การใช้กระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่อาชีพ สำหรับนักเรียนสายตาเลือนรางพิการซ้อน

ผู้แต่ง

  • ภรณ์รัชต์ บุญมาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • รัชนีกร ทองสุขดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • พิกุล เลียวสิริพงศ์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • สร้อยสุดา วิทยากร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำสำคัญ:

กระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะ, การเตรียมความพร้อมเข้าสู่อาชีพ, นักเรียนสายตาเลือนราง, พิการซ้อน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา การใช้กระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่อาชีพ สำหรับนักเรียนสายตาเลือนรางพิการซ้อน สังกัดโรงเรียนเฉพาะความพิการ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการวิจัยเชิงแบบผสม ศึกษาแบบรายกรณี 1 คน คัดเลือกแบบเจาะจง คือ 1) เป็นนักเรียนสายตาเลือนรางพิการซ้อน โรงเรียนเฉพาะความพิการ         2) อยู่กลุ่มฝึกอาชีพสำหรับนักเรียนที่มีความพิการซ้อน 3) มีความถนัด ความสนใจงานศิลปะ 4) อายุมากกว่า 15 ปี ได้กรณีศึกษา เพศหญิงวัย 20 ปี จดทะเบียนคนพิการ ประเภทความพิการ 1.2.5 (ตาเลือนราง สื่อความหมาย หูหนวก) มองเห็นโดยใช้แว่นตา ใช้ภาษามือในการสื่อสาร ชอบวาดภาพ สื่อสารให้ผู้อื่นทราบ เครื่องมือที่ใช้ 1) แผนการสอนเฉพาะบุคคล 3 แผน 2) แบบประเมินการเตรียมความพร้อมเข้าสู่อาชีพ 3) แบบประเมินผลงานภาพพิมพ์บนกระเป๋าผ้า ผู้วิจัยดำเนินแผนละ 6 ครั้ง รวม 18 ครั้ง วิเคราะห์ข้อมูลในค่าฐานนิยม ระดับคุณภาพและเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1) การใช้กระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่อาชีพ 1.1) ด้านความรู้ความเข้าใจ 1.2) ด้านทักษะการทำงาน 1.3) ด้านความภาคภูมิใจในผลงาน ค่าฐานนิยมระดับ 3 ระดับคุณภาพ ดี 2) ผลงานตามกระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะภาพพิมพ์บนกระเป๋าผ้า 2.1) ความคิดสร้างสรรค์ของผลงาน 2.2) ผลงานตามหลักองค์ประกอบศิลป์ 2.3) ความสะอาดประณีตของผลงาน 2.4) ความตั้งใจในการปฏิบัติงาน ค่าฐานนิยมระดับ 2 ระดับคุณภาพ พอใช้ กรณีศึกษาสามารถสร้างผลงานได้อย่างถูกต้อง ตามหลักองค์ประกอบศิลป์ เมื่อพิจารณาถึงความคิดสร้างสรรค์ของกรณีศึกษา พบว่าปฏิบัติเองโดยใช้ความจำผลงาน เหมือนชิ้นงานตัวอย่างที่เคยทำ ไม่มีการปรับเปลี่ยน แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่เด่นชัดขึ้น

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2560). พระราชบัญญัติ ส่งเสริมการพัฒนาเด็กและ เยาวชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 ฉบับที่ 2. เรียกใช้เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2562 จาก http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/063/1.PDF

กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2553. เรียกใช้เมื่อ 18 มกราคม 2562 จาก http://regu.tu.ac.th/quesdata/Data/L31.pdf

ชลูด นิ่มเสมอ. (2531). องค์ประกอบศิลปะ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์. (2548). การวิจัยทางศิลปะ. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พิกุล เลียวสิริพงศ์. (2565). เอกสารประกอบการสอนกระบวนวิชา (070725). เชียงใหม่: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.

พุฑฒิพงษ์ เพชรรัตน์. (2552). การศึกษาพฤติกรรมซ้ำๆ ของนักเรียนออทิสติกอายุ 7 - 10 ปี ในโรงเรียนศึกษาพิเศษ จากการใช้โปรแกรมปรับพฤติกรรมกิจกรรมการเคลื่อนไหว. ใน สารนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต

สาขาวิชาการศึกษาพิเศษ. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือในพระบรมราชินูปถัมภ์. (2549). คู่มือจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล. เชียงใหม่: โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือ.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2560). คู่มือแนวทางการดำเนินงานการน้อมนำพระบรมราโชบายในหลวงรัชกาลที่ 10 ลงสู่การปฏิบัติ. เรียกใช้เมื่อ 28 มิถุนายน 2565 จาก

https://www.obec.go.th/archives/646242

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2561). แนวทางการเสริมสร้างทักษะและสร้างเสริมประสบการณ์อาชีพ ให้แก่นักเรียน. เรียกใช้เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2562 จาก http://www.guidestudent.obec.go.th/?

p=348

อนุวัติ คูณแก้ว. (2562). สถิติเพื่อการวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

09/30/2022

รูปแบบการอ้างอิง

บุญมาก ภ., ทองสุขดี ร., เลียวสิริพงศ์ พ., & วิทยากร ส. (2022). การใช้กระบวนการสร้างสรรค์ศิลปะ ในการเตรียมความพร้อมเข้าสู่อาชีพ สำหรับนักเรียนสายตาเลือนรางพิการซ้อน. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(9), 92–103. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/261030

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย