การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้สำหรับนักศึกษาสอนศาสนา

ผู้แต่ง

  • อรวรรณ วรรณฤทัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • ดวงใจ สีเขียว มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • ลัดดา หวังภาษิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

คำสำคัญ:

การจัดการเรียนรู้เชิงรุก, สมรรถนะการจัดการเรียนรู้, การสอนศาสนา, นักศึกษา

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาองค์ประกอบและตัวบ่งชี้สมรรถนะ         การจัดการเรียนรู้สำหรับนักศึกษาสอนศาสนา 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสำหรับนักศึกษาสอนศาสนา 3) ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสำหรับนักศึกษาสอนศาสนา โดยใช้กระบวนการวิจัยและพัฒนา 4 ระยะ ได้แก่ 1) ศึกษาองค์ประกอบและ        ตัวบ่งชี้ 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ 4) ประเมินประสิทธิผลและปรับปรุงรูปแบบ กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาสอนศาสนาชั้นปีที่ 2 สถาบัน       พระคริสตธรรมกรุงเทพ จำนวน 13 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ แบบประเมิน และแบบสอบถาม และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติ t - test ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) แนวคิดพื้นฐาน 2) หลักการ        3) วัตถุประสงค์ 4) กระบวนการเรียนรู้ 5) การประเมินผล โดยกระบวนการเรียนรู้ LANLA Model ประกอบด้วยรูปแบบ 5 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 นำผู้เรียนให้กระตือรือร้น ขั้นที่ 2 ใช้คำสอนเชิงรุก ขั้นที่ 3 ประยุกต์ใช้ในยุค New Normal ขั้นที่ 4 นำเสนอผลลัพธ์การเรียนรู้ ขั้นที่ 5 ประเมินผลร่วมกัน รูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับมากที่สุด ( gif.latex?\bar{x}= 4.66, S.D. = 0.55) ผลการศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก พบว่า สมรรถนะการจัดการเรียนรู้สำหรับนักศึกษาสอนศาสนาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกอยู่ในระดับมาก ( gif.latex?\bar{x} = 4.46, S.D. = 0.53) และรูปแบบนี้ทำให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการจัดการเรียนรู้มากขึ้น

เอกสารอ้างอิง

ชัยชาญ ก้องกังวาฬโชค. (2548). ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการสื่อการสอนของครูโรงเรียนวันอาทิตย์ในคริสตจักร กรุงเทพมหานคร. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.

ณัฐญา นาคะสันต์และชวณัฐ นาคะสันต์. (2559). บทที่ 8 เกม: นวัตกรรมเพื่อการศึกษาเชิงสร้างสรรค์. วารสารร่มพฤกษ์ มหาวิทยาลัยเกริก, 34(3), 173-175.

ณัฐพร สุดดี. (2561). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนพลศึกษาตามแนวคิดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับวิดีทัศน์ต้นแบบเพื่อส่งเสริมทักษะการสอนและความตระหนักในการสอนกีฬาพื้นเมืองไทยสำหรับนิสิตครู. ใน ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ทีมข่าวสังคมไทยพีบีเอส. (2561). ผลสำรวจพบคนไม่นับถือศาสนากว่า 1,100 ล้านคนทั่วโลก. เรียกใช้เมื่อ 29 มกราคม 2561 จาก https://news.thaipbs.or.th/ content/269750

พระปลัดสาธิต อมโร (จินดารอง). (2558). ศึกษาการจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาในโรงเรียนประถมศึกษา ปีที่ 6 เขตบางคอแหลม สังกัดกรุงเทพมหานคร. ใน วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พระอธิการกรีฑา จนฺทวํโส (ศรีใส). (2559). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนาในโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดนครศรีธรรมราช. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน, 5(1), 49-51.

เพ็ญพนอ พ่วงแพ. (2561). การพัฒนารูปแบบกิจกรรมการเรียนการสอนตามแนวคิดทฤษฎีการสร้างความรู้ร่วมกับแนวคิดการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อส่งเสริมสมรรถนะครูสังคม สำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู. ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 11(2), 703-704.

ไพศาล บรรจุสุวรรณ์. (2561). รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบเชิงรุก (Active Learning) ในการยกระดับความรู้สู่ความเข้าใจการเมืองและประชาธิปไตยในเชิงเปรียบเทียบ. วารสารอิเล็กทรอนิกส์การเรียนรู้ทางไกลเชิงนวัตกรรม, 8(1), 171-172.

มูฮํามัดนาเซ สามะ. (2552). สภาพและปัญหาการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาในโรงเรียนของรัฐที่เปิดสอนสองหลักสูตร จังหวัดยะลา. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาอิสลามศึกษา. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

ลิณี จูตระกูล. (2552). สภาพและปัญหาการจัดการเรียนการสอนคริสเตียนศึกษาในระดับประถมศึกษาของโรงเรียนคริสเตียนนิกายโปรเตสแตนท์ในประเทศไทย. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2563). New normal ทางการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2553). คู่มือการประเมินสมรรถนะครู สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2553. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. (2561). (ร่าง) มาตรฐานความรู้วิชาชีพครู ฐานสมรรถนะของคุรุสภา. เรียกใช้เมื่อ 28 ตุลาคม 2562 จาก http://www.local.moi.go. th/2009/pdf/ksp1.pdf

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2550). การจัดการเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรู้. กรุงเทพมหานคร: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: กลุ่มมาตรฐานการศึกษา สำนักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ. (2560). รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพมหานคร: บริษัทธนาเพรส จำกัด.

สำราญ กำจัดภัย. (2562). รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะนักศึกษาครูในการเตรียมฝึกปฏิบัติการสอนโดยใช้การเสริมสร้างพลังและการจัดการเรียนรู้เชิงรุก: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์, 14(1), 151-161.

อิรฟัน หะยีมะ. (2559). สภาพและปัญหาการจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาในโรงเรียนของรัฐที่ใช้หลักสูตรอิสลามศึกษา (แบบเข้ม) จังหวัดนราธิวาส. ใน วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาอิสลามศึกษา. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

Andelka, P. & Rahaela, V. (2014). Active Learning in Classrooms. Život i škola, 31(1), 59-75.

Debra, B. & John, B. (2010). Getting Started With Blended Learning Griffith Institute for Higher Education. Australia: Griffith University.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

06/30/2022

รูปแบบการอ้างอิง

วรรณฤทัย อ. ., สีเขียว ด. ., & หวังภาษิต ล. . (2022). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้สำหรับนักศึกษาสอนศาสนา . วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(6), 17–32. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/256329

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย