การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยสำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์

ผู้แต่ง

  • อรทัย เจริญสิทธิ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
  • รัชนีวรรณ เพ็งปรีชา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ

คำสำคัญ:

แผนการจัดการเรียนรู้, ทักษะการวิจัย, คหกรรมศาสตร์, นักศึกษาวิชาชีพครู

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ              การวิจัยสำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ และศึกษาผลที่เกิดกับผู้เรียนจากการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ฯ ซึ่งเป็นการวิจัยและพัฒนา แบ่งเป็น 4 ระยะคือ 1) การศึกษาแนวคิด ทฤษฎี 2) การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ฯ 3) การทดลองใช้แผนการจัดการเรียนรู้ฯ และ 4) การปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ฯ กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาคหกรรมศาสตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ จำนวน 84 คน โดยการเลือกตัวอย่างแบบเจาะจง ผลการวิจัย พบว่า 1) แผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยสำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู สาขาคหกรรมศาสตร์ มีจำนวน 7 แผนการจัดการเรียนรู้ รวมเวลา                     52 ชั่วโมง ผลการประเมินคุณภาพของแผนการจัดการเรียนรู้จากผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก (M = 4.34, S.D. = 0.48) โดยด้านกิจกรรมการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับดีมาก (M = 4.51, S.D. = 0.40) ด้านจุดประสงค์การเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับดีมาก                   (M = 4.43, S.D. = 0.57) และด้านหน่วยการเรียนรู้มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับดีมาก (M = 4.25,    S.D. = 0.63) และ 2) ผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนจากการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ฯ เมื่อพิจารณาจากคุณภาพงานวิจัยพบว่า ในภาพรวมคะแนนเฉลี่ยของคุณภาพงานวิจัยอยู่ในระดับดีมาก (80.50%) ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดสามอันดับ คือ 1) วิธีดำเนินการวิจัย (88.10%) 2) การกำหนดปัญหา (83.25%) และ 3) บทนำ (82.64%) ส่วนเจตคติต่อการวิจัยของผู้เรียน พบว่า ผู้เรียนมีเจตคติต่อการวิจัยในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (M = 3.93, S.D. = 0.89) โดยด้านความสำคัญและคุณค่าของการวิจัยอยู่ในระดับมาก (M = 4.02, S.D. = 0.86) และด้านเจตคติต่อการวิจัยในชั้นเรียนอยู่ในระดับมาก (M = 3.92, S.D. = 0.87)

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพืคุรุสภาลาดพร้าว.

จุฑา ธรรมชาติ. (2560). ผลการสอนปฏิบัติการตามแนวคิดวิจัยเป็นฐานที่มีต่อทักษะพื้นฐานทางการวิจัย และเจตคติต่อการวิจัยของนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี. วารสารวิทยบริการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 7(2), 64-72.

บุญชม ศรีสะอาด . (2550). วิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัย. กาฬสินธุ์: โรงพิมพ์ประสานการพิมพ์.

ภัทราพร เกษสังข์ และคณะ. (2561). สมรรถนะและการประเมินความต้องการจำเป็นเพื่อพัฒนาวิชาชีพครูในศตวรรษที่ 21 ของครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมจังหวัดเลย. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย , 11(1), 132-145.

วิจารณ์ พาณิช. (2552). การศึกษาองค์ความรู้เกี่ยวกับคุณลักษณะของคนไทยที่พึงประสงค์: เชาวน์ทางปัญญา. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

สมชัย เทพสมบัติ และคณะ. (2563). ยุทธศาสตร์การพัฒนาสมรรถนะด้านการวิจัยของครูในวิทยาลัยครูปากเซสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร , 8(4), 1380-1393.

สายฝน แสนใจพรม. (2564). การพัฒนาความสามารถด้านการวิจัยของครูที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์. วารสารวิจัยราชภัฏ, 22(1), 133-148.

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ. (2561). (ร่าง) ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรม 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579). กรุงเทพมหานคร: บริษัท โคคูน แอนด์ โค จำกัด.

สุรศักดิ์ แซ่เอี้ยน และคณะ. (2559). การศึกษาอิทฺธิพลของความสามารถในการวิจัย แรงจูงใจในการทำวิจัย และกระบวนการสนับสนุนจากโรงเรียนต่อความต่อเนื่องของการวิจัยของครู: การประยุกต์ใช้โมเดลพื้นผิวการตอบสนอง. วารสารวิธีวิทยาการวิจัย, 29(2), 157-181.

สุวิธิดา จรุงเกียรติกุล. (2558). การนำเสนอแนวทางการจัดการศึกษาตลอดชีวิตเพื่อขับเคลื่อนชุมชนการเรียนรู้ในบริบทสังคมและวัฒนธรรมของประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Anwaruddin, S. M. & Pervin, N. (2015). English-language teachers’ engagement with research: findings from Bangladesh. Professional Development in Education, 41(1), 21-39.

Barrows, H. S. (2000). Problem based learning applied to medical education. Springfield IL: Southern Illinois University Press.

Billings, E. et al. (2013). Teaching with the Mathematical Practices in Mind. Mathematics Teaching in the Middle School, 19(2), 100-107.

Breckler, R. L. (1986). The Social Work Dictation (3rd.). Washington DC: Nasw Press.

Ferrance, E. (2000). Action research. Retrieved Dec 15, 2019, from http://www. alliance.brown.edu

Good, C. V. (1973). Dictionary of Education. New York: McGraw-Hill Book.

Locke E. A. & Latham, G. P. (1990). A Theory of Goal Setting and Task Performance. Englewood Cliffs, NJ: Prentice-Hall.

Maslow, A. H. (1954). Motivation and Personality. New York: Harper and Brother.

McNiff, J. & Whitehead, J. (2011). All you need to know about action research (2nd ed.). California, CA: Sage Publications.

Phillips D. K. & Carr, K. (2014). Becoming a teacher through action research (3rd ed.). Oxford: Routledge.

Robbins, S. P. (1996). Prentice Hall Organization Behavior :Concept, Controversies and Applications (7th ed.) Englewood Cliffs. NJ: Prentice Hall.

Silvia, A. et al. (2018). Holistic Approaches to Develop Sustainability and Research Competencies in Pre-Service Teacher Training. Sustainability, 10(10), 1-20.

Willison, J. & O’ Regan, K. (2005). An information literacy continuum for students primary school to post graduation. Proceedings from the HERDSA Conference, 3-6 July, 2005, Sydney. Retrieved Jun 28, 2019, from http://www.adelaide.edu.au/clpd/rS.D./

Willison, J. (2016). PhD prepared: research skill development across the undergraduate years. International Journal for Researcher Development, 7(1), 63-83.

Y Yennita & A Y Zukmadini. (2021). Problem-based learning (PBL) and blended learning in improving critical thinking skills and student learning activities in biochemistry courses. J. Retrieved Jul 30, 2019, from https://iopscience. iop.org

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

03/30/2022

รูปแบบการอ้างอิง

เจริญสิทธิ์ อ. . ., & เพ็งปรีชา ร. . (2022). การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะการวิจัยสำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(3), 407–421. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/254080

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย