กการพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนแบบใฝ่รู้เชิงรุกผ่านกระบวนการวิจัย แบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น ารพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนแบบใฝ่รู้เชิงรุกผ่านกระบวนการวิจัย แบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น

ผู้แต่ง

  • แสงสุรีย์ ดวงคำน้อย มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • รัชนิวรรณ อนุตระกูลชัย มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

คำสำคัญ:

กิจกรรรมการเรียนการสอนใฝ่รู้เชิงรุก, วิจัยปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม, กระบวนการวิจัยแบบโครงงาน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบและเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้แบบใฝ่รู้เชิงรุกของครูผู้สอนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น 2) พัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนแบบใฝ่รู้เชิงรุกผ่านกระบวนการวิจัยแบบโครงงาน ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของสถานศึกษาในจังหวัดขอนแก่น 3) เสนอแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบใฝ่รู้เชิงรุก          สู่การออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงานของครูในจังหวัดขอนแก่น เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการผสมผสานแบบมีส่วนร่วม ประชากร ได้แก่ นักศึกษาที่เป็นครูผู้สอนที่กำลังศึกษา ในภาคเรียนที่ 1         ปีการศึกษา 2561 หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอนและ หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู โดยแบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่             เป็นครูผู้สอน จำนวน 200 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน 2) เป็นครูผู้สอน จำนวน       75 คน ปีการศึกษา 2561 โดยเลือกแบบเจาะจงจากกลุ่มผู้ที่สมัครใจเข้ารับการอบรม           เชิงปฏิบัติการ และ 3) เป็นผู้บริหาร จำนวน 40 คน ครู จำนวน 40 คน ในปีการศึกษา 2562 ได้มาโดยเลือกแบบเจาะจงจากกลุ่มที่ผ่านการอบรมปฏิบัติการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน เป็นค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ครูผู้สอนจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบโครงงาน (ร้อยละ 32.50) เป็นลำดับมากที่สุด 2) กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน พบว่า ได้โครงงานประกวดในงานศิลปหัตถกรรม ครั้งที่ 69 ระดับโรงเรียน 25 เรื่อง (ร้อยละ 56.82) เป็นลำดับมากที่สุด 3) แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบใฝ่รู้เชิงรุกสู่การออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงานของครูในจังหวัดขอนแก่น ได้ผลการสำรวจ            6 ด้าน ได้แก่ 3.1) ด้านหลักสูตรและบทเรียนแบบใฝ่รู้เชิงรุกผ่านกระบวนการวิจัยแบบโครงงาน 3.2) ด้านครูผู้สอน 3.3) ด้านผู้บริหารสถานศึกษา 3.4) ด้านผู้เรียน 3.5) ด้านคณะกรรมการ และ 3.6) ด้านเครือข่าย

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบและเทคนิควิธีการจัดการเรียนรู้แบบใฝ่รู้เชิงรุกของครูผู้สอนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น 2) พัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนแบบใฝ่รู้เชิงรุกผ่านกระบวนการวิจัยแบบโครงงาน ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของสถานศึกษาในจังหวัดขอนแก่น 3) เสนอแนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบใฝ่รู้เชิงรุกสู่การออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงานของครูในจังหวัดขอนแก่น เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการผสมผสานแบบมีส่วนร่วม ประชากร ได้แก่ นักศึกษาที่เป็นครูผู้สอนที่กำลังศึกษา ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอนและ หลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู โดยแบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ เป็นครูผู้สอน จำนวน 200 คน โดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน 2) เป็นครูผู้สอน จำนวน 75 คน ปีการศึกษา 2561 โดยเลือกแบบเจาะจงจากกลุ่มผู้ที่สมัครใจเข้ารับการอบรมเชิงปฏิบัติการ และ 3) เป็นผู้บริหาร จำนวน 40 คน ครู จำนวน 40 คน ในปีการศึกษา 2562 ได้มาโดยเลือกแบบเจาะจงจากกลุ่มที่ผ่านการอบรมปฏิบัติการ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน เป็นค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ครูผู้สอนจัดการเรียนการสอนโดยใช้รูปแบบโครงงาน (ร้อยละ 32.50) เป็นลำดับมากที่สุด 2) กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน พบว่า ได้โครงงานประกวดในงานศิลปหัตถกรรม ครั้งที่ 69 ระดับโรงเรียน 25 เรื่อง (ร้อยละ 56.82) เป็นลำดับมากที่สุด 3) แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบใฝ่รู้เชิงรุกสู่การออกแบบสร้างสรรค์ชิ้นงานของครูในจังหวัดขอนแก่น ได้ผลการสำรวจ 6 ด้าน ได้แก่ 3.1) ด้านหลักสูตรและบทเรียนแบบใฝ่รู้เชิงรุกผ่านกระบวนการวิจัยแบบโครงงาน 3.2) ด้านครูผู้สอน 3.3) ด้านผู้บริหารสถานศึกษา 3.4) ด้านผู้เรียน 3.5) ด้านคณะกรรมการ และ 3.6) ด้านเครือข่าย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

