รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียน ระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3

ผู้แต่ง

  • หนึ่งฤทัย มะลาไวย์ -
  • อรพินทร์ ชูชม
  • นริสรา พึ่งโพธิ์สภ

คำสำคัญ:

รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ, พฤติกรรมการทำงานเป็นทีม, นักเรียนระดับประถมศึกษา

บทคัดย่อ

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของความฉลาดทางอารมณ์ แรงจูงใจในการทำงาน การสนับสนุนทางสังคมของครู เจคติต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีม และการรับรู้ความสามารถของตนเองในการทำงานเป็นทีมที่มีต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียนระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 โดยกลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาจำนวน 340 คน ได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือวัดในการวิจัย คือแบบสอบถาม มีความตรงเชิงเนื้อหาอยู่ระหว่าง 0.6-1.00 และมีค่าความเที่ยงอยู่ระหว่าง 0.72 – 0.84 และผ่านเกณฑ์การตรวจสอบความเที่ยงเชิงโครงสร้างโดยการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน เมื่อวิเคราะห์แบบจำลองโครงสร้างสมการผลวิจัย พบว่าแบบจำลองโครงสร้างของความฉลาดทางอารมณ์ แรงจูงใจในการทำงาน การสนับสนุนทางสังคมของครู เจคติต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีม และการรับรู้ความสามารถของตนเองในการทำงานเป็นทีม ที่มีต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีม พบว่ามีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (2 = 199.25, df = 77, RMR = 0.51, CFI = 0.98, GFI = 0.93, NFI = 0.97, RMSEA = 0.067) เมื่อพิจารณาตัวแปรเชิงสาเหตุพบว่าความฉลาดทางอารมณ์ แรงจูงใจในการทำงาน การสนับสนุนทางสังคมของครู เจคติต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีม และการรับรู้ความสามารถของตนเองในการทำงานเป็นทีม มีอิทธิพลทางตรงต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมการสนับสนุนทางสังคมของครูมีอิทธิพลทางอ้อมต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมผ่านเจคติต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีม และการสนับสนุนทางสังคมของครูมีอิทธิพลทางอ้อมต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมผ่านการรับรู้ความสามารถของตนเองในการทำงานเป็นทีม

เอกสารอ้างอิง

จิวีณา พีชะพัฒน์. (2554). ผลของการรับรู้ความสามารถของตนเองและการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมต่อสุขภาวะในวัยรุ่นตอนต้น. เรียกใช้เมื่อ 21 ธันวาคม 2563 จาก https:// smarter life by psychology .com/2019/09/30/ social-support-การสนับสนุนทางสังคม/.

ดุจเดือน พันธุมนาวิน. (2550). รูปแบบทฤษฎีปฎิสัมพันธ์นิยม (Interactionism model) และแนวทางการตั้งสมมติฐานในการวิจัยสาขาจิตพฤติกรรมศาสตร์ในประเทศไทย. วารสารพัฒนาสังคม, 9 (1), 85-117.

ทิศนา แขมมณี. (2545). กลุ่มสัมพันธ์เพื่อการทำงานและการจัดการเรียนการสอน. กรุงเทพมหานคร: นิชินแอดเวอร์ไทซิ่งกรู๊ฟ.

ทิศนา แขมมณี. (2554). รูปแบบการเรียนการสอน:ทางเลือกที่หลากหลาย. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ปลื้มจิตร บุญพึ่ง. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของพนักงานสายปฏิบัติการวิชาชีพและบริหารทั่วไป มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์. 35 (6), 135-147.

ปวีณา คําพุกกะ. (2553). โมเดลเชิงสาเหตุของประสิทธิผลของทีมของชมรมนิสิตนักศึกษาที่มีความฉลาดทางอารมณ์ของกลุ่มเป็นตัวแปรส่งผ่าน: การวิจัยเชิงศึกษาเปรียบเทียบ. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิธีวิทยาการวิจัยการศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พิมพันธ์ เดชะคุป. (2558). การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2557). เติบโตเต็มตามศักยภาพสู่ศตวรรษที่ 21 ของการศึกษาไทย. กรุงเทพมหานคร: วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

วันทนา วัฒนธรรม. (2557). ปัจจัยทางจิตลักษณะและสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพของพนักงานเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป. ใน ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ศันสนีย์ ชูเชื้อ. (2546). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมของพนักงานมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์. ใน วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการ. มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์.

สุเทพ เหลาแตว. (2556). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำงานเป็นทีมตามความคิดเห็นของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมาเขต 4. ใน ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2559). แผนการศึกษาชาติ พ.ศ.2560 – 2574. กรุงเทพมหานคร : พริกหวานกราฟฟิค.

อนุชา แก้วหลวง. (2545). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมของอาจารย์ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตภาคพายัพ (เจ็ดยอด). กรุงเทพฯ: สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตภาคพายัพ.

Bandura, A. (2000). Self-efficacy: The foundation of agency. New York: Lawrence Erlbaum Associates Publishers.

Cobb, S. (1976). Social support as a moderator of life stress. Psychosomatic Medicine. 38 (1), 300-311.

Dawkins, Sl. (2014). New directions in Psychological Capital research: A critical analysis and theoretical and empirical extensions to individual- and team-level measurement. Australia: The Tasmanian School of Business & Economics University of Tasmania.

Diamantopouos, A., & Siguaw. (2000). Introduction LISREL: A guide for the uninitiated. London: Sage Publication.

Fiechtner, S. B., & Davis, E. A. (2016). Republication of “Why some groups fail: A survey of students’ experiences with learning groups”Journal of Management Education. 40 (1), 12-29.

Goleman, D. (1998). Working with emotional intelligence. New York: Bantam Books.

Joreskog, K., & Sorbom, D. (1993). LISREL 8: Structural Equation Modelling with the SIMPLIS Command Language. Chicago: Scientific Software International Inc.

Kelloway, E. K. (1998). Using LISREL for structural equation modeling: A researcher's guide. New York: Sage Publications.

Kline, R. B. (1998). Principles and Practice of Structural Equation Modeling. New York: The Guilford Press.

Lin, N. (1979). Social support, stressful life events, and illness: A model and an empirical test. Journal of Health and Social Behavior. 20 (1), 108-118.

Tasa, K., Taggar, P., & Seijts, G. (2007). The development of collective efficacy in teams: a multilevel and longitudinal perspective. Journal of applied psychology. 92 (1), 7-27.

Taylor, S. E. (2011). Social support: A review. The Handbook of Health Psychology. New York: Oxford University Press.

Ted, B., Jamie, E., & Brett, W. (21017). Emotional intelligence and personality traits as predictors of undergraduate occupational therapy students’ teamwork skills: A cross-sectional study. British Journal of Occupational Therapy. 80 (7), 432-439.

Woodcock, M., & Francis, D. (1994). Teambuilding Strategy. 2nd ed. Cambridge: Cambridge University Press.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

03/30/2022

รูปแบบการอ้างอิง

มะลาไวย์ ห., ชูชม อ. ., & พึ่งโพธิ์สภ น. . (2022). รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุพฤติกรรมการทำงานเป็นทีมของนักเรียน ระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(3), 522–538. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/257577

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย