วัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตย ของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพทั่วไปของวัฒนธรรมการเมืองแบบประชาธิปไตยของประชาชน 2) ศึกษาปัจจัยคุณลักษณะส่วนบุคคลที่มีผลกระทบต่อวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของประชาชน และ 3) ศึกษาปัญหา อุปสรรค และแนวทางการพัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของประชาชน  โดยการวิจัยเชิงผสมผสานวิธี ได้แก่ เชิงปริมาณใช้แบบสอบถาม สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 400 คน วิเคราะห์ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และไคสแควร์  และเชิงคุณภาพศึกษาเอกสาร สัมภาษณ์เชิงลึก สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ นักวิชาการ นักการเมือง       นักกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย และนิสิต จำนวน 17  คน วิเคราะห์เชิงเนื้อหาและสรุปภาพรวม ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพทั่วไปของวัฒนธรรมการเมือง พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมทางการเมือง ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (  = 4.26, SD. = 0.650) ได้แก่            1.1) จิตสำนึกพลเมือง 1.2) ความรู้ความเข้าใจประชาธิปไตย และ 1.3) อบรมกล่อมเกลา       และวัฒนธรรมทางการเมือง ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.26, SD. = 0.650) ได้แก่             1.3.1) ความเชื่อมั่นประชาธิปไตย 1.3.2) ความสำคัญและศักดิ์ศรี 1.3.3) เคารพกติกา       1.3.4) มีส่วนร่วม 1.3.5) สำนึกพลเมือง 1.3.6) มองโลกในแง่ดี และ 1.3.7) วิจารณ์มีเหตุผล   2) ปัจจัยที่มีผลกระทบตามคุณลักษณะส่วนบุคคลเพศ อายุ สถานภาพ รายได้ และระดับการศึกษา ภาพรวมไม่แตกต่างกัน ในส่วนอายุ สถานภาพ รายได้ และระดับการศึกษามีความสัมพันธ์กัน ยกเว้นเพศมีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ    3) ปัญหาคือ การประชาสัมพันธ์ ความเหลื่อมล้ำ การเรียนรู้ คุณภาพนักการเมือง และความเป็นกลางในองค์กร แนวทางพัฒนาคือ 1) สร้างจิตสำนึกร่วมกัน 2) มีส่วนร่วมอย่างเสมอภาค 3) กระบวนการเรียนรู้ และ 4) กฎ กติกา หรือกฎหมายบทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพทั่วไปของวัฒนธรรมการเมืองแบบประชาธิปไตยของประชาชน 2) ศึกษาปัจจัยคุณลักษณะส่วนบุคคลที่มีผลกระทบต่อวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของประชาชน และ 3) ศึกษาปัญหา อุปสรรค และแนวทางการพัฒนาวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของประชาชน  โดยการวิจัยเชิงผสมผสานวิธี ได้แก่ เชิงปริมาณใช้แบบสอบถาม สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 400 คน วิเคราะห์ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และไคสแควร์  และเชิงคุณภาพศึกษาเอกสาร สัมภาษณ์เชิงลึก สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ นักวิชาการ นักการเมือง       นักกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตย และนิสิต จำนวน 17  คน วิเคราะห์เชิงเนื้อหาและสรุปภาพรวม ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพทั่วไปของวัฒนธรรมการเมือง พบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมทางการเมือง ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.26, SD. = 0.650) ได้แก่            1.1) จิตสำนึกพลเมือง 1.2) ความรู้ความเข้าใจประชาธิปไตย และ 1.3) อบรมกล่อมเกลา       และวัฒนธรรมทางการเมือง ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.26, SD. = 0.650) ได้แก่             1.3.1) ความเชื่อมั่นประชาธิปไตย 1.3.2) ความสำคัญและศักดิ์ศรี 1.3.3) เคารพกติกา       1.3.4) มีส่วนร่วม 1.3.5) สำนึกพลเมือง 1.3.6) มองโลกในแง่ดี และ 1.3.7) วิจารณ์มีเหตุผล   2) ปัจจัยที่มีผลกระทบตามคุณลักษณะส่วนบุคคลเพศ อายุ สถานภาพ รายได้ และระดับการศึกษา ภาพรวมไม่แตกต่างกัน ในส่วนอายุ สถานภาพ รายได้ และระดับการศึกษามีความสัมพันธ์กัน ยกเว้นเพศมีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ    3) ปัญหาคือ การประชาสัมพันธ์ ความเหลื่อมล้ำ การเรียนรู้ คุณภาพนักการเมือง และความเป็นกลางในองค์กร แนวทางพัฒนาคือ 1) สร้างจิตสำนึกร่วมกัน 2) มีส่วนร่วมอย่างเสมอภาค 3) กระบวนการเรียนรู้ และ 4) กฎ กติกา หรือกฎหมาย