แนวคิดทางวัฒนธรรมในโครงงานประวัติศาสตร์ โดยมูลนิธิเปรมติณสูลานนท์จังหวัดนครราชสีมา

ผู้แต่ง

  • ประจักษ์ แป๊ะสกุล มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
  • ซิสิกกา วรรณจันทร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

คำสำคัญ:

แนวคิดทางวัฒนธรรม, โครงงานประวัติศาสตร์, มูลนิธิเปรมติณสูลานนท์จังหวัดนครราชสีมา

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิดทางวัฒนธรรม ได้แก่ แนวคิดภูมิวัฒนธรรม แนวคิดความทรงจำร่วม แนวคิดอัตลักษณ์ และแนวคิดคุณค่าทางวัฒนธรรม จากโครงงานประวัติศาสตร์ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดโครงงานนักเรียนระดับภาคโดยมูลนิธิเปรมติณสูลานนท์จังหวัดนครราชสีมา ช่วง พ.ศ. 2557 - 2561 จำนวน 50 เรื่อง ใช้วิธีการศึกษาจากเอกสารด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจากตัวบท พิจารณาแนวคิดทางวัฒนธรรมที่ศึกษา ได้แก่ 1) แนวคิดภูมิวัฒนธรรม 2) แนวคิดความทรงจำร่วม 3) แนวคิดอัตลักษณ์ และ 4) แนวคิดคุณค่าทางวัฒนธรรม นำเสนอในรูปแบบการพรรณนาเชิงวิเคราะห์ ผลการศึกษาพบว่า มีการนำแนวคิดทางวัฒนธรรมมาใช้ในโครงงานประวัติศาสตร์สอดคล้องกับการศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมในต่างประเทศ ดังนี้ 1) แนวคิดภูมิวัฒนธรรม พบในการอธิบายการตั้งถิ่นฐานของชุมชน ที่มาของชื่อสถานที่ ความสำคัญของสถานที่ ความเชื่อที่มีต่อพื้นที่ และความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ซึ่งมีผลต่อชุมชน 2) แนวคิดความทรงจำร่วม พบในคำสัมภาษณ์ของผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ เหตุการณ์สำคัญในอดีตที่มีผลกระทบต่อวิถีชีวิต และเรื่องราวที่ประทับใจหรือภาคภูมิใจ 3) แนวคิดอัตลักษณ์ พบในการอธิบายลักษณะเด่นและความสำคัญของเรื่องที่ศึกษา เช่น วิถีชีวิตของกลุ่มชน ภูมิปัญญา ประเพณี โบราณสถาน โบราณวัตถุในท้องถิ่น โดยเชื่อว่าเป็นอัตลักษณ์เฉพาะที่พบในท้องถิ่นของตนเท่านั้น และ 4) แนวคิดคุณค่าทางวัฒนธรรม พบในการอธิบายคุณค่าทางวัฒนธรรมของโครงงานได้แก่ คุณค่าเชิงอัตลักษณ์ คุณค่าเชิงศิลปะ และคุณค่าเชิงจำนวนที่หายาก เกี่ยวกับความเชื่อความศรัทธา ความสามัคคี ภูมิปัญญาในการใช้ประโยชน์จากสิ่งแวดล้อม การรักษาโรค การประกอบอาชีพ และศิลปกรรม ซึ่งเป็นมรดกทางสังคมของคนในท้องถิ่น ดังนั้นจึงควรส่งเสริมการศึกษาแนวคิดทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ร่วมกัน

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2558). คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สป.1417/2557 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการสู่การปฏิบัติ. เรียกใช้เมื่อ 1 เมษายน 2561 จาก http://203.159.154.241/innogoth/wp-content/uploads/2015/06/ค่านิยมหลัก-12-ประการสู่การปฏิบัติฯ.pdf

กฤษณพจน์ ศรีทารัง. (2548). ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมเมืองเลย : กรณีศึกษาวัดห้วยห่าว อำเภอเมืองจังหวัดเลย. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาไทยศึกษาเพื่อการพัฒนา. มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.

