โมเดลสมการโครงสร้างของปัจจัยทางการบริหารที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการดำเนินงานป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ โรงพยาบาลระดับตติยภูมิ

ผู้แต่ง

  • สุรีรักษ์ อจลพงศ์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
  • ประภาเพ็ญ สุวรรณ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
  • สุรีย์ จันทรโมลี มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น

คำสำคัญ:

โมเดลสมการโครงสร้าง, ปัจจัยทางการบริหาร, ประสิทธิผลของการป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ

บทคัดย่อ

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับปัจจัยทางการบริหารและประสิทธิผล ตรวจสอบความสอดคล้องกลมกลืนของโมเดลสมการโครงสร้าง และตรวจสอบเส้นทางอิทธิพลของปัจจัยทางการบริหารต่อประสิทธิผลของการดำเนินงานป้องกันและควบคุมการดื้อยาต้านจุลชีพ ประชากรคือคณะกรรมการและคณะทำงานป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ โรงพยาบาลระดับตติยภูมิ 27 แห่ง กลุ่มตัวอย่าง 536 คน สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง แบบสอบถาม มีความตรงเชิงเนื้อหา ดัชนีความสอดคล้อง เท่ากับ 0.60 - 1.00 ความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.96 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา วิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันและเส้นทางอิทธิพล ผลการวิจัย พบว่า ระดับการรับรู้ปัจจัยทางการบริหารและประสิทธิผลของการดำเนินงานป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพอยู่ในระดับมาก โมเดลสมการโครงสร้างของปัจจัยทางการบริหารที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการดำเนินงานป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ Chi - Square = 202.98, Relative Chi - Square = 1.96 CFI = 1.00 GFI = 0.96 AGFI = 0.93 RMSEA = 0.04 และ SRMA = 0.02 และภาวะผู้นำของผู้บริหารมีอิทธิพลทางตรงต่อวัฒนธรรมองค์กร บรรยากาศองค์การ และสมรรถนะองค์การ ค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพลเท่ากับ 0.57, 0.50, และ 0.40 อิทธิพลทางอ้อมต่อประสิทธิผลของการดำเนินงานป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ สัมประสิทธิ์อิทธิพล 0.43 และบรรยากาศองค์การ สมรรถนะองค์การ และวัฒนธรรมองค์กร มีอิทธิพลทางตรงต่อประสิทธิผลของการดำเนินงานป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ ค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล 0.47, 0.26, และ 0.15 ตัวแปรโมเดลเส้นทางอิทธิพลร่วมกันทำนายประสิทธิผลของการดำเนินงานป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ ร้อยละ 87 จึงควรมุ่งเน้นพัฒนาภาวะผู้นำของผู้บริหาร เพื่อส่งเสริมสมรรถนะองค์การ บรรยากาศองค์การ และวัฒนธรรมองค์กร ซึ่งส่งผลให้การดำเนินงานป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น

เอกสารอ้างอิง

เกวลิน ชื่นเจริญสุข และคณะ. (2562). 6th Service Plan Sharing: ผลการดำเนินการขับเคลื่อน Service plan. กองบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข. เรียกใช้เมื่อ 20 ธันวาคม 2563 จาก http://203.157.3.56/APP/SERVICEPLAN/uploads/allebook/index.html#p=51

คณะกรรมการประสานและบูรณาการงานด้านการดื้อยาต้านจุลชีพ. (2560). แผนยุทธศาสตร์การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพประเทศไทย พ.ศ.2560 - 2564. เรียกใช้เมื่อ 5 ธันวาคม 2561 จาก http://www.fda.moph.go.th/sites/drug/Shared%20Documents/AMR/01.pdf

จิรประภา เกิดชา และนิตยา เงินประเสริฐศรี. (2561). การรับรู้ประสิทธฺผลองค์การ: ข้อค้นพบจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. วารสารสหวิทยาการวิจัย: ฉบับบัณฑิตศึกษา, 7(1), 188-197.

บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. (พิมพ์ครั้งที่8). กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.

บุศรา เข็มทอง. (2560). บทความวิชาการ: แผนยุทธศาสตร์การจัดการการดื้อยาต้านจุลชีพประเทศไทย พ.ศ. 2560 - 2564. สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. เรียกใช้เมื่อ 25 กรกฎาคม 2562 จาก https://library2.parliament.go.th/ebook/content-issue/2560/hi2560-004.pdf

พงศธร พอกเพิ่มดี. (2561). แผนยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ด้านสาธารณสุข (พ.ศ.2560 - 2579). (พิมพ์ครั้งที่ 2). นนทบุรี: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข.

