ปัจจัยปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคม สำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคม สำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา

ผู้แต่ง

  • จีรพัฒน์ ศิริรักษ์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • กนกพร วิบูลพัฒนะวงศ์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • ชนิดา มิตรานันท์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

คำสำคัญ:

การช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม, ทักษะสังคม, โรงเรียนเรียนร่วม

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยสนับสนุนการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา     2) ศึกษาปัจจัยอุปสรรคการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา 3) ศึกษาแนวทางการแก้ไขข้อจำกัดการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ครูผู้สอนระดับชั้นอนุบาล 2 หรืออนุบาล 3 ครูผู้สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และครูการศึกษาพิเศษในโรงเรียนเรียนร่วม รวม 15 คน โดยใช้การเลือกแบบเจาะจง และมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างและแบบบันทึกในการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1) ปัจจัยสนับสนุนการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา ได้แก่ ด้านครอบครัว ด้านครูและโรงเรียน ด้านระยะการเริ่มต้นฝึกและการฝึกอย่างต่อเนื่อง และด้านเทคนิคการฝึกทักษะทางสังคม 2) ปัจจัยอุปสรรคการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา ได้แก่ ด้านครอบครัว ด้านบุคลากรในโรงเรียน ด้านระบบของโรงเรียน ด้านการเปลี่ยนแปลงของสังคม และด้านอุปสรรคจากตัวเด็ก และ 3) แนวทางการแก้ไขข้อจำกัดการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา ได้แก่ การมีส่วนร่วมจากครอบครัว การจัดการเรียนการสอน และการให้ความรู้ ความเข้าใจของบุคลากรในโรงเรียนบทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยสนับสนุนการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา     2) ศึกษาปัจจัยอุปสรรคการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา 3) ศึกษาแนวทางการแก้ไขข้อจำกัดการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ ครูผู้สอนระดับชั้นอนุบาล 2 หรืออนุบาล 3 ครูผู้สอนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และครูการศึกษาพิเศษในโรงเรียนเรียนร่วม รวม 15 คน โดยใช้การเลือกแบบเจาะจง และมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างและแบบบันทึกในการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า 1) ปัจจัยสนับสนุนการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา ได้แก่ ด้านครอบครัว ด้านครูและโรงเรียน ด้านระยะการเริ่มต้นฝึกและการฝึกอย่างต่อเนื่อง และด้านเทคนิคการฝึกทักษะทางสังคม 2) ปัจจัยอุปสรรคการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา ได้แก่ ด้านครอบครัว ด้านบุคลากรในโรงเรียน ด้านระบบของโรงเรียน ด้านการเปลี่ยนแปลงของสังคม และด้านอุปสรรคจากตัวเด็ก และ 3) แนวทางการแก้ไขข้อจำกัดการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคมสำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา ได้แก่ การมีส่วนร่วมจากครอบครัว การจัดการเรียนการสอน และการให้ความรู้ ความเข้าใจของบุคลากรในโรงเรียน

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช2560. กรุงเทพมหานคร: สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักการพิมพ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.

นาถลดา ตะวันกาญจนโชติ. (2559). ทักษะทางสังคมของเด็กออทิสติกวัยเรียน. วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, 30, (2), 1-21.

พัชริดา นิลสุข. (2558). การบริหารโรงเรียนแกนนำจัดการเรียนร่วม. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

เพ็ญแข ลิ่มศิลา. (2540). การวินิจฉัยโรค-ออทิสซึม. สมุทรปราการ: ช.แสงงา การพิมพ์.

ศรีเรือน แก้วกังวาน. (2556). จิตวิทยาพัฒนาการชีวิตทุกช่วงวัย. (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

สราวดี เพ็งศรีโคตร และจันทร์ชลี มาพุทธ. (2554). รูปแบบการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองในการจัดการศึกษาปฐมวัย. วารสารการศึกษาและพัฒนาสังคม, 7, (1), 68-82.

สํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ. (2558). หลักสูตรสำหรับเด็กที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษระยะแรกเริ่มของศูนย์การศึกษาพิเศษ ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2558 . กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนา.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ . (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564). กรุงเทพมหานคร: สำนักนายกรัฐมนตรี.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579). กรุงเทพมหานคร: สำนักนายกรัฐมนตรี.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 – 2579). กรุงเทพมหานคร: บริษัท พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.

สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ. (2551). พระราชบัญญัติการจัดการศึกษาสำหรับคนพิการ พ.ศ. 2551. กรุงเทพมหานคร: สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ.

สุวิมล อุดมพิริยะศักดิ์. (2558). การจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาเด็กที่มีความต้องการพิเศษ. นนทบุรี: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์. (2552). สร้างลูกให้เป็นอัจฉริยะ = Raising a genus (ฉบับปรับปรุงใหม่). กรุงเทพมหานคร: บี พลัส.

Bandura, A. (1997). Social cognitive theory of self-regulation. Organizational Behavior and Human Decision Processes, 50(2), 248-287.

Education Counts. (2007). State of Education in New Zealand: 2007. Retrieved June 19, 2021, from https://www.educationcounts.govt.nz/publications/ 80898/state_of_education_ in_new_zealand/17097

Hollinger, J. D. (2015). Social skills for behaviorally disordered children as preparation for mainstreaming. Remedial and Special Education, 8(1), 17-27.

McIntyre, T. (2013). Teaching social skills to kids who don't yet have them. Retrieved 2021 23, May, from http://www.ldonline.org/article/14545

National Disability Insurance Agency. (2019). Governance. Retrieved June 20, 2021, from https://www.ndis.gov.au/about-us/governance

Stephen, N. E. (2010). Social Skills Development in Early Childhood, Enabling Learning, Growing Friends. Retrieved June 19, 2021, from www.psychcorp. com

Swanson, H. C. & Watson, B. L. (2012). Educational and psychological assessment of exceptional children (2 ed.). Columbus, OH: Merrill Publishing Company.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

02/28/2022

รูปแบบการอ้างอิง

ศิริรักษ์ จ., วิบูลพัฒนะวงศ์ ก. ., & มิตรานันท์ ช. . (2022). ปัจจัยปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคม สำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มด้านทักษะสังคม สำหรับเด็กที่กำลังจะเข้าศึกษาในโรงเรียนเรียนร่วม ระดับชั้นประถมศึกษา. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(2), 386–401. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/255776

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย