องค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล
คำสำคัญ:
องค์ประกอบ, ภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรม, ผู้บริหารสถานศึกษา, ยุคดิจิทัลบทคัดย่อ
บทความวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล และ 2) ตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลโครงสร้างตัวบ่งชี้ของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล วิธีวิจัยเชิงผสมผสานวิธี ได้แก่ เชิงปริมาณใช้แบบสอบถาม สุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 280 คน วิเคราะห์ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าเบ้ ความโด่ง และเชิงคุณภาพใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึก สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน โดยการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน วิเคราะห์เชิงเนื้อหาและสรุป ผลการวิจัยพบว่า 1. ตัวบ่งชี้ของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลมี 6 องค์ประกอบ และ 20 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ 1.1) ด้านคิดสร้างสรรค์ ( = 4.32, S.D. = 0.54) ได้แก่ คิดริเริ่ม คิดคล่องแคล่ว คิดยืดหยุ่น และคิดละเอียด 1.2) ด้านเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง (
= 4.27, S.D. = 0.60) ได้แก่ วิเคราะห์ความต้องการ กำหนดจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ วางแผนการเรียนรู้ และแสวงหาวิทยาการ 1.3) ด้านทำงานเป็นทีม (
= 4.34, S.D. = 0.58) ได้แก่ สื่อสาร ความสามารถ และกิจกรรม 1.4) ด้านการบูรณาการ (
= 4.38, S.D. = 0.55) ได้แก่ ความคิด กระบวนการเรียนรู้ และเชื่อมโยงสัมพันธ์และองค์ความรู้ใหม่ 1.5) ด้านเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล (
= 4.42, S.D. = 0.54) ได้แก่ พัฒนาความสามารถ สนับสนุนงบและทรัพยากร และมีจริยธรรม และ 1.6) ด้านเครือข่ายการเรียนรู้ ( = 4.42, S.D. = 0.54) ได้แก่ เรียนรู้ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สร้างเครือข่ายเรียนรู้ และการสะท้อนผล การเรียนรู้ และ 2. โมเดลองค์ประกอบเชิงยืนยันของผู้บริหารสถานศึกษายุคดิจิทัลมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ มีค่าสถิติ คือ Chi-square = 1.32, df = 155, p = 0.94, GFI = 0.90, AGFI = 0.87, SRMR = 0.48, RMSEA = 0.00และ CFI = 1.00 โมเดลแบบจำลองมีความเหมาะสม และยอมรับได้ บทความวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล และ 2) ตรวจสอบความสอดคล้องของโมเดลโครงสร้างตัวบ่งชี้ของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล วิธีวิจัยเชิงผสมผสานวิธี ได้แก่ เชิงปริมาณใช้แบบสอบถาม สุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหาร จำนวน 280 คน วิเคราะห์ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าเบ้ ความโด่ง และเชิงคุณภาพใช้แบบสัมภาษณ์เชิงลึก สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน โดยการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน วิเคราะห์เชิงเนื้อหาและสรุป ผลการวิจัยพบว่า 1. ตัวบ่งชี้ของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลมี 6 องค์ประกอบ และ 20 ตัวบ่งชี้ ได้แก่ 1.1) ด้านคิดสร้างสรรค์ (
= 4.32, S.D. = 0.54) ได้แก่ คิดริเริ่ม คิดคล่องแคล่ว คิดยืดหยุ่น และคิดละเอียด 1.2) ด้านเรียนรู้ด้วยการนำตนเอง (
= 4.27, S.D. = 0.60) ได้แก่ วิเคราะห์ความต้องการ กำหนดจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ วางแผนการเรียนรู้ และแสวงหาวิทยาการ 1.3) ด้านทำงานเป็นทีม (
= 4.34, S.D. = 0.58) ได้แก่ สื่อสาร ความสามารถ และกิจกรรม 1.4) ด้านการบูรณาการ (
= 4.38, S.D. = 0.55) ได้แก่ ความคิด กระบวนการเรียนรู้ และเชื่อมโยงสัมพันธ์และองค์ความรู้ใหม่ 1.5) ด้านเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล (
= 4.42, S.D. = 0.54) ได้แก่ พัฒนาความสามารถ สนับสนุนงบและทรัพยากร และมีจริยธรรม และ 1.6) ด้านเครือข่ายการเรียนรู้ (
