แนวทางการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนประถมศึกษาในยุคดิจิทัล
คำสำคัญ:
แนวทางการบริหารงานวิชาการ, ยุคดิจิทัล, โรงเรียนประถมศึกษาบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน 2) ทดสอบความสอดคล้องขององค์ประกอบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ 3) สร้างแนวทางการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนประถมศึกษาในยุคดิจิทัล เป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธี กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารและครูในโรงเรียนประถมศึกษาในเขตภาคตะวันออก โดยใช้ตารางเครจซี่และมอร์แกนและวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน ได้จำนวน 450 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง 2) แบบสอบถาม 3) แบบการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลองค์ประกอบเชิงสำรวจ วิเคราะห์ข้อมูลองค์ประกอบเชิงยืนยัน และวิเคราะห์เนื้อหา โดยใช้ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเบ้ และค่าความโด่ง ผลการวิจัย พบว่า 1) องค์ประกอบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน มี 7 องค์ประกอบ ดังนี้ ด้านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลใน การจัดการเรียนการสอนของครูและการค้นคว้าของผู้เรียน ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย ด้านการจัดแหล่งเรียนรู้และวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียน ด้านการพัฒนาหลักสูตรและ การวัดผลประเมินผล ด้านการแนะแนวการศึกษา ด้านการพัฒนาทักษะทางภาษาต่างประเทศ และด้านการพัฒนาระบบการบริหารงานวิชาการและประสานความร่วมมือกับสถานศึกษาอื่น/องค์กรอื่นทั้งในและต่างประเทศ 2) องค์ประกอบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ 3) แนวทางการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 มี 5 แนวทาง องค์ประกอบที่ 2 มี 3 แนวทาง องค์ประกอบที่ 3 มี 6 แนวทาง องค์ประกอบที่ 4 มี 4 แนวทาง องค์ประกอบ ที่ 5 มี 5 แนวทาง องค์ประกอบที่ 6 มี 5 แนวทาง และองค์ประกอบที่ 7 มี 4 แนวทาง
เอกสารอ้างอิง
ชวัลลักษ์ รติวรภัทรกุล. (2559). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิผลสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ใน ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษาและภาวะผู้นำ. มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2535). การบริหารงานวิชาการ. กรุงเทพมหานคร: สหมิตรออฟเซต.
วิไล ปรึกษากร. (2558). นวัตกรรมการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ศักดิ์ดนัย โรจน์สราญรมย์. (2562). กลยุทธ์การบริหารวิชาการโรงเรียนมัธยมศึกษาตามแนวคิดความฉลาดรู้ทางดิจิทัลของนักเรียน. ใน ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สมพงษ์ เตชรัตนวรกุล. (2561). การวิเคราะห์ตัวบ่งชี้เกณฑ์การประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา. ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2551). ยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพการศึกษา. ระเบียบวาระแห่งชาติ (พ.ศ. 2551 - 2555). กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
อรชร วรรณสอน. (2563). อนาคตภาพการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนในสังกัดเทศบาล เพื่อรองรับการพัฒนาทักษะผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. ใน ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activity. Journal of Education and Psychological Measurement, 30(3), 607-610.
Rothidsathan. (2016). Policy of Higher Education. Retrieved July 20, 2021, from http://www.moe.go.th/websm/2016/sep/385.ht2.jpg
Stratton, L. S. et al. (2014). Modeling enrollment in and completion of vocational education: The role of Cognitive and Non - Cognitive skills by program type. Retrieved February 10, 2016, from https://docs.iza.org/dp10741.pdf
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




