กการสร้างวินัยและการกำกับตนเองกับภาวะซึมเศร้า ของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาารสร้างวินัยและการกำกับตนเองกับภาวะซึมเศร้า ของนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
คำสำคัญ:
วาทกรรม, การสร้างวินัย, การกำกับตนเอง, ภาวะซึมเศร้า, นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาบทคัดย่อ
บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาวาทกรรมในสังคมไทยในปัจจุบัน ที่ส่งผลต่อการสร้างวินัยและกำกับตนเองของนักศึกษา และ 2) ศึกษาการสร้างวินัยและ การกำกับตนเองของนักศึกษาที่ส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าในนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตแบบมีส่วนร่วมวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการศึกษาแบบเจาะจงเป็นผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ระดับบัณฑิตศึกษาและอยู่ในภาวะซึมเศร้าระดับต้นถึงเป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญทั้งหมด 15 ราย ผลการวิจัยพบว่า 1) วาทกรรมในสังคมไทยในปัจจุบันที่ส่งผลต่อการสร้างวินัยและกำกับตนเองของนักศึกษามีทั้งหมด 4 วาทกรรมหลัก คือ 1.1) วาทกรรมทุนทางสังคม 1.2) วาทกรรมทางการศึกษา 1.3) วาทกรรมการทำงาน ของพนักงานที่ดี และ 1.4) วาทกรรมครอบครัว 2) กระบวนการสร้างวินัยและการกำกับตนเองของนักศึกษาที่ส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าในนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา เป็นผลสืบเนื่องจากวาทกรรมทั้งหมดในข้อแรกที่สังคมคาดหวังและคอยติดตามเฝ้ามองความเป็นไปของ ตัวนักศึกษา นักศึกษาเองจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างวินัยและกำกับตนเองอยู่ตลอดเวลา โดยการวางแผนบริหารจัดการเวลาและความสัมพันธ์ทางสังคม ในช่วงเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ในแต่ละวันว่าจะต้องทำอะไรบ้างด้วยวิธีการแบ่งช่วงเวลาในการดำเนินกิจกรรมตามวาทกรรม การทำงาน การศึกษา ครอบครัว เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและกลายเป็นผู้ที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่ดี ทั้งยังคอยติดตามการดำเนินการของตนเองและลงโทษตัวเองเมื่อทำไม่ได้หรือไม่เป็นดั่งหวัง กระบวนการเหล่านั้นได้นำไปสู่วิถีของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าจนเกิดเป็นผู้ป่วยซึมเศร้าได้ในที่สุด
บทความวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาวาทกรรมในสังคมไทยในปัจจุบัน ที่ส่งผลต่อการสร้างวินัยและกำกับตนเองของนักศึกษา และ 2) ศึกษาการสร้างวินัยและ การกำกับตนเองของนักศึกษาที่ส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าในนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก และการสังเกตแบบมีส่วนร่วมวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการศึกษาแบบเจาะจงเป็นผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ระดับบัณฑิตศึกษาและอยู่ในภาวะซึมเศร้าระดับต้นถึงเป็นผู้ให้ข้อมูลสำคัญทั้งหมด 15 ราย ผลการวิจัยพบว่า 1) วาทกรรมในสังคมไทยในปัจจุบันที่ส่งผลต่อการสร้างวินัยและกำกับตนเองของนักศึกษามีทั้งหมด 4 วาทกรรมหลัก คือ 1.1) วาทกรรมทุนทางสังคม 1.2) วาทกรรมทางการศึกษา 1.3) วาทกรรมการทำงาน ของพนักงานที่ดี และ 1.4) วาทกรรมครอบครัว 2) กระบวนการสร้างวินัยและการกำกับตนเองของนักศึกษาที่ส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าในนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา เป็นผลสืบเนื่องจากวาทกรรมทั้งหมดในข้อแรกที่สังคมคาดหวังและคอยติดตามเฝ้ามองความเป็นไปของ ตัวนักศึกษา นักศึกษาเองจึงจำเป็นที่จะต้องสร้างวินัยและกำกับตนเองอยู่ตลอดเวลา โดยการวางแผนบริหารจัดการเวลาและความสัมพันธ์ทางสังคม ในช่วงเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ในแต่ละวันว่าจะต้องทำอะไรบ้างด้วยวิธีการแบ่งช่วงเวลาในการดำเนินกิจกรรมตามวาทกรรม การทำงาน การศึกษา ครอบครัว เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดและกลายเป็นผู้ที่ไม่สมบูรณ์หรือไม่ดี ทั้งยังคอยติดตามการดำเนินการของตนเองและลงโทษตัวเองเมื่อทำไม่ได้หรือไม่เป็นดั่งหวัง กระบวนการเหล่านั้นได้นำไปสู่วิถีของผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าจนเกิดเป็นผู้ป่วยซึมเศร้าได้ในที่สุด
เอกสารอ้างอิง
ไชยรัตน์ เจริญสินโอฬาร. (2560). วาทกรรมการพัฒนา: อำนาจ ความรู้ ความจริง เอกลักษณ์ และความเป็นอื่น : Development Discourse: Power Knowledge Truth Identity and thereness. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพมหานคร: วิภาษา.
ปิยวรรณ วิเศษสุวรรณภูมิ และคณะ. (2561). เวทีจุฬาฯ เสวนา ครั้งที่ 18 เรื่อง "เข้าใจปัญหาโรคซึมเศร้าในเยาวชน นักศึกษา" ,รู้ลึกกับจุฬา ฉบับวันที่: 18/03/2019. เรียกใช้เมื่อ 20 เมษายน 2562 จาก https://www.chula.ac.th/news-and-knowledge/cu-inside
ผู้ให้ข้อมูลคนสำคัญคนที่ 1. (18 พฤษภาคม 2563). วินัยและการกำกับตนเอง. (จุติพร เปี้ยตั๋น, ผู้สัมภาษณ์)
เพียรอักษร นามโสภา และคณะ. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างภาษาและอุดมการณความเป็นครอบครัวในเฟซบุ๊ก แฟนเพจ Little Monster. ใน รายงานการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 10. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
ศิริกาญจน์ บวนวิศยศ และคณะ. (2561). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้างวินัยในตนเองในวิชาชีพครูสำหรับนักศึกษา. วารสารวิจัยและพัฒนาหลักสูตร, 8(1), 242-259.
สำนักบริหารระบบบริการสุขภาพจิต. (2559). การสำรวจระบาดวิทยาสุขภาพจิตของคนไทยระดับชาติ ปี พ.ศ. 2556. กรุงเทพมหานคร: บริษัท บียอนด์พับลิสชิ่ง จำกัด.
สุวรรณา สี่สมประสงค์. (2552). การศึกษาความเครียดของนักศึกษาแพทย์ระดับชั้นปีที่ 4-66. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการแนะแนว. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
เสริมศักดิ์ กิตติปาลวรรธก์. (2559). วาทกรรมนโยบายประกันคุณภาพการศึกษาระดับอุดมศึกษาของสำนักงานรับรองมาตรฐาน และประกันคุณภาพการศึกษา. วารสารมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์(สทมส), 22(1), 98-106.
อานันท์ กาญจนพันธุ์. (2555). คิดอย่างมิเชล ฟูโกต์ คิดอย่างวิพากษ์ จากวาทกรรมของอัตบุคคล ถึงจุดเปลี่ยนของอัตตา. เชียงใหม่: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Michel, F. (1972). The archaeology of knowledge and the discourse on language. Translation of L’ordre du discours. Translated by A.M. Sheridan Smith. New York: Pantheon
Books.
Teresa, E. (2018). Stress and Relief for American Graduate Students 2011. Retrieved February 2, 2019, from https://www.nature.com/articles/d4158
-018-03803-3
Tyler, C. (2018). Why are so many graduate students depressed? Retrieved January 21, 2019, from https://marginalrevolution.com/marginalre
volution/2018/04/many-graduate-students-depressed.html
UC Berkeley Graduate Assembly. (2015). The Graduate Assembly Graduate Student Happiness & Well-Being Report | 2014. Retrieved January 21, 2019, from https://ga.berkeley.edu/wellbeingreport/
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




