นโยบายการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในจังหวัดปราจีนบุรี
คำสำคัญ:
นโยบาย, การพัฒนา, วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการนำนโยบายไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในจังหวัดปราจีนบุรี 2) ศึกษาระดับการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในจังหวัดปราจีนบุรี 3) ศึกษาเปรียบเทียบการนำนโยบายไปปฏิบัติเพื่อพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในจังหวัดปราจีนบุรี จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 4) ศึกษาแนวทางในการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในจังหวัดปราจีนบุรี วิธีวิจัยเชิงผสมผสานวิธี ได้แก่ เชิงปริมาณใช้แบบสอบถาม สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ เจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำนโยบายไปปฏิบัติ จำนวน 246 คน วิเคราะห์ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test และเชิงคุณภาพใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึก สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ เจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 25 คน วิเคราะห์เชิงเนื้อหาและสรุป ผลการวิจัยพบว่า 1) การนำนโยบายไปปฏิบัติ มี 6 ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.62, S.D. = 0.15) ได้แก่ 1.1) วัตถุประสงค์และมาตรฐาน 1.2) ทรัพยากร 1.3) สื่อสารและกิจกรรมเสริมแรง 1.4) ลักษณะหน่วยงาน 1.5) เงื่อนไขเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง และ 1.6) ความตั้งใจของผู้ปฏิบัติ 2) การพัฒนาวิสาหกิจ มี 3 ด้าน โดยรวมอยู่ในระดับมาก (
= 3.95, S.D. = 0.27) ได้แก่ ด้านการเสริมสร้างขีดความสามารถ ด้านการส่งเสริมและพัฒนา และด้านการพัฒนากลไกเพื่อขับเคลื่อนการส่งเสริมเป็นระบบ 3) เปรียบเทียบนโยบายไปปฏิบัติ พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกันมีการนำนโยบายไปปฏิบัติต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 4) แนวทางการพัฒนาคือ ให้ความสำคัญกับการนำนโยบายไปปฏิบัติทุกด้าน พัฒนาเสริมสร้างขีดความสามารถ และกลไกขับเคลื่อนส่งเสริม
เอกสารอ้างอิง
คณะกรมการจังหวัดปราจีนบุรี. (2563). รายงานการประชุมคณะกรมการจังหวัดปราจีนบุรี. เรียกใช้เมื่อ 24 กันยายน 2563 จาก http://www.prachinburi.go.th/calendar _month2563.htm
จันทนา ฤทธิ์สมบูรณ์ และทักษญา สง่าโยธิน. (2562). ห่วงโซ่มูลค่าเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนอย่างยั่งยืนด้วยแนวคิดผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC). วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 30(1), 104-117.
นัฐพล สุขบรรจง และภูมิ โชคเหมาะ. (2559). มาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดเล็ก. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย, 5(2), 295-305.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย. (เล่มที่ 2). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาการพิมพ์.
ผู้บริหารของสำนักงานอุตสาหกรรม. (24 มีนาคม 2564). นโยบายการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในจังหวัดปราจีนบุรี. (นริญญา โภคานฤมิต, ผู้สัมภาษณ์)
ยุพา งานฉมัง. (2559). ประสิทธิภาพการนำนโยบายด้านการส่งเสริม SMEs ใช้ระบบ ERP ขนาดใหญ่ของอุตสาหกรรมการผลิตในพื้นที่ภูมิภาคไปปฏิบัติ: กรณีศึกษากิจการโรงสีข้าวแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์. ใน วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์. มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
วิษณุ ปัญญายงค์ และสถาพร วิชัยรัมย์. (2560). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการนำนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนไปปฏิบัติที่เทศบาลตําาบลในจังหวัดบุรีรัมย์. รมยสาร, 15(2), 265-272.
ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีนบุรี. (2563). จังหวัดปราจีนบุรีข้อมูล. เรียกใช้เมื่อ 14 พฤศจิกายน 2563 จาก http://www.prachinburi.go.th/main.htm
สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี. (2563). การจัดตั้งกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ. เรียกใช้เมื่อ 9 สิงหาคม 2563 จาก http://www.industry.go.th/ prachinburi/index.php
สิการย์ เฟื่องฟุ้ง. (2561). ความร่วมมือเชิงนโยบายระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) สู่การเป็นเศรษฐกิจสีเขียว. วารสารรังสิตบัณฑิตศึกษาในกลุ่มธุรกิจและสังคมศาสตร์, 4(2), 174-187.
สุชาติ อำนาจวิภาวี. (2563). นโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้เกิดความยั่งยืน. Journal of Administrative and Management Innovation, 8(3), 56-66.
สุธิดา เสถียรมาส. (2555). คุณลักษณะการเป็นผู้ประกอบการของเจ้าของธุรกิจค้าปลีกที่เข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐ. วารสารบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแม่โจ้, 1(1), 48-59.
อัปสร อีซอ และคณะ. (2560). ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน: กรณีศึกษาสถาบันการเงินชุมชนในจังหวัดชัยภูมิ. วารสารสมาคมนักวิจัย, 25(1), 72-90.
Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing. (5th ed.). New York: Harper Collins: Publishers.
rejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert, R. (1967). “The Method of Constructing and Attitude Scale”. In Reading in Fishbeic, M (Ed.), Attitude Theory and Measurement. New York: Wiley & Son.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