พรกมล บริพัตรโกศล. (2563). ปัจจัยที่สัมพันธ์และผลกระทบของการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่สมเหตุผลในผู้ป่วยที่ติดเชื้อแบคทีเรียแกรมลบในกระแสเลือด. ลำปางเวชสาร, 41(2), 84-95.

ไพศาล ไกรรัตน์ และคณะ. (2561). ตัวแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการพัฒนาระบบบริการอนามัยสิ่งแวดล้อมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. วารสารชุมชนวิจัย, 12(3),185-199.

วิรัช ประวันเตา และคณะ. (2562). การพัฒนารูปแบบองค์กรที่มีสมรรถนะสูงในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพระดับจังหวัด. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 28(2), S172-184.

วิษณุ ธรรมลิขิตกุล. (2555). การดื้อยาต้านจุลชีพ: ความสำคัญต่อระบบสุขภาพและแนวทางการควบคุมและป้องกัน. วารสารวิจัยระบบสาธารณสุข, 6(3), 300-305.

ศิรภัสสร มูลสาร และคณะ. (2564). ปัจจัยการบริหารและกระบวนการบริหารที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของแพทย์แผนไทยในโรงพยาบาลสงเสริมสุขภาพตำบล เขตสุขภาพที่ 10. วารสารวิชาการสาธารณสุข, 7(1), 74-86.

ศูนย์เฝ้าระวังเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพแห่งชาติ (NARST). (2561). สถานการณ์เชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ 2000 - 2018 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์. เรียกใช้เมื่อ 9 เดือนธันวาคม 2561 จาก http://narst.dmsc.moph.go.th/data/AMR%202000-2018-12M.pdf

สุนิสา ธิปัตย์ และคณะ. (2563). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการเป็นองค์กรสมรรถนะสูงของกรมแพทย์ทหารบก. วารสารสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ, 11(2), 103-118.

สุภมาส อังศุโชติ และคณะ. (2557). สถิติวิเคราะห์สำหรับการวิจัยทางสังคมศาสตร์และพฤติกรรมศาสตร์: เทคนิคการใช้โปรแกรม LISREL. (พิมพ์ครั้งที่ 4 ฉบับปรับปรุง). กรุงเทพมหานคร: เจริญดีมั่นคงการพิมพ์.

Baral, R. (2015). Organizational Culture and its Implications on Infection Prevention and Control. Journal of Pathology of Nepal, 5(10), 865-868.

Chen, P. I. et al. (2021). Multi - Drug Resistant Organisms Infection Impact on Patients Length of Stay in Respiratory Care Ward. Antibiotics. Retrieved July 22, 2021, จาก https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC8160736/

Frieden, T. R. (2014). Six Components Necessary for Effective Public Health Program Implementation. American Journal of Public Health, 104(1), 17-22.

Gulick, L. & Urwick , L. (1973). The Science of Administration. New York: Columbia University.

Hair, J. F. et al. (2010). Multivariate Data Analysis. (7th ed.). New York: Pearson.

Henig, O. et al. (2020). The Impact of Multidrug - Resistant Organisms on Outcomes in Patients With Diabetic Foot Infections. Retrieved July 22, 2021, from https://academic.oup.com/ofid/article/7/5/ofaa161/5831399

O’Neill, J. (2014). Review on antimicrobial resistance. Antimicrobial resistance: Tackling a crisis for the health and wealth of nations. London: Wellcome trust.

Peters. J. T. & Waterman, H. R. (1980). Search of excellence: Lessons from America’s. New York: John Willey.

Valaitis, R. et al. (2018). Organizational factors influencing successful primary care and public health collaboration. BMC Health Services Research, 18(420), 1-17.

Weihrich, H. & Koontz, H. (1993). Management, A Global Perspective. New York: McGraw - Hill.

World Health Organization. (2014). Antimicrobial resistance: global report on surveillance. Retrieved January 3, 2019, from https://apps.who.int/iris/bitstream/handle/10665/112642/9789241564748_eng.pdf

World Health Organization. (2018). Antimicrobial resistance. Fact Sheets. Retrieved May 19, 2019, from https://www.who.int/en/news-room/fact-sheets/detail/antimicrobial-resistance

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

11/29/2021

รูปแบบการอ้างอิง

อจลพงศ์ ส. ., สุวรรณ ป., & จันทรโมลี ส. (2021). โมเดลสมการโครงสร้างของปัจจัยทางการบริหารที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการดำเนินงานป้องกันและควบคุมเชื้อดื้อยาต้านจุลชีพ โรงพยาบาลระดับตติยภูมิ. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(11), 290–306. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/252675

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย