มรดกภูมิปัญญาเชิงวัฒนธรรมมลายูส่งผ่านกระบวนการสื่อสาร ข้ามวัฒนธรรมโดยใช้เทคโนโลยีสืบทอดเสมือนจริง
คำสำคัญ:
มรดกภูมิปัญญาเชิงวัฒนธรรมมลายู, การสื่อสารข้ามวัฒนธรรม, เทคโนโลยีเสมือนจริงบทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทบทวนองค์ความรู้เกี่ยวกับแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสื่อสาร การสื่อสารข้ามข้ามวัฒนธรรมและการแพร่กระจายวัฒนธรรม รวมทั้งความรู้ที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีความจริงเสมือน ทั้งนี้เพื่อนำเอาองค์ความรู้ดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ในการสืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางศิลปะและวัฒนธรรมมลายูปัตตานี ผลการศึกษาองค์ความรู้พบว่า ในงานศิลปะมลายูดั้งเดิมนั้นจะสะท้อนถึงวัฒนธรรมมลายูปัตตานีซึ่งเปรียบเสมือน กับมรดกภูมิปัญญาทางศิลปะและวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์มลายูนั้นที่ทรงคุณค่าของชุมชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ และงานศิลปะที่แสดงถึงวัฒนธรรมเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดผ่านงานศิลปะหลายรูปแบบ ทั้งงานจิตรกรรมและงานสถาปัตยกรรมรวมทั้งศิลปะการแสดง เช่น การเต้นรองเง็ง ซัมเปงมะโย่ง จากมะโย่งถึงโนรา วายังเซียม ลิเกฮูลู กรือโต๊ะ ดาระ และบานอร์ ซึ่งมีความสวยงามและมีอัตลักษณ์ที่แสดงถึงตัวคนของชาวมลายูอย่างชัดเจน และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่องานศิลปะมลายูปัตตานีนั้น นอกเหนือไปจากปัจจัยทางด้านภูมิศาสตร์และวิถีชีวิตแล้ว ปรัชญาชีวิต คติความเชื่อทางศาสนาอิสลามที่สืบทอดกันมาเป็นระยะเวลานานก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดรูปแบบศิลปวัฒนธรรมมลายูปัตตานีเช่นกัน ซึ่งการจะอนุรักษ์และสืบทอดศิลปะและวัฒนธรรมมลายูปัตตานีให้คงอยู่ต่อไปนั้น จำเป็นต้องอาศัยการมีส่วนร่วมทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชนและจากชุมชนเอง เช่น การเข้าร่วมงานนิทรรศการการแสดงศิลปะต่าง ๆ ที่จัดขึ้น นอกจากนี้แล้วผู้คนในชุมชนยังสามารถดำเนินการสืบทอดศิลปะและวัฒนธรรมฯ ด้วยกระบวนการแพร่กระจายวัฒนธรรมผ่านกระบวนการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม ด้วยการจัดทำวิดีทัศน์และสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีความหลากหลายผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีความจริงเสมือนและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เอกสารอ้างอิง
กษมาพร แสงสุระธรรม. (2558). ในนิยาม “ความเป็นไทย” : “ศิลปะจากปัตตานี” ในเวทีการประกวดศิลปกรรมไทย พ.ศ. 2549-2558. วารสารสังคมวิทยามานุษยวิทยา, 34(1), 81-106.
คณะอนุกรรมการและประสานงานวันอนุรักษ์มรดกไทย. (2563). วันอนุรักษ์มรดกไทย. เรียกใช้เมื่อ 22 เมษายน 2564 จาก https://www.m-culture.go.th/ phatthalung/ewt_news.php?nid
คำล่า มุสิกา. (2556). การจัดการมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน กรณีศึกษา: ฟ้อนกลองตุ้มจังหวัดอุบลราชธานี. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ (สกว.), 5(6), 21-37.
เจะอับดุลเลาะ เจ๊ะสอเหาะ. (2561). “ปาตานี อาร์ตสเปซ” รากเหง้าศิลปะมลายู. เรียกใช้เมื่อ 6 มกราคม 2564 จาก https://voicetv.co.th/read/MGHGeb2IM
ฉัตรพงศ์ ชูแสงนิล. (2562). Immersive Technology เทคโนโลยีเสมือนที่จะทำให้เรา “อิน”. เรียกใช้เมื่อ 16 มกราคม 2564 จาก https://www.scimath.org/article-technology/item/10457-immersive-technology
ชญาดา รัตนพันธ์. (2560). วิเคราะห์เปรียบเทียบการแสดงรองเง็งฝั่งตะวันออกกับฝังตะวันตก. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา, 11(1), 71-82.
