อิทธิพลโครงสร้างเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจังหวัดชายแดนใต้

ผู้แต่ง

  • ชุติกาญจน์ เพ็ชร์แก้ว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
  • ธมยันตี ประยูรพัน์ มหาวิทยาลัยนราธวาสราชนครินทร์

คำสำคัญ:

อิทธิพลโครงสร้างเชิงสาเหตุ, สภาพแวดล้อมภายนอก, สภาพแวดล้อมภายใน, การจัดการเชิงกลยุทธ์, การเติบโตอย่างยั่งยืน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ตรวจสอบความสอดคล้องของตัวแบบ                   เชิงสมมติฐานกับข้อมูลเชิงประจักษ์ของอิทธิพลโครงสร้างเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการเติบโต     อย่างยั่งยืนของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจังหวัดชายแดนใต้ 2) ศึกษาอิทธิพลทางตรง ทางอ้อม และอิทธิพลรวม ของปัจจัยโครงสร้างเชิงสาเหตุ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 830 คน สุ่มตัวอย่างโดยวิธีการจัดชั้นภูมิ และสุ่มอย่างง่าย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคโมเดลสมการโครงสร้าง ผลการวิจัยพบว่า                     1) โมเดลสมการโครงสร้างที่พัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (X2/df = 1.522, IFI = 0.975, NFI = 0.930, TLI = 0.973, CFI = 0.975, GFI = 0.910, AGFI = 0.902, และ RMSEA = 0.025) ดังนั้น สามารถใช้ทฤษฎีอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจังหวัดชายแดนใต้ได้               2) สภาพแวดล้อมภายนอกและสภาพแวดล้อมภายในมีอิทธิพลทางตรงต่อการจัดการเชิงกลยุทธ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และการจัดการเชิงกลยุทธ์มีอิทธิพลทางตรงต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในขณะที่สภาพแวดล้อมภายนอกและสภาพแวดล้อมภายในมีอิทธิพลทางอ้อมต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ผลการศึกษาครั้งนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยผู้ประกอบการต้องเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน และ นำกระบวนการจัดการเชิงกลยุทธ์ไปใช้ในองค์การ ในขณะเดียวกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรให้การสนับสนุนที่เอื้อต่อการดำเนินงานของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจังหวัดชายแดนใต้สามารถอยู่รอดและมีการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

เอกสารอ้างอิง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า. (2563). สถิติข้อมูลนิติบุคคลจัดตั้งและเลิก. เรียกใช้เมื่อ 20 กรกฏาคม 2564 จาก http://www.dbd.go.th/more_news.php?cid = 1415

กัลยา วานิชย์บัญชา. (2550). สถิติสำหรับงานวิจัย. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

จันทร์เพ็ญ แก้วดี และคณะ. (2562). สภาพแวดล้อมภายนอก การมีส่วนร่วมและความสามารถทางการตลาดที่มีผลต่อการเติบโตของวิสาหกิจชุมชนเขตภาคเหนือตอนบน. วารสารมนุษยสังคมสาร (มสส.), 17(1), 2-48.

จิราพร ไชยศร และบุญฑวรรณ วิงวอน. (2562). บริบทของสภาพแวดล้อมและการจัดการเชิงกลยุทธ์ที่มีผลต่อการเติบโตของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจังหวัดลำปาง. วารสารสังคมศาสตร์วิชาการ, 12(2), 290-301.

ชลิตพันธ์ บุญมีสุวรรณ. (2563). นวัตกรรมและการปรับตัวของธุรกิจในยุคดิจิทัล. วารสารธุรกิจปริทัศน์, 12(2), 23–46.

เชาวลิต ประสิทธิ์ และกนกพร ชัยประสิทธิ์. (2562). ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยภายนอกกับความสำเร็จของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจังหวัดฉะเชิงเทรา. วารสารการจัดการและการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี, 6(1), 29-56.

ตระกูล จิตวัฒนากร. (2563). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดการเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร. วารสารวิทยาลัยสงฆ์นครลำปาง, 9(2), 91-100.

ธัญญ์นิธิ จิรพัฒนาพรสิน. (2563). แนวทางการจัดการเชิงกลยุทธ์และความสามารถในการแข่งขันขององค์กรหลักฐานเชิงประจักษ์กิจการในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมไทย. วารสารนักบริหาร, 40(2), 65-80.

ปกรณ์ อุดมธนสารสกุล. (2564). อิทธิพลของนโยบายรัฐบาลและการจัดการภาวะวิกฤตที่มีต่อกลยุทธ์การดำเนินงานของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ภาคบริการในจังหวัดเชีงใหม่ ในช่วงวิกฤตของโรคระบาดโควิด 19. วารสารการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 13(2),

-92.