จุฑามาศ สุขเฉลิม. (2558). การพัฒนาความสามารถในการทําโครงงานวิทยาศาสตร์เชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 6. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการนิเทศ. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ธีรภัทร โคตรบรรเทา และคณะ. (2563). การพัฒนาแนวทางการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนกลุ่มเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษา กลุ่มที่ 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1. วารสารวิชาการและวิจัย มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, 10(3), 151-161.

นิรชร ชายทวีป และวัชรินทร์ ศรีรักษา. (2559). การจัดการเรียนรู้ตามทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยการสอนแบบโครงงาน เรื่อง ประวัติดนตรีไทยและดนตรีตะวันตก ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารศึกษาศาสตร์ ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 10(ฉบับพิเศษ), 76-80.

รัชนิวรรณ อนุตระกุลชัย และคณะ. (2562). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการจัดการศึกษาในโงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา

เขต 25. วารสารมหาจุฬานาครทรรศน์, 6(5), 2592-2607.

ลลิลทิพย์ วรรณพงษ์ และคณะ. (2563). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับการเรียนแบบร่วมมือเทคนิค STAD. วารสาร มจร.อุบลปริทัศน์, 5(3) ,1-16.

วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี. (2564). คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. เรียกใช้เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2564 จาก https://th.wikipedia.org/wiki/คณะศึกษาศาสตร์_มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วิเชียร เกตุสิงห์. (2543). คู่มือการวิจัย : วิจัยเชิงปฏิบัติการ. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์เจริญผล.

ศิริกุล นามศิริ. (2550). การพัฒนางานวิชาการด้วยหลักสูตรบูรณาการในโรงเรียนขนาดเล็ก: การวิจัยปฏิบัติการแบบ มีส่วนร่วม. ใน ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1. (2554). รายงานสรุปผลการดำเนินงานการประเมินคุณภาพการศึกษาระดับโรงเรียนจากสำนักงานรับมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา. ขอนแก่น: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2553). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ สกสค.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2552). การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2552 - 2561). กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.

สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา. (2559). การพัฒนาการสอนสร้างสรรค์ กิจกรรมเพิ่มเวลารู้. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.

สุรเดช เจริญสว่าง. (2562). ยุทธศาสตร์การบริหารสถานศึกษา ยุคการศึกษา 4.0 โดยใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25. ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.

สุรเดช เจริญสว่าง และคณะ. (2562). ยุทธศาสตร์การบริหารสถานศึกษา ยุคการศึกษา 4.0 โดยใช้แนวคิดชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25. วารสารฉบับบัณฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น, 6(3), 248-264.

สุวิมล มาลา และคณะ. (2560). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และเจตคติ ต่อการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่จัดการเรียนรู้ด้วยโครงงานกับการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน. วารสารการวัดผลการศึกษามหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 23(ฉบับพิเศษ), 280-290.

Lopatto, D. (2017). Undergraduate Research Experiences Support Science Career Decisions and Active Learning. CBE life

sciences education, 6(4), 297-306.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

02/28/2022

รูปแบบการอ้างอิง

ดวงคำน้อย แ., & อนุตระกูลชัย ร. (2022). กการพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนแบบใฝ่รู้เชิงรุกผ่านกระบวนการวิจัย แบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น ารพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนแบบใฝ่รู้เชิงรุกผ่านกระบวนการวิจัย แบบโครงงาน สำหรับครูผู้สอนระดับประถมศึกษาในจังหวัดขอนแก่น. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(2), 464–482. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/256326

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย