การใช้กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมแรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับประถมศึกษา
คำสำคัญ:
กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษ, แรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ, แนวทางการใช้กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) ศึกษาแนวทางการใช้กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษเพื่อส่งเสริมแรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับประถมศึกษา และ 2) ศึกษาผลการใช้กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนประถมศึกษา ปี 4 - 6 จำนวน 93 คน จากโรงเรียนเครือข่ายฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูของคณะครุศาสตร์ จำนวน 2 โรงเรียน คือโรงเรียนนาครัวประชาสามัคคี 29 คน และโรงเรียนบ้านใหม่พัฒนา 64 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการทำวิจัย ประกอบด้วย 1) แบบสอบถามแรงจูงใจ 2) แบบทดสอบ และ 3) แบบสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ผลการวิจัยพบว่า 1) แนวทางที่จะพัฒนาความสามารถด้านการพูดเพื่อการสื่อสารภาษาอังกฤษ (English speaking ability) คือการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านกิจกรรมฐานการเรียนรู้ ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อส่งเสริมแรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ แบ่งออก 3 ด้าน ดังนี้ ด้านความสนใจในกิจกรรม ด้านความกล้าแสดงออก และด้านความสนุกสนานในการเข้าร่วมกิจกรรม และยังส่งเสริมพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มรายบุคคล ซึ่งแบ่งออก 2 ด้าน คือ ด้านการรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น และด้านความร่วมมือในการทำกิจกรรม และ 2) การใช้กิจกรรมค่ายภาษาอังกฤษสามารถส่งเสริมแรงจูงใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับประถมศึกษาได้ โดยผลการศึกษาอยู่ในระดับมาก ผลคะแนนแบบทดสอบหลังเข้าร่วมกิจกรรมสูงกว่าก่อนเข้าร่วมกิจกรรมจากโรงเรียนที่ 1 ประถมศึกษาปีที่ 4ร้อยละ 29.17 ประถมศึกษาปีที่ 5 ร้อยละ 25 ประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 38.57 และโรงเรียนที่ 2 ประถมศึกษาปีที่ 4 ร้อยละ 28.33 ประถมศึกษาปีที่ 5 ร้อยละ 28.89 ประถมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 27.72 และผลประเมินแบบสังเกตพฤติกรรมในทุกหัวข้อไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70
เอกสารอ้างอิง
กนกวรรณ กุลสุทธิ์ และคณะ. (2557). การศึกษาการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับประถมศึกษาผ่านกระบวนการค่ายภาษาอังกฤษ. ใน สารนิพนธ์ศิลปศาสตรบัณฑิต. สาขาวิชาภาษาและการสื่อสาร. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต.
จินตนา ไชยฤกษ์. (2556). ภาษาอังกฤษสำคัญอย่างไร. เรียกใช้เมื่อ 29 ตุลาคม 2562 จาก https://www.gotoknow.org/posts/548608
จิรดา วุฑฒิยากร. (2551). การพัฒนาเครื่องมือระบุนักเรียนที่มีความสามารถทางภาษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย. ใน รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์ (รายงานการวิจัย).สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
ทิศนา แขมมณี. (2552). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 11 ฉบับพิมพ์เพิ่มเติม). กรุงเทพมหานคร: สํานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธุวพร ตันตระกูล. (2555). การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน โดยใช้บทฝึกสนทนาภาษาอังกฤษ. ใน รายงานวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน. มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
วรางคณา เค้าอ้น. (2560). การพัฒนาทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้สถานการณ์เป็นฐานการเรียนรู้. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต.
ศิริยา คนิวรานนท์ และคณะ . (2541). การพัฒนาทักษะการจัดค่ายวิชาการภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักศึกษาโปรแกรมภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร แม่สอด. มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, 3(1), 32-41.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2558). นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2559. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
อโณทัย พลเยี่ยม และคณะ. (2559). การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมการจัดค่ายภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาฝึกประสบการณวิชาชีพครู. ใน เอกสารรวบรวมบทความวิจัยสืบเนื่องจากการประชุมสัมมนาวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ. เครือข่ายบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือ ครั้งที่ 16.
Archer, A.L. & Hughes, C.A. (2011). Explicit instruction: Efficient teaching. New York: Guilford Press.
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




