ์ ทองคำนุช, ผู้สัมภาษณ์)
ผู้ให้ข้อมูลสําคัญกลุ่มที่ 1 ท่านที่ 19. (19 พฤษภาคม 2563). แนวทางสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. (ฐาปกรณ์ ทองคำนุช, ผู้สัมภาษณ์)
ผู้ให้ข้อมูลสําคัญกลุ่มที่ 1 ท่านที่ 25. (25 พฤษภาคม 2563). แนวทางสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวเพื่อชิมกาแฟในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. (ฐาปกรณ์ ทองคำนุช, ผู้สัมภาษณ์)
พยอม ธรรมบุตร. (2562). แนวทางพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์บนพื้นฐานอัตลักษณ์และวิถีไทยแบบ บูรณาการอย่างยั่งยืนในเขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร. Sisaket Rajabhat University Journal, 13(3), 65-75.
ภัทรพร พันธุรี. (2558). การจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอาหารโดยผ่านประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวใน ประเทศไทย. Journal of Southern Technology, 8(2), 27-38.
ภูริ ชุณห์ขจร. (2563). การสร้างมูลค่าเพิ่มในกิจกรรมระหว่างการท่องเที่ยวเชิงอาหารท้องถิ่นและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ. Graduate School Journal Chiang Rai Rajabhat University, 13(2), 31-45.
วัญวิริญจ์ แจ้งพลอย และวิโรจน์ เจษฎาลักษณ์. (2559). กลยุทธ์การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในการ ดำเนินธุรกิจร้านกาแฟของผู้ประกอบการรายย่อยในเขตอำเภอเมืองจังหวัดราชบุรี. Veridian E-Journal, Silpakorn University (Humanities, Social Sciences and arts), 9(3), 1331-1349.
ศุภกัญญา เกษมสุข. (2561). อัตลักษณ์และรูปแบบการดำเนินธุรกิจนำเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเส้นทางบุญในจังหวัดอุบลราชธานี กรณีศึกษาธุรกิจนำเที่ยว. วารสารสุทธิ ปริทัศน์, 32(พิเศษ), 223-234.
สกาวรัตน์ บุญวรรโณ และเก็ตถวา บุญปราการ. (2560). พื้นที่ย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า: การประกอบสร้างอัตลักษณ์เพื่อการท่องเที่ยวถวิลหาอดีต. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, 12(1), 61-78.
อนพัทย์ หนองคู. (2563). พฤติกรรมและปัจจัยด้านสื่อดิจิทัลทางการตลาดที่มีผลต่อการท่องเที่ยวเชิง วัฒนธรรมของนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่สวนดุสิต. วารสารวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, 12(2), 1-15.
Buhalis, D. (2000). Marketing the competitive destination of the future. Tourism management, 21(1), 97-116.
Fuchs, M. & Weiermair, K. (2004). Destination benchmarking: An indicator-system’s potential for exploring guest satisfaction. Journal of travel research, 42(3), 212-225.
Holbrook, M. B. & Hirschman, E. C. (1982). The experiential aspects of consumption: Consumer fantasies, feelings, and fun. Journal of consumer research, 9(2), 132-140.
Jennings, G. (2010). Generation Y: Perspectives of quality. Oxford shire: CAB International.
Kim, D. & Jang, S. (2017). Symbolic consumption in upscale cafés: Examining Korean gen Y consumers’ materialism, conformity, conspicuous tendencies, and functional qualities. Journal of Hospitality & Tourism Research, 41(2), 154-179.
Lain Black and Cleopatra Veloutsou. (2017). Working consumers: Co-creation of brand identity, consumer identity and brand community identity. Journal of Business Research, 70(1), 416-429.
Miles, M. B. & Huberman, A. M. (1994). Qualitative data analysis: An expanded sourcebook. Arizona: Arizona State University.
Moreno, F. M. et al. (2017). The Characteristics of the Millenials and Their Buying Behavior. International Journal of Marketing Strategy, 9(5), 135-144.
Pine, B. J. & Gilmore, J. H. (1998). The experience economy. Harvard Business Review, 76(6), 18-23.
Wurzburger, R. et al. (2013). Creative Tourism: A Global Conversation: How to Provide Unique Creative Experiences for Travelers Worldwide. Sunstone Press: Santa Fe.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