= 4.42, S.D. = 0.54) ได้แก่ เรียนรู้ร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สร้างเครือข่ายเรียนรู้ และการสะท้อนผล การเรียนรู้ และ 2. โมเดลองค์ประกอบเชิงยืนยันของผู้บริหารสถานศึกษายุคดิจิทัลมีความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ มีค่าสถิติ คือ Chi-square = 1.32, df = 155, p = 0.94, GFI = 0.90, AGFI = 0.87, SRMR = 0.48, RMSEA = 0.00และ CFI = 1.00 โมเดลแบบจำลองมีความเหมาะสม และยอมรับได้
เอกสารอ้างอิง
เชษฐา คล้าคล่อง. (2557). การพัฒนาโปรแกรมเสริมสร้างภาวะผู้นำแบบมุ่งบริการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. ในดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ทิพมาศ เศวตวรโชติ. (2560). ตัวบ่งชี้ภาวะผู้นำแบบบูรณาการสำหรับผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. วารสารสถาบันวิจัยญาณสังวร. 8(2), 166-176.
ธีระ รุญเจริญ. (2553). ความเปนมืออาชีพในการจัดและบริหารการศึกษา ยุคปฏิรูปการศึกษาเพื่อปฏิรูป รอบ 2 และประเมินภายนอกรอบ 3. ขอนแกน: สำนักพิมพขาวฟาง.
บุญชม ศรีสะอาด. (2556). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย เล่ม 1. (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาการพิมพ์.
บัวพันธ์ ผิวทอง. (2556). รูปแบบการเสริมสร้างพลังอำนาจทรัพยากรมนุษย์ของโรงเรียน มัธยมศึกษาขนาดกลางในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพา.
ผู้บริหารโรงเรียนเขตที่ 10 (สัมภาษณ์). เรื่ององค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. ชัดสกร พิกุลทอง (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2563.
ผู้บริหารโรงเรียนเขตที่ 11 (สัมภาษณ์). เรื่ององค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. ชัดสกร พิกุลทอง (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2563.
ผู้บริหารโรงเรียนเขตที่ 12 (สัมภาษณ์). เรื่ององค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. ชัดสกร พิกุลทอง (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2563.
ผู้บริหารโรงเรียนเขตที่ 13 (สัมภาษณ์). เรื่ององค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. ชัดสกร พิกุลทอง (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2563.
ผู้บริหารโรงเรียนเขตที่ 14 (สัมภาษณ์). เรื่ององค์ประกอบภาวะผู้นำเชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. ชัดสกร พิกุลทอง (ผู้สัมภาษณ์) เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2563.
เพ็ญจันทร สินธุเขต. (2560). การศึกษายุคนี้ (ยุคดิจิทัล): Thailand 4.0. รายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการและการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ (Conference Proceedings) ครุศาสตร์วิจัย ครั้งที่ 3: 2560 นวัตกรรมแห่งการเรียนรู้.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). คู่มือการประเมินสมรรถนะครู. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. (2563). การแบ่งภูมิภาคทางภูมิศาสตร์. เรียกใช้เมื่อ 14 พฤษภาคม 2563 จาก http://www. royin.go.th/?knowledges.
สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา. (2558). ผลการประเมินคุณภาพภายนอกรอบสาม. สมุทรปราการ: ออฟเซ็ท พลัส
อดิเรก พรสีมา. (2563). ผู้นำยุคนี้ต้องมี Digital Mindset. เรียกใช้เมื่อ 14 พ.ค. 2563 จาก https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/648785.
Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing (5th ed.). New York: Harper Collins. Publishers.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Likert R. (1967). “The Method of Constructing and Attitude Scale”. In Reading in Fishbeic, M (Ed.), Attitude Theory and Measurement (pp. 90-95). New York: Wiley & Son.
Sheninger. E. (2014). Digital Leadership: Changing paradigms for changing times. California: United States of America.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