ณายิบ อาแวบือซา. (2556). สถาปัตยกรรมมลายูในท้องถิ่นสามจังหวัดภาคใต้. ใน การบรรยาย วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2556 ห้องประชุมชั้น 2 มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์. มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์.
นาจิ๊บ บิน ออหมัด. (2559). บรรยายสาธารณะ: สถาปัตยกรรมมลายูในท้องถิ่นสามจังหวัดภาคใต้. เรียกใช้เมื่อ 20 มีนาคม 2564 จาก https://lek-prapai.org/ home/view.php?id=1043
บุญชู บุญลิขิตศิริ. (2561). การออกแบบสื่อความเป็นจริงเสริมหอศิลปะและวัฒนธรรมภาคตะวันออก. วารสารสารสนเทศศาสตร์, 36(3), 19-41.
ปัญญา เทพสิงห์ และเก็ตถวา บุญปราการ. (2559). ภูมิปัญญาท้องถิ่นในวัฒนธรรมชายแดนไทย-มาเลเซีย : กรณีศึกษาชุมชนโล๊ะจูด จังหวัดนราธิวาส. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, 11(1), 19-38.
พัชราภา เอื้ออมรวนิช. (2560). การสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม. วารสารวิชาการคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 2(3), 97-102.
พัชรีพร วรจักร. (2559). รูปแบบการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมของสถาบันอุดมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ใน ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์. มหาวิทยาลัยบูรพา.
พิมพ์มณี ชาติสมบูรณ์. (2562). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการสื่อสารข้ามวัฒนธรรมของพนักงานชาวไทยในองค์กรเอกชนต่างชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางในการสื่อสาร. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ภาสกร ใหลสกุล. (2559). ดื่มด่ำล้ำลึกด้วย Immersive Technology. เรียกใช้เมื่อ 20 กุมภาพันธ์ 2564 จาก https://tednet.wordpress.com/2015/07/31/ดื่มด่ำล้ำลึกด้วย-immersive-technology
มานิตย์ กันทะสัก. (2560). พุทธศิลปกรรมล้านนา: แนวคิด คุณค่า การสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างจิตวิญญาณและการเรียนรู้ของสังคม. ใน รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์เชียงราย.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2530). พจนานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติ. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
สถาบันนาฏดุริยางคศิลป์. (2542). วิพิธทัศนา. กรุงเทพมหานคร: บริษัทเซเว่น พริ้นติ้งกรุ๊ป.
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล. (2563). “ดีป้า” ยกขบวนดิจิทัลสตาร์ทอัพเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนำเสนอเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ช่วยยกระดับการศึกษาไทยในยุคดิจิทัล. เรียกใช้เมื่อ 20 กันยายน 2564 จาก https://www. depa.or.th/th/article-view/20200220_04
สุนทรียา ไชยปัญหา และอุรารักษ์ ศรีประเสริฐ. (2559). แนวคิด ทฤษฎีวัฒนธรรมการจัดการ : การปรับตัวภายใต้ความแตกต่างทางวัฒนธรรม. วารสารวิชาการ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม, 1(2), 104-116.
เหมือนพิมพ์ สุวรรณกาศ. (2551). สถาปัตยกรรมมลายูในท้องถิ่นสามจังหวัดชายแดนใต้. เรียกใช้เมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2565 จาก https://lek-prapai.org/home/ view.php?id=150
เอื้องฟ้า ถาวรรักษ์. (2555). การอนุรักษ์ สืบทอดศิลปะการแสดงพื้นบ้านชาวกะเหรี่ยง “รำตง” อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี. กาญจนบุรี: สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี.
Barnett, H. G. (1953). The Basis of Cultural Change. New York: McGrawhill.
Berlo, K. (1960). The Process of Communication. New York: Hoit, Rinehart and Winston.
Boas, F. (1970). The social organization and the secret societies of the Kwakiutl Indians/by Franz Boas. New York: Johnson Reprint Corp.
Rogers, E. M. & Shoemaker, F. F. (1971). Communication of Innovations : A Cross Cultural Approach. New York: The Free Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