กองทัพภาคที่ 2. (2560). หลักเกณฑ์การประกวดโครงงานนักเรียนระดับภาค ครั้งที่ 15 ประจำปี 2560. นครราชสีมา: กองทัพภาคที่ 2.

ฉัตรทิพย์ นาถสุภา และฉลอง สุนทราวาณิชย์. (2556). ประวัติศาสตร์ ศาสนา วัฒนธรรม และการศึกษา รวมบทความไทยศึกษาเพื่อระลึกถึงศาสตราจารย์ อิฌิอิ โยเนะโอะ. กรุงเทพมหานคร: เคล็ดไทย.

ธนิก เลิศชาญฤทธ์. (2554). การจัดการทรัพยากรวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร.

นัทธนัย ประสานนาม. (2557). Memory in Culture. วารสารมนุษยศาสตร์, 21(2), 25-31.

วิศรุต พึ่งสุนทร. (2557). ประวัติศาสตร์วัฒนธรรม: ความเป็นมาและแนวคิด. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

ศรีศักร วัลลิโภดม. (2551). คู่มือฉุดคิด : ความหมายของภูมิวัฒนธรรม การศึกษาจากภายในและสำนึกของท้องถิ่น. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2553. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร แห่งประเทศไทย.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2554). เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ครู แนวทางการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2558). การสอนประวัติศาสตร์ : ประวัติศาสตร์ไทย หลากหลายวิธีเรียน. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

หัทยา สิริพัฒนากุล. (2550). ภูมิทัศน์วัฒนธรรม. จุลสารอิโคโมสไทย, เมษายน-กรกฎาคม 2550.

Barrow, M. (2016). Counter-Memory and Cultural Capital: The Arts as Sustainable CivicPractice. Retrieved May 20, 2017, from https://search.proquest.com/docview/1805061686?accountid=31970

Blair, J. A. (2017). Extracting indigeneity : Oil, environment and self-determination in the Falkland Islands (Malvinas). Retrieved May 20, 2017, from https://search.proquest.com/docview/1842431306?accountid=31970

Burke, P. J. & Reitzes, D. C. (1991). An Identity Theory Approach to Commitment. Social Psychology Quarterly, 54(4), 239-251.

Confino, A. (1997). “Collective Memory and Cultural History: Problems of Method,”. The American Historical Review, 102(5), 1386-1403.

Connerton, P. (1989). How Societies Remember. Cambridge: Cambridge University Press.

Encyclopedia Britannica. (2005). The New Encyclopedia Britannica Vol.16. Chicago: Encyclopedia Britannica. .

Fentress, J. J. & Wickham, C. (2009). Social Memory. Cambridge: Blackwell.

Jenkins, R. . (2008). Social Identity. Third Edition. New York: Routledge.

Kozak-Holland, M. (2013). The relevance of historical project lessons to contemporary business practice. Retrieved May 20, 2017, from https://search.proquest.com/docview/1687711196?accountid=31970

Murray, K. (2010). The Tools of Engagement: Tactics and Strategies employed for the creation of alternative places, spacesand modes of citizenship within the Montreal Graffiti Subculture. Retrieved May 20, 2017, from https://search.proquest.com/docview/859267666?accountid=31970

Obrock, L. J. (2015). Translation and History: The Development of a Kashmiri Textual Tradition from ca. 1000-1500. Retrieved May 20, 2017, from https://search.proquest.com/docview/1735410716?accountid=31970

Zerubavel, E. (1996). “Social memories : Step to a sociology of the past,”. Qualitative Sociology, 19(3) : 283-299.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

10/21/2021

รูปแบบการอ้างอิง

แป๊ะสกุล ป., & วรรณจันทร์ ซ. (2021). แนวคิดทางวัฒนธรรมในโครงงานประวัติศาสตร์ โดยมูลนิธิเปรมติณสูลานนท์จังหวัดนครราชสีมา. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(10), 440–457. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/251797

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย