รูปแบบการบริหารสำนักศาสนศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ในเขตปกครองคณะสงฆ์ ภาค
คำสำคัญ:
รูปแบบการบริหาร, สำนักศาสนศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี, เขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 8บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการบริหาร การพัฒนาและประเมินรูปแบบการบริหารสำนักศาสนศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ในเขตปกครองคณะสงฆ์ ภาค 8 ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสานวิธี การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ตอน คือ ตอนที่ 1 ศึกษาสภาพการบริหารสำนักศาสนศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ในเขตปกครองคณะสงฆ์ ภาค 8 ตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบการบริหารสำนักศาสนศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ในเขตปกครองคณะสงฆ์ ภาค 8 และตอนที่ 3 ประเมินรูปแบบฯ ด้านความเป็นประโยชน์และความเป็นไปได้ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารและครูสอน รวม 274 รูป ซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลเชิงปริมาณ และผู้เชี่ยวชาญการบริหารสำนักศาสนศึกษาพระปริยัติธรรม จำนวน 7 รูป เป็นผู้ให้ข้อมูลเชิงคุณภาพ เครื่องมือวิจัย คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูป และข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เชิงเนื้อหา (Content Analysis) ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลการศึกษาสภาพการบริหารสำนักศาสนศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกบาลี ในเขตปกครองคณะสงฆ์ ภาค 8 มีการปฏิบัติการจัดการศึกษาตามงานหลักทั้ง 8 งาน อยู่ในระดับมาก 2) ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารสำนักศาสนศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ในเขตปกครองคณะสงฆ์ ภาค 8 ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 งานหลักในการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ประกอบด้วย 8 งานย่อย องค์ประกอบที่ 2 กระบวนการบริหาร 4 ขั้นตอน และองค์ประกอบที่ 3 คือ วิธีการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้บริหารและครู 3) ผลการประเมินรูปแบบฯ ด้านความเป็นประโยชน์และความเป็นไปได้ พบว่าทั้ง 2 ด้าน แต่ละด้าน ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
เอกสารอ้างอิง
กรมการศาสนา. (2541). รายงานการวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรมบาลี. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนา.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2552. กรุงเทพมหานคร: บริษัทสยามสปอรต์ ซินดิเคท จำกัด.
พระครูสิริสุธรรมวงศ์ (เติมพงฺศ์ มาตย์นอก). (2563). รูปแบบการบริหารงานวิชาการของสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ในจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์.
พระมหาสหัส ฐิตสาโร(ดำคุ้ม). (2551). การพัฒนารูปแบบการบริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณีราชวิทยาลัยที่มีประสิทธิผล. ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
รัตนะ บัวสนธ์. (2550). การบริหารโครงการ: แนวทางสู่ความสำเร็จ. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2554). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน. กรุงเทพมหานคร: นานมีบุคพับลิเคชั่นส์.
Fetterman, D. M. (1996). Empowerment Evaluation: An Introduction to Theory and Practice. In Fetterman, D.M., Kaftarian, S.J., Wandersman, A. (Eds). Empowerment Evaluation: Knowledge and Tools for Self - assesment and Accountability. Thousand Oaks, CA.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size of Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–640.
Kusek, J. Z. & Rist, R. C. (2004). Ten Steps to a Results – based Monitoring and Evaluation System:A Handbook for Development Practitioners. Washington, D.C.: The International Bank for Reconstruction and Development/ The World Bank.
Stufflebeam, D. L. & Shinkfield, A. (2007). Evaluation Theory Models and Applications. SanFrancisco, CA: Jossey-Bass.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




