แนวทางการนำระบบการผลิตแบบอัตโนมัติมาประยุกต์ ใช้ในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม

ผู้แต่ง

  • ชนะพล เลี้ยงถนอม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  • ธนะวัชร จริยะภูมิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
  • พรรษวดี พงษ์ศิริ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ

คำสำคัญ:

แบบจำลองสมการโครงสร้าง, ระบบการผลิตแบบอัตโนมัติ, อุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความสำคัญของแนวทางการนำระบบการผลิตอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม 2) พัฒนาแบบจำลองสมการโครงสร้างแนวทางการนำระบบการผลิตแบบอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ดำเนินการวิจัยแบบผสมผสาน เชิงคุณภาพผู้ให้ข้อมูลสำคัญคือ ผู้เชี่ยวชาญ 9 คนเครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง และเชิงปริมาณสำรวจข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ประกอบการหรือผู้บริหารในธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม จำนวน 500 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสอบถามและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และแบบจำลองสมการโครงสร้าง ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับความสำคัญของแนวทางการนำระบบการผลิตแบบอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม พบว่า โดยภาพรวมให้ความสำคัญอยู่ในระดับมาก สำหรับผลการพิจารณาเป็นรายด้าน ได้แก่               ด้านพนักงานเป็นศูนย์กลาง ด้านต้นทุนภายใน ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี และด้านความร่วมมือ ให้ความสำคัญอยู่ในระดับมากทั้ง 4 ด้าน 2) ผลการวิเคราะห์ตัวแบบจำลองสมการโครงสร้างที่ได้พัฒนาขึ้น ผ่านตามเกณฑ์การประเมินมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่า 2.1) ด้านความร่วมมือส่งอิทธิพลทางตรงต่อด้านพนักงานเป็นศูนย์กลาง และด้านต้นทุนภายใน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 และด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 2.2) ด้านพนักงานเป็นศูนย์กลางส่งอิทธิพลทางตรงต่อด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 2.3) ด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีส่งอิทธิพลทางตรงต่อด้านต้นทุนภายใน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 แสดงว่าแนวทางการนำระบบการผลิตอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงอุตสาหกรรม. (2559). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมไทย 4.0 ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 - 2579). เรียกใช้เมื่อ 1 กรกฎาคม 2563 จาก http://www.oie.go.th/assets /portals/1/files/Industrial%20Master%Plan/thailandindustrialdevelopmentStrategy4.0.pdf

ธนัชพร ถวิลผล และคณะ. (2564). แนวทางการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในองค์การธุรกิจอุตสาหกรรมสู่การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(1), 272-284.

ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2563). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS และ AMOS. (พิมพ์ครั้งที่ 18). กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้นส่วนสามัญบิสซิเนสอาร์แอนด์ดี.

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย. (2559). การยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่อุตสาหกรรม 4.0 (Industry 4.0). เรียกใช้เมื่อ 19 เมษายน 2563 จาก http://www.nfcrbr.or.th/site /attachments/article/81/ White%20paper.pdf

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม. (2563). รายงานสถานการณ์ SMEs ปี 2563. เรียกใช้เมื่อ 15 กรกฎาคม 2563 จาก http://www.sme.go.th/th/index.php/

สุภาวัลย์ เชาว์พาณิชย์เจริญ และสถาพร โอภาสานนท์. (2561). การพัฒนาตัวชี้วัดประสิทธิภาพเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ของสถานประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์ไทยในระดับ First Tier. จุฬาลงกรณ์ธุรกิจปริทัศน์, 14(161), 2-40.

Berger, R. (2016). Digital Factories: The Renaissance of the U.S. automotive Industry. Retrieved August 10, 2563, from https://www.rolandberger.com/publications /publication_pdf/roland_berger_tab_digital_factories_20160217.pdf

Buckenhüskes H. J. (2015). DLG-Expert report 5/2015: Industry 4.0 - Summary report. Retrieved May 5, 2563, from https://www.cenit.com/fileadmin/dam /Corporate/PDFs/2015_5_Expertenwissen_E.pdf

Comrey, A. L. & Lee, H. B. (1992). A First Course in Factor Analysis. Hillsdale: NJ: Lawrence Erlbaum.

Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing 5th edpp. 202-204. New York: Harper Collins Publishers.

GTAI. (2014). Industry 4.0 Smart Manufacturing for The Future. Retrieved ธันวาคม 8 , 2563, from https://www.manufacturing-policy.eng.cam.ac.uk/ documentsfolder/policies/Germany-industrie-4.0-smart-manufacturing-for-the-future-gtai/view

Kura, K. M. et al. (2019). Linking Human Resource Development Practices to Counterproductive work Behaviour: Does Employee Engagement Matter. Journal od African Business, 20(4), 472-488.

Likert, R. (1967). The Method of Constructing and Attitude ScaleIn Reading in Fishbeic, M (Ed. New York: Wiley & Son.

Lui & Huang. (2018). Relationship governance mechanisms and collaborative performance: A relational life cycle perspective. Journal of Purchasing and Supply Management, 24(3), 260-273.

Michael, R. et al. (2015). Industry 4.0: The Future of Productivity and Growth in Manufacturing Industries. Retrieved October 10, 2563, from http://www.oica. net/category/production-statistics/

Otto, J. et al. (2014). Why cyber-physical production systems need descriptive engineering approach–a case study in plug & produce. Procedia Technology, 2014(15), 295-302.

Rana, S. et al. (2016). Promoting self-directed learning in a learning organization: tools and practices. European Journal of Training and Development, 40(7), 470-489.

Roblek, V. et al. (2016). A complex view of Industry 4.0. SAGE Journal Author Gateway, 6(2), 1-11 .

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

03/30/2022

รูปแบบการอ้างอิง

เลี้ยงถนอม ช. ., จริยะภูมิ ธ. ., & พงษ์ศิริ . พ. . (2022). แนวทางการนำระบบการผลิตแบบอัตโนมัติมาประยุกต์ ใช้ในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(3), 176–189. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/252300

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย