ความรอบรู้ด้านสุขภาพและปัจจัยทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพของพระสงฆ์ในจังหวัดนครพนม
คำสำคัญ:
ความรอบรู้ด้านสุขภาพ, ปัจจัยทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ, พระสงฆ์บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพ 2) ศึกษาระดับพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ 3) ศึกษาปัจจัยทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ ของพระสงฆ์ในจังหวัดนครพนม เป็นการวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง (Cross - Sectional Survey) โดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงทำนาย (Predictive Research) กลุ่มตัวอย่างเป็นพระสงฆ์ที่ได้จากการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ ตามสัดส่วนของพระสงฆ์ จำนวน 256 รูป เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคล แบบสอบถามความรอบรู้ด้านสุขภาพ และแบบสอบถามพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพของพระสงฆ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัย พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความรอบรู้ด้านสุขภาพอยู่ในระดับดีมาก คิดเป็นร้อยละ 45.7 รองลงมาอยู่ในระดับพอใช้ และไม่ดีพอ คิดเป็นร้อยละ 35.5 และ 18.8 ตามลำดับ ส่วนพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 49.3 รองลงมาอยู่ในระดับปานกลางและน้อย คิดเป็นร้อยละ 40.2 และ 10.5 ตามลำดับ ความรอบรู้ด้านสุขภาพร่วมกับจำนวนพรรษาที่บวชสามารถทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพของพระสงฆ์ได้ร้อยละ 68.2 (Adjust R2 = .682, F = 275.055, P - Value < 0.001) โดยมีสมการทำนายพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพในรูปของคะแนนมาตรฐาน คือ พฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพ = 0.797 (ความรอบรู้ด้านสุขภาพ) + 0.121 (จำนวนพรรษาที่บวช) ดังนั้น ควรส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพให้แก่พระสงฆ์ โดยการออกแบบกระบวนการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพให้มีความเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปสู่การมีพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพที่พึงประสงค์ต่อไปในอนาคต
เอกสารอ้างอิง
กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ. (2562). เครื่องมือสร้างเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพในสถานบริการสุขภาพ. เรียกใช้เมื่อ 2564 กรกฎาคม 30 จาก http://www.hed.go.th/linkHed/389
โกนิฏฐ์ ศรีทอง และคณะ. (2564). สถานการณ์ความรอบรู้ด้านสุขภาพของพระสงฆ์ในสังคมไทย. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร., 9(5), 1793-1804.
ขนิษฐา วิศิษฏ์เจริญ และคณะ. (2564). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลและความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อภาวะสุขภาพของพระสงฆ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์, 13(1), 266-282.
ชลิดา แย้มศรีสุข และกนกรัชต์ เก่าศิริ. (2560). พุทธทายาทกับสังคมไทย. วารสารวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง, 6(1), 99-104.
เตชภณ ทองเติม. (2562). ปัจจัยที่มีผลต่อกิจกรรมทางกายของพระภิกษุสูงวัยในจังหวัด ศรีสะเกษ. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(9), 4425-4437.
ปาจรา โพธิหัง. (2564). ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในประเทศไทย: การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 29(3), 115-130.
พระปลัดไกรสร เกสโร (ปานดวง) และคณะ. (2564). พฤติกรรมการดูแลสุขภาพของพระสงฆ์ในเขตตําบลประสงค์ อําเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 8(5), 231-247.
โรงพยาบาลสงฆ์ กรมการแพทย์. (2562). รายงานประจำปี พ.ศ. 2563 โรงพยาบาลสงฆ์. เรียกใช้เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2564 จาก https://www.priest-hospital.go.th/pdf/ 2563/mobile/index.html
โรชินี อุปรา และทักษิกา ชัชวรัตน์. (2559). โรคเรื้อรัง : ผลกระทบต่อสุขภาพพระสงฆ์ และแนวทางการส่งเสริมสุขภาพ. วารสารการพยาบาล การสาธารณสุขและการศึกษา, 17(3), 17-23.
ลภัสรดา วรดาภคนันท์. (2563). การศึกษาวิเคราะห์ความรอบรู้ด้านสุขภาพและพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของพระสงฆ์ตามหลักพระธรรมวินัยที่เอื้อต่อการปฏิบัติตามหลักสุขบัญญัติ. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์, 16(2), 129-138.
ศรีเมือง พลังฤทธิ์. (2562). สถานะสุขภาพและแนวทางการสร้างเสริมสุขภาพของพระภิกษุสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 37(2), 133-142.
สมเกียรติ รามัญวงศ์ และคณะ. (2561). การส่งเสริมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมของพระสงฆ์ในจังหวัดลพบุรี. วารสารรัชต์ภาคย์, 12(25), 94-107.
สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม. (2563). ข้อมูลพระสงฆ์ในจังหวัดนครพนม. เรียกใช้เมื่อ 2564 กรกฎาคม 30 จาก http://npm.onab.go.th/index.php
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. (2562). รายงานประจำปี 2562. เรียกใช้เมื่อ 4 พฤศจิกายน 2564 จาก https://www.onab.go.th/th/content/category/ detail/id/482/iid/6471
สำนักงานสนับสนุนบริการสุขภาพ เขต 8 จังหวัดอุดรธานี. (2562). แนวคิดการจัดทำการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของพระสงฆ์ในพื้นที่เขต 8 อุดรธานี. เรียกใช้เมื่อ 30 กรกฎาคม 2564 จาก https://r8way.moph.go.th/ r8wayadmin/page/uploads_file /20190211105932_Slide_%20ชี้แจงโครงการพระสงฆ์%20PPA.pdf
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม. (2563). ข้อมูลการคัดกรองสุขภาพพระสงฆ์ในจังหวัดนครพนม. เรียกใช้เมื่อ 2564 กรกฎาคม 30 จาก http://203.157.176.17/cockpit63 /main/index2.php
อังศินันท์ อินทรกำแหง. (2560). ความรอบรู้ด้านสุขภาพ: การวัดและการพัฒนา. กรุงเทพมหานคร: สถาบันวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
Aaby, A. et al. (2017). Health literacy is associated with health behaviour and self-reported health:a large population-based study in individuals with cardiovascular disease. European Journal of Preventive Cardiology, 24(17), 1880-1888.
Bloom, B. (1971). Mastery learning. New York: Holt, Rinehart & Winston.
Burns, N. & Grove, S. K. (2005). The practice of nursing research: conduct, critique, and utilization (5th Ed.). Missouri: Elsevier Saunders.
Cohen, J. (1988). A power primer. Psychological Bulletin, 112(1), 155-159.
Hsieh, Y. F. et al. (1998). A simple method of sample size calculation for linear and logistic regression. Statistics in Medicine, 17(14), 1623-1634.
Nutbeam, D. (2008). The evolving concept of health literacy. Social Science and Medicine, 67(1), 2072-2078.
Pitts, P. J., & Freeman, E. (2021). Health literacy: the common denominator of healthcare progress. The Patient-Patient-Centered Outcomes Research, 14(5), 455-458.
Yun-Mi, L. et al. (2017). Impact of health literacy on medication adherence in older people with chronic diseases. Collegian, 24(1), 11-18.




