รูปแบบการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านทุจริต โดยใช้กิจกรรมและหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในจังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
รูปแบบการสร้างความเข้มแข็ง, การต่อต้านทุจริต, กิจกรรมและหลักธรรมทาง พระพุทธศาสนาบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากระบวนการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านทุจริต โดยใช้กิจกรรมและหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ในจังหวัดเชียงใหม่ 2) สร้างรูปแบบการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านทุจริต ฯ และ 3) นำเสนอรูปแบบการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านทุจริต ฯ เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี กลุ่มตัวอย่างการวิจัยเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ได้แก่ บุคลากรจากสถาบันการศึกษาทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนสามัคคีวิทยานทาน โรงเรียนเมตตาศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยมหามกุราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา ผลการวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศชายมีอายุ 31-40 ปี จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี อยู่ในสายปฏิบัติงานด้านบุคลากรสนับสนุนวิชาการ เป็นพนักงานมหาวิทยาลัยมากที่สุด และไม่เคยเข้ารับการฝึกอบรม มีระดับความพึงพอใจเกี่ยวกับกระบวนการสร้างความเข้มแข็ง และรูปแบบการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านทุจริตในระดับมาก 1) กระบวนการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านทุจริต ฯ พบว่า ภายในสถาบันการศึกษา ไม่เคยมีการจัดอบรมหรือเข้าร่วมการฝึกอบรมเกี่ยวกับการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านการทุจริตโดยตรง แต่ภายในองค์กรมีการจัดกิจกรรมตามประเพณี การฟังธรรมเทศนา และมีการจัดทำโครงการต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านทุจริต 2) รูปแบบการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านทุจริต ฯ พบว่า สถาบันการศึกษา องค์กร หน่วยงานต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ ควรมีการพัฒนารูปแบบการสร้างความเข้มแข็งในการต่อต้านทุจริต โดยใช้กิจกรรมและหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา คือ 1) รูปแบบการสร้างความเข้มแข็งฯ ด้วยการส่งเสริมการจัดกิจกรรมอบรมเป็นแผนประจำปี และ 2) รูปแบบการสร้างเครือข่ายระหว่างสถาบันการศึกษา และองค์กรทางพุทธศาสนา
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). “แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564”. เรียกใช้เมื่อ 26 ตุลาคม 2563 จาก https://www.nesdc.go.th/ewt_dl_link.php?nid=6422
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). “ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2561-2580”. เรียกใช้เมื่อ 26 ตุลาคม 2563 จาก https://www.nesdc. go.th/download/document/SAC/NS_PlanOct2018.pdf
ชุมแพ แสนยะบุตร และ ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ. (2560). การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและภาคประชาชนต่อต้านการทุจริตขององค์กรชุมชน : กรณีศึกษาชุมชนในเขตเทศบาลตำบลกลางหมื่น อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 7(3), 53-62.
ประชาชาติธุรกิจ. (2565). 5 อันดับถูกร้องเรียนทุจริตมากที่สุด ยุคประยุทธ์ มหาดไทยนำโด่ง 503 เรื่อง. เรียกใช้เมื่อ 15 สิงหาคม 2565 จาก (https://www.prachachat.net/ politics/news-871377)
ประชาชาติธุรกิจ. (2565). ดัชนีรับรู้ทุจริตไทยปี 2564 คะแนนตก หล่นไปอยู่อันดับ 110 ของโลก. เรียกใช้เมื่อ 15 สิงหาคม 2565 จาก https://www.prachachat.net/ breaking-news/news-852409
พรเทพ จันทรนิภ. (2559). การพัฒนารูปแบบการป้องกนัการทุจริตคอร์รัปชั่น ในภาครัฐเพื่อการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีในสังคมไทย. วารสารเกษมบัณฑิต, 16(1), 88-89.
วนิดา ชุมนุม. (2561). ธรรมาภิบาลแนวพุทธ: กรณีศึกษาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในประเทศไทย, คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำแหง. วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 11(2), 1-14.
ศักดิ์สายันต์ ใยสามเสน และประทีป พืชทองหลาง. (2562). การพัฒนาคู่มือและสร้างเครือข่ายการสอนรายวิชาการต่อต้านการทุจริตในมหาวิทยาลัยในเขตภาคเหนือตอนบน. วารสารปัญญา, 26(2), 31-41.
ศิริวรรณ มนอัตระผดุง. (2555). สถานการณ์คอร์รัปชันของประเทศไทย. วารสารวไลยอลงกรณ์ ปริทรรศน์, 2(1), 1-9.
ศุภเยาว์ นาคเงินทอง และคณะ. (2561). การป้องกันการทุจริตในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยกลไกพุทธบูรณาการ. วารสารมจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 7(2), 1-11.
องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่. (2564). รายงานผลการดำเนินงานเรื่องร้องเรียน-ร้องทุกข์ ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2564. เรียกใช้เมื่อ 15 สิงหาคม 2565 จาก https://chiangmaipao.go.th/cmpao/article-detail/3309/
Chansarn, S. . (2013). Corruption and Income Inequality in Society: A Cross-Country Review. Songklanakarin Journal of Social Sciences and Humanities, 19(3), 35-59.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 วารสารสังคมศาสตร์และมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




