การประยุกต์ใช้หลัก 5 ดีของพุทธทาสภิกขุเพื่อการแนะแนวส่วนตัว และสังคมสำหรับการพัฒนาตน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาและวิเคราะห์การแนะแนวส่วนตัวและสังคมฯ 2) ศึกษาและวิเคราะห์กระบวนการและวิธีการแนะแนวฯ และ 3) ศึกษาและวิเคราะห์การนำหลัก 5 ดี ของพุทธทาสภิกขุไปประยุกต์ใช้ในการแนะแนวส่วนตัวและสังคมสำหรับการพัฒนาตน ดำเนินการวิจัยในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้ระเบียบวิจัยวิธีเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 8 คน/รูป และการสนทนากลุ่มเฉพาะผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน/รูป และวิเคราะห์ข้อมูลใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) พุทธทาสภิกขุได้แนะแนวให้ทุกคนในแต่ละสถานะได้เคารพเชื่อฟังผู้มีพระคุณและมีความกตัญญูรู้คุณ 2) กระบวนการแนะแนวของพุทธทาสภิกขุมี 5 ประการ ได้แก่ บริการรวบรวมข้อมูลเป็นรายบุคคล, บริการให้ข้อสนเทศ, บริการให้คำปรึกษา, บริการจัดวางตัวบุคคล และบริการติดตามผล ส่วนวิธีการแนะแนวของท่านมี 3 ประการ ได้แก่ การแนะแนวให้รู้ด้วยคำพูด, ด้วยการทำให้ดู อยู่ให้เห็น และด้วยการแสดงความสุขให้ดู และ 3) การประยุกต์ใช้หลัก 5 ดีของพุทธทาสภิกขุในการแนะแนวส่วนตัวและสังคม สรุปได้ 3 ประการ คือ ประการแรก     พ่อแม่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องความกตัญญู และปลูกฝังให้เด็กดีผ่านกระบวนการกล่อมเกลาทางสังคม ประการที่สอง ในระดับปฐมวัย ครูควรใช้กิจกรรมเล่านิทานคุณธรรม ส่วนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ครูควรใช้กิจกรรมการเรียนการสอนแบบ Constructivism เพื่อให้เด็กคิดได้และเป็นคนดี ประการที่สาม หน่วยงานทางการศึกษาควรพัฒนาหลักสูตรพุทธทาสศึกษา (5 ดี) ให้ทันสมัย และมีงบประมาณเพื่อพัฒนาครู