ปัญฑารีย์ ฟองแพร่. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาองค์กรให้มีศักยภาพการทำงานสูง: กรณีศึกษาธนาคารยูโอบี. ใน วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ. มหาวิทยาลัยบูรพา.

พัชราพรรณ ชอบธรรม. (2562). การวางแผนกลยุทธ์: เครื่องมือสู่ความสำเร็จขององค์การ. วารสารมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงใหม่, 1(2), 55-75.

มลทิพย์ บำรุงกิจ และนพดล พันธุ์พานิช. (2564). การศึกษาสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ความเป็นผู้ประกอบการและปัจจัยกำหนด ที่มีผลต่อความได้เปรียบในการแข่งขันของเครือข่ายวิสาหกิจอุตสาหกิจอุตสาหกรรมเซรามิกส์ ลำปาง. วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 6(2), 375-

รัตนาพร เลารุจิราลัย และคณะ. (2561). ปัจจัยสภาพแวดล้อมภายในองค์การที่มีความสัมพันธ์กับความสำเร็จในการบริหารจัดการสโมสรโรตารี่ในประเทศไทย. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย, 11(2), 39-49.

ศักดิ์ดา ศิริภัทรโสภณ. (2563). โรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19): ผลกระทบต่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของไทยและกลยุทธ์ในการฟื้นฟูกิจการ. วารสารสมาคมนักวิจัย, 25(2), 9-25.

ศิริกุล ชัยโรจน์วงศ์ และชำนาญ งามมณีอุดม. (2561). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภาคการผลิตในประเทศไทย. วารสารการเมือง การบริหารและกฎหมาย, 10(2), 453-480.

สมเกียรติ อินทวงศ์. (2563). บุพปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อประสิทธิผลจากการบริหารเชิงกลยุทธ์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเชียงใหม่เพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน. วารสารวิชาการสถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ, 6(2), 522-539.

สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย. (2560). SMEsหัวใจที่แท้จริงของเศรษฐกิจไทย. เรียกใช้เมื่อ 20 มกราคม 2564 จาก http://www.tasme. or.th/aeticle/822/

สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์. (2564). สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาส สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดยะลา ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ คัดเลือก 10 ผู้ประกอบการจากสามจังหวัดชายแดนใต้ เข้าร่วมกิจกรรมการส่งเสริมและพัฒนา SME เป็น smart SME และย. เรียกใช้เมื่อ 14 กรกฏาคม 2565 จาก https://thainews.prd.go.th /th/news/detail/TCATG210907091514053?fbcld=IwAR0qWYgtXSgaZ4sl4YrYVLKRqDhR9FkAMk8dTxlTvY5AaYoa8ixkrDE8iaU

สำนักส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม. (2564). Dashboard SME Big Data. เรียกใช้เมื่อ 15 มิถุนายน 2564 จาก http://www.sme.go.th/th/page.php? Modulekey=384

สุภาพร เพชรัตน์กูล และคณะ. (2564). แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม, 8(2), 717-738.

Alex, A. & Bernard, A. . (2021). THE RELATIONSHIP BETWEEN STRATEGIC MANAGEMENT PRACTICESAND THE GROWTH OF SMALL AND MEDIUM ENTERPRISES (SMES) IN GHANA. Business: Theory and Practice, 22(1), 222-230.

Hair, J. F. et al. (2010). Multivariate Data Analysis (7th ed.). Pearson: New York.

Hooper, D. et al. (2008). Structural equation modelling: guidelines for determining model fit. Journal of Business Research, 6(1), 53-60.

Jöreskog, K. & Sörbom, D. (1993). LISREL 8: Structural Equation Modeling with the SIMPLIS Command Language. Chicago, IL: Scientific Software International Inc.

Kline, R. B. (2010). Principles and Practice of Structural Equation Modelling. New York: NY: TheGuilford Press.

Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Journal of Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607–610.

Nunnally, J. C. (1978). Psychometric Theory. (2nd ed.). New York: NY: McGraw-Hill.

Rovinelli, R. J. & Hambleton, R. K. (1977). On the Use of Content Specialists in the Assessment ofCriterion-referenced Test Item Validity, Dutch. Journal of Educational Research, 2(2), 49-60.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

09/30/2022

รูปแบบการอ้างอิง

เพ็ชร์แก้ว ช. ., & ประยูรพัน์ ธ. . (2022). อิทธิพลโครงสร้างเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจังหวัดชายแดนใต้. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 7(9), 400–419. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/261353

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย