การพัฒนาชุมชนต้นแบบตามหลักพรหมวิหารธรรมรองรับสังคมผู้สูงอายุ

ผู้แต่ง

  • ธัชชนันท์ อิศรเดช คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
  • ไพวรรณ ปุริมาตร คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครราชสีมา นครราชสีมา ประเทศไทย
  • ปุญญาดา จงละเอียด คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราช ประเทศไทย
  • วิไลวรรณ อิศรเดช สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย
  • ทิพย์วรรณ จันทรา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราช ประเทศไทย

คำสำคัญ:

การพัฒนาชุมชน, ชุมชนต้นแบบ, หลักพรหมวิหารธรรม, สังคมผู้สูงอายุ

บทคัดย่อ

ความเป็นมาและวัตถุประสงค์: ปัจจุบันในประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุจึงต้องเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุจึงมีความจำเป็นเพื่อให้เกิดสังคมผู้สูงอายุที่เอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีและถูกต้องทั้งการดูแลผู้สูงอายุจากครอบครัว จากชุมชน จากการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน จากการมีเครือข่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านสุขภาพ ด้วยหลักพรหมวิหารธรรม การมีชุมชนต้นแบบที่เหมาะกับสังคมสูงวัย ดังนั้น การพัฒนาชุมชนต้นแบบตามหลักพรหมวิหารธรรมรองรับสังคมผู้สูงอายุที่ให้สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของผู้สูงอายุและชุมชน วัตถุประสงค์ของการศึกษา เพื่อศึกษาการพัฒนาชุมชนต้นแบบรองรับสังคมผู้สูงอายุโดยกลไกการมีส่วนร่วมของชุมชน และบูรณาการหลักพรหมวิหารธรรมในการรองรับสังคมผู้สูงอายุ

วิธีดำเนินการวิจัย: เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ รวมจำนวน 16 รูป/คน คัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบมีโครงสร้าง เก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารที่เกี่ยวข้องและการสัมภาษณ์เชิงลึก

ผลการวิจัย: พบว่า 1) การพัฒนาชุมชนต้นแบบรองรับสังคมผู้สูงอายุโดยกลไกการมีส่วนร่วมของชุมชน ประกอบด้วย ด้านการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพผู้สูงอายุ โดยการให้ความรู้ในเรื่องอาหาร ลดอาหารหวาน มันเค็ม หรืออาหารที่ส่งผลต่อภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นหลังจากป่วย และให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกอาหารให้เหมาะสมและการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุเบื้องต้น ด้านการจัดกิจกรรมดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวม โดยการสำรวจผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และด้านการพัฒนาเครือข่ายส่งเสริมสุขภาพดูแลผู้สูงอายุ สนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุในการพึ่งพาตนเองด้านสุขภาพ 2) หลักพรหมวิหารธรรมในการรองรับสังคมผู้สูงอายุโดยกลไกการมีส่วนร่วมของชุมชน เป็นการใช้หลักธรรมที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจกับผู้สูงอายุ ประกอบด้วย ด้านความเมตตา รักใคร่ปรารถนาดีต่อกัน ด้านความกรุณา ช่วยให้ผู้สูงอายุมีความรู้สึกว่ามีคุณค่าและมีความสำคัญ ด้านมุทิตา พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุได้รู้สึกผ่อนคลาย ลดปัญหาการเก็บตัวหรือปลีกวิเวกจากสังคมช่วยให้ผู้สูงอายุรู้สึกภาคภูมิใจและมีความเชื่อมั่นในตนเอง และด้านอุเบกขา ความวางใจเป็นกลางส่งเสริมให้ผู้สูงอายุรับรู้และเข้าใจความรู้สึกของตนเอง รู้จักควบคุมอารมณ์ ผ่อนคลาย และปล่อยวาง รวมทั้งสามารถปรับตัวและยอมรับสภาพที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง

ความเกี่ยวข้องกับหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา: บูรณาการหลักพรหมวิหารธรรมในการรองรับสังคมผู้สูงอายุ มีความเกี่ยวข้องในลักษณะของพระพุทธศาสนาเชิงบูรณาการ คือ พรหมวิหารธรรมหรือพรหมวิหาร 4 ประกอบด้วย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เป็นคำสอนที่ทำให้ผู้ประพฤติปฏิบัติตามเป็นผู้ประเสริฐ สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันเพื่ออยู่ร่วมกันของผู้สูงอายุอย่างมีความสุข อีกทั้งยังเป็นธรรมที่ผู้นำมาปฏิบัติสามารถนำมาสร้างความสุขได้

สรุป: การดูแลผู้สูงอายุในปัจจุบันถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสังคมไทยมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งผลที่จะตามมาด้วยปัญหาสุขภาพ ปัญหาทางด้านสภาพจิตใจ เมื่อไม่มีงานทำ อาจจะทำให้ผู้สูงอายุเกิดอาการซึมเศร้า รวมถึงการเกิดโรคเรื้อรังต่าง ๆ ด้วย อย่างไรก็ตามการส่งเสริมให้ครอบครัวและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุจะส่งผลให้ลดภาระการดูแลจากภาครัฐ

เอกสารอ้างอิง

Chansarn, S. (2020). Active Ageing of Elderly People and Its Determinants: Empirical Evidence from Thailand. Asia-Pacific Social Science Review, 12(1), 1-18.

Cronbach, L. J. (2019). Essentials of Psychological Testing (5th ed.). Harper: Collins Publishers.

Faikam, K. (2018). Quality of Life Development of the Elderly in Thailand. Journal of Bangkokthonburi University, 7(2), 19-26.

Kongkaeo, W. (2016). Biosocial Factors Effecting Health Perception and Health Selfcare Behavior of the Elderly at Senior Citizen Club of Pramongkutklao Hospital in Bangkok Metropolis. [Unpublished master's dissertation]. Srinakharinwirot University.

Naiyapatana, W. (2010). Health problem, Medicine-Used problem, and Medicine-Used Behaviors among Elderly In the community of Pramongkutklao Hospital. Journal of Nursing and Education, 3(1), 2-14.

Phangnarean, P. (2021). Community Participation in Career Development for Increasing the Elderly's Incomes. Dhonburi Rajabhat University Journal, 15(1), 112-121.

Phramaha Suphan Subhaddo. (2021). A Study of the Buddhist Principles for Promotion of Mental Health of the Elderly in Huai Rat Sub-District, Huai Rat District, Buriram Province. [Unpublished master's dissertation]. Mahachulalongkornrajavidyalaya University.

Pruansuk, P. (2017). Guidelines for Quality of Life Development for the Elderly of Local Administrative Organizations in Phrae Province. Journal of Graduate School, Pitchayatat, 10(1), 77-87.

Sarana, T. & Pasunon, P. (2017). Dharmic Principle for Lifestyle of the Elderly: A Case Study of Community at Wat Si Mueang, Chanthaburi. [Unpublished master's dissertation]. Silpakorn University.

Srisupak, R. (2016). Health Care Model for Homebound Elderly in Mahasarakham Municipality. [Unpublished master's dissertation]. Mahasarakham University.

Sritanyaratana, W. & Damrikarnlerd, L. (2010). Knowledge Management and Synthesis of Practices of District Health Promoting Hospitals: Guidelines for Elderly Services. Vol.1. Sahamit Printing and Publishing Press.

Wanitchakham, A. (2019). Preparation for Aging Society: A Case Study of Sai Mai District, Bangkok. APHEIT Journals, 25(1), 164-179.

Zhan, L. (1992). Quality of Life: Conceptual and Measurement Issues. Journal of Advanced Nursing, 17(7), 795-800.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

03/02/2024

รูปแบบการอ้างอิง

อิศรเดช ธ., ปุริมาตร ไ., จงละเอียด ป., อิศรเดช ว., & จันทรา ท. (2024). การพัฒนาชุมชนต้นแบบตามหลักพรหมวิหารธรรมรองรับสังคมผู้สูงอายุ. วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ, 9(1), 75–86. สืบค้น จาก https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JSBA/article/view/269792

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย