พัฒนาการของการนำเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงพลิกผันมาใช้ในสถาบันอุดมศึกษาไทย
คำสำคัญ:
พัฒนาการของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงพลิกผัน, เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงพลิกผัน, สถาบันอุดมศึกษาไทยบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาลักษณะและพัฒนาการของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงพลิกผันที่นำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้ของสถาบันอุดมศึกษาไทยกลุ่มตัวอย่างของการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยและอาจารย์ผู้สอน จำนวน 345 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือของการวิจัย เป็นแบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่าน มีความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.977 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสรุปผลของการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ การวิเคราะห์ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผู้วิจัยประยุกต์ใช้โมเดลวุฒิภาวะของการนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์การ 5 ระยะตามแนวคิดของการ์ทเนอร์ ผลการวิจัยพบว่า เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงพลิกผันซึ่งสถาบันอุดมศึกษาไทยนำมาใช้ ได้แก่ บิ๊กดาต้า อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง ภาษามาร์กอัป HTML5 ระบบการพิมพ์สามมิติ การประมวลผลบนคลาวด์เพื่อพัฒนางานภายในมหาวิทยาลัย เกมมิฟิเคชั่นเพื่อการศึกษา ระบบคอมพิวเตอร์ในคลาวด์ เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ มีพัฒนาการหรือวุฒิภาวะอยู่ในระยะที่ 3 คือ ระยะต่ำสุดของความคาดหวัง โดยลักษณะของเทคโนโลยีทางการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงพลิกผันที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในสถาบันอุดมศึกษาไทยเรียงตามลำดับระยะเวลาของการปรากฏขึ้นครั้งแรก ได้แก่ การประมวลผลบนคลาวด์เพื่อพัฒนางานภายในมหาวิทยาลัย ภาษามาร์กอัป HTML5 ระบบการพิมพ์สามมิติ บิ๊กดาต้า เกมมิฟิเคชันเพื่อการศึกษา อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง ระบบคอมพิวเตอร์ในคลาวด์ เทคโนโลยีโลกเสมือนจริง และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยรวมมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 3.40 มีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.74 เมื่อพิจารณารายประเภทมีพัฒนาการกระจุกตัวหนาแน่นเคลื่อนตัวเกาะกลุ่มกันเป็นคลัสเตอร์ มีคะแนนเฉลี่ยตั้งแต่ 3.26 ถึง 3.48 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานตั้งแต่ 0.71 ถึง 0.78
เอกสารอ้างอิง
พระราชบัญญัติยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580. (2561). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนที่ 82 ก. .
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2557). แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารเพื่อการศึกษา (พ.ศ. 2557-2559). เรียกใช้เมื่อ 9 พฤษภาคม 2563 จาก http://www.bict.moe.go.th/
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. (2550). กรอบแผนอุดมศึกษาระยะยาว 15 ปี ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2551-2565). กรุงเทพมหานคร: กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564). กรุงเทพมหานคร: สำนักนายกรัฐมนตรี.
สำนักนโยบายและแผนการอุดมศึกษา. (2561). สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา. แผนอุดมศึกษาระยะยาว 20 ปี พ.ศ. 2561-2580. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC). (2554). กรอบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระยะ พ.ศ. 2554-2563 ของประเทศไทย (ICT 2020) ฉบับได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี 22 มีนาคม 2554. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
Bradford, D. J. (2010). Emerging and disruptive technologies for education: An analysis of planning, implementation, and diffusion in Florida’s eleven state university system institutions. In Doctoral Dissertation. University of Central Florida Orlando, Florida.
Christensen, C. M. (1997). The Innovator’s Dilemma: When New Technologies Cause Great Firms to Fail The Management of Innovation and Change Series (Revised Ed.). Boston, MA: Harvard Business School Press.
Combs, D. C. & Meskó, B. (2015). Disruptive Technologies Affecting Education and Their Implications for Curricular Redesign. Elsevier Journal The Transformation of Academic Health Centers, 7(1), 57-68.
Cronbach, L. J. (1943). On Estimates of Test Reliability. Journal of Educational Psychology, 34(1), 485-494.
Davis, F. D. & Venkatesh, V. (1996). A critical assessment of potential measurement biases in the Technology Acceptance Model: Three experiments. International Journal: Human-Computer Studies, 45(1), 19-45.
Gartner Research. (1995). Technological Maturity Gartner Hype Cycle for Emerging Technology. London: Gartner Inc.
Holmes, W. et al. (2019). Artificial intelligence in education: Promises and implications for teaching and learning. London: Independently Published.
Horváth, I. (2016). Disruptive Technologies in Higher Education. In 7th IEEE International Conference on Cognitive Infocommunications (CogInfoCom 2016). Wroclaw, Poland.
Kumar, S. (2013). Learnnovators: Bringing Innovation to Learning F. Magazine, Producer. Retrieved June 23, 2019, from http//learnnovators.com/top-11disruptive-e-learning-technologies-for-2013/
Likert, R. (1932). A Technique for the Measurement of Attitudes. Archives of Psychology, 22(140), 1-55.
Marquis, J. (2012). Forecasting the future of educational. Retrieved June 5, 2019, fromhttps://www.onlineuniversities.com/blog/2012/07/forecastingfuture-education/
Osman, G .& et al. (2013).
Understanding Management Students’ Reflective Practice through Blogging. The Internet and Higher Education, 16(13), 23-31.
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis (3rd Ed). New York: Harper & Row.
Zappa, M. (2014). Envisioning the Future of Education Technology. Retrieved May 9, 2019, from http://envisioning.io/education/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




