การพัฒนาแบบวัดและผลการประเมินสุขภาวะแบบองค์รวม ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน

ผู้แต่ง

  • ดวงกมล เจียมเงิน มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • อนันต์ มาลารัตน์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
  • สิงหา จันทน์ขาว มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

คำสำคัญ:

แบบวัดสุขภาวะแบบองค์รวม, การประเมินสุขภาวะแบบองค์รวม, มัธยมศึกษาปีที่ 1, โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาคุณภาพแบบวัดสุขภาวะแบบองค์รวมของนักเรียน และ 2) ประเมินสุขภาวะแบบองค์รวมของนักเรียน โดยมีวิธีวิจัยเป็นวิจัยเชิงสังเคราะห์และสำรวจบุกเบิก กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน จำนวน 320 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบวัดสุขภาวะแบบองค์รวม ประกอบด้วย 3 มิติ ได้แก่ 1) มิติทางกาย 2) มิติทางสมอง และ 3) มิติทางอารมณ์สังคม ซึ่งผ่านการตรวจสอบความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา โดยผู้เชี่ยวชาญ ค่าความเชื่อมั่น และอำนาจจำแนก โดยนักเรียนกลุ่มนำร่อง และคัดเลือกข้อที่ผ่านเกณฑ์ เพื่อนำไปประเมินสุขภาวะแบบองค์รวมของนักเรียน ผลการวิจัยพบว่า 1) แบบวัดสุขภาวะแบบองค์รวมมีรายการที่ผ่านเกณฑ์ ได้แก่ แบบวัดมิติทางกาย 4 รายการ แบบวัดมิติทางสมอง 3 กิจกรรม และแบบวัดมิติทางอารมณ์สังคม 6 องค์ประกอบ 2) สุขภาวะแบบองค์รวมของนักเรียน มิติทางกาย พบว่า นักเรียนมีองค์ประกอบของร่างกาย โดยสะท้อนจากดัชนีมวลกายตามอายุ มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับสมส่วน ความแข็งแรงและอดทนของกล้ามเนื้อ โดยสะท้อนจากการดันพื้นประยุกต์ 30 วินาที มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำ ความอ่อนตัว โดยสะท้อนจากการนั่งงอตัว มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำมาก และความอดทนของระบบหัวใจและไหลเวียนเลือด โดยสะท้อนจากการยืนยกเข่าขึ้นลง 3 นาที มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง มิติทางสมอง พบว่า นักเรียนมีความคิดริเริ่ม และความคิดละเอียดลอออยู่ในระดับต่ำ ความคิดคล่องแคล่ว และความคิดยืดหยุ่นอยู่ในระดับสูง และมิติทางอารมณ์สังคม พบว่า รวมทุกองค์ประกอบนักเรียนมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับดี

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2562). แบบทดสอบและเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา (อายุ 13-18 ปี). กรุงเทพมหานคร: บริษัท โอเคแมส จำกัด.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

ล้วน สายยศ. (2543). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 5) กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาสน์.

ลักขณา สริวัฒน์. (2549). การคิด = Thinking. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์.

วันวิสาข์ ศรีภูมิ. (2552). ผลของช่วงเวลาการสอบซ้ำและความยาวของแบบทดสอบที่มีผลต่อความเชื่อมั่นและความเที่ยงตรงของแบบทดสอบ. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 15(3), 38-44.

วิริยา บุญชัย. (2529). การทดสอบและวัดผลทางพลศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 2) กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.

วีระ สุดสังข์. (2550). การคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดสร้างสรรค์. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาสน์.

ศรันย์ พิมพ์ทอง. (2564). การพัฒนาเครื่องมือวัดในการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: บริษัท บุ๊คพลัส พับลิชชิ่ง จำกัด.

ศันสนีย์ นาคะสนธิ์. (2564). แนวทางการพัฒนาทักษะทางสังคมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 10 ในจังหวัดสมุทรสงคราม. สิกขาวารสารศึกษาศาสตร์, 8 (1), 153-165.

สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564. เรียกใช้เมื่อ 29 เมษายน 2564 จาก https://www.nesdc.go.th/ewt_news.php?nid=6420&filename=develop_issue

สุพิตร สมาหิโต และคณะ. (2555). แบบทดสอบและเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกาย สำหรับเด็กไทยอายุ 7-18 ปี. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สัมปชัญญะ.

Goleman, D. (1998). Working with emotional intelligence. New York: Bantam Book.

Torrance, E.P. (1965). Creative Behavior. New Jersey: Prentice-Hall.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

08/31/2022

รูปแบบการอ้างอิง

เจียมเงิน ด. ., มาลารัตน์ อ. ., & จันทน์ขาว ส. . (2022). การพัฒนาแบบวัดและผลการประเมินสุขภาวะแบบองค์รวม ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(8), 259–272. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/260552

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย