นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธของวัดธาตุน้อย อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
คำสำคัญ:
นโยบาย, การส่งเสริม, ท่องเที่ยววิถีพุทธ, วัดธาตุน้อยบทคัดย่อ
ความเป็นมาและวัตถุประสงค์: การท่องเที่ยว ถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจรวมถึงเป็นรายได้หลักของประเทศไทย รัฐบาลจึงมีการวางแผนและปรับเปลี่ยนนโยบายการท่องเที่ยวรวมถึงยุทธศาสตร์ของชาติเกี่ยวกับการท่องเที่ยวอยู่ตลอดเวลา โดยส่งเสริมการกระจายการเดินทางท่องเที่ยว และการเติบโตทางการท่องเที่ยว เชื่อมโยงระหว่างกลุ่มจังหวัดและภูมิภาค เพื่อให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ วิถีพุทธ แหล่งรวบรวมงานศิลป์ วิทยาการและความรู้มากมายหลายสาขา ตลอดจนเป็นแหล่งรวมของศิลปกรรมที่มีค่า เช่น โบราณสถาน โบราณวัตถุและจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งงานศิลปกรรมต่าง ๆ นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าและเป็นเสมือนเอกลักษณ์ของความเป็นชาติไทย จึงมีนโยบายส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของสังคม ทั้งภาครัฐและเอกชนตระหนักถึงความสำคัญและเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการจัดโครงการท่องเที่ยวแนวศาสนา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษานโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธของวัดธาตุน้อยและเพื่อศึกษาข้อเสนอแนะนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธของวัดธาตุน้อย อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
วิธีดำเนินการวิจัย: เป็นการวิจัยผสานวิธี มีขอบเขตเนื้อหา นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธ นโยบายด้านกายภาพ นโยบายด้านบุคคล นโยบายด้านการประชาสัมพันธ์ นโยบายด้านเครือข่ายการท่องเที่ยว และสรุปบทสัมภาษณ์ข้อเสนอแนะนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธ ด้านกายภาพ บุคคล การประชาสัมพันธ์ และด้านเครือข่ายการท่องเที่ยวจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชาชนที่เดินทางมาท่องเที่ยววิถีพุทธวัดธาตุน้อย ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนธันวาคม ปีพ.ศ 2566 จำนวน 383 คน ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ กลุ่มนักวิชาการด้านการท่องเที่ยว กลุ่มพระสังฆาธิการ กลุ่มผู้นำท้องถิ่นหรือผู้นำท้องที่ กลุ่มนักท่องเที่ยว และกลุ่มมัคคุเทศก์ รวมทั้งสิ้น 20 รูป/คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์เชิงลึกและแบบสอบถาม ได้ค่าความเชื่อมั่นแบบสอบถามเท่ากับ 0.778 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย: พบว่า 1) องค์ความรู้การท่องเที่ยววิถีพุทธ อยู่ในรูปแบบของความศรัทธาและความเชื่อความเลื่อมใส ที่มีคุณค่าทางด้านจิตใจของนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม มาเคารพบูชา 2) นโยบายด้านกายภาพ เป็นการประกันการอนุรักษ์และบำรุงรักษาวัด พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม ป้ายข้อมูล ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเน้นย้ำถึงพฤติกรรมที่ให้ความเคารพต่อสถานที่ 3) นโยบายด้านบุคคล ฝึกอบรมบุคลากรพัฒนาทักษะทางภาษาให้สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4) นโยบายด้านการประชาสัมพันธ์ ริเริ่มประชาสัมพันธ์ด้วยความเคารพต่อวัฒนธรรม ประเพณี และความเชื่อของชาวพุทธ ผ่านแหล่งข้อมูลออนไลน์ และ 5) นโยบายด้านเครือข่ายการท่องเที่ยว สร้างความร่วมมือกับตัวแทนการท่องเที่ยวและบริษัททัวร์ที่เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวทางจิตวิญญาณหรือศาสนา เป็นความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ โดยเชื่อมโยงทั้งจังหวัด ภูมิภาคทั้งทางถนน ทางอากาศสามารถเชื่อมโยงได้ทุกบริบทของพื้นที่
ความเกี่ยวข้องกับหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา: บทความพุทธนวัตกรรมนี้ มีหลักธรรมที่นำมาประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธ คือ ศรัทธาและปสาทะ ที่มักนิยมใช้คู่กับคำว่าศรัทธาคือความเชื่อ เป็นศรัทธาปสาทะ ซึ่งหมายถึง เลื่อมใสด้วยศรัทธา หรือทั้งเลื่อมใสทั้งศรัทธา
สรุป: การนำองค์ความรู้นโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีพุทธ มาประยุกต์ใช้ในการท่องเที่ยวเป็นการผสมผสานระหว่างประสบการณ์ทางกายและทางจิตวิญญาณต่อสถานที่ท่องเที่ยววิถีพุทธที่ทำให้ผู้มาเที่ยวชม เกิดความเลื่อมใสศรัทธาต่อศาสนาและศาสนสถานนั้น
เอกสารอ้างอิง
Boonyaphak, W. (2007). Tourism resource management. Sukhothai, Thailand: Sukhothai Thammathirat Open University.
Bowonkulpa, B. (2014). The Need to Develop Community Temples in The Thonburi Area to Become Tourist Destinations. [Unpublished master's thesis]. Siam University. Bangkok, Thailand.
Chomphuwong, S. (2011). Social Science Research Methods (2nd ed.). Nakhon Si Thammarat , Thailand: Mahamakudraj University, Srithammasokrat Campus.
Department of Religious Affairs, Ministry of Culture. (2014). Guidelines for the Implementation of Tourism Promotion Projects on Pilgrimage Routes in Religious Dimensions in 2014. Bangkok, Thailand: Department of Religious Affairs, Ministry of Culture.
Khamsri, W. (2024). The Policies to Promote Buddhist Way of Tourism. (Yiamsuan, A., Interviewer).
National Statistical Office. (2014). Survey of Travel Behavior of Thai People 2014. Bangkok, Thailand: Office of Forecasting Statistics, National Statistical Office.
Phrakhru Phawanaphothikhun Somchai Kantasilo & Phra viman Gambhirapanno. (2017). The Support of Public Mind to Preserve the Touring-Places of the Buddhist Temples in Muang Khonkaen District, Khonkaen Province. [Research report, Mahachulalongkornrajavidyalaya University, Khonkaen Campus]. DSpace at Mahachulalongkornrajavidyalaya University. http://mcuir.mcu.ac.th:8080/jspui/handle/123456789/428.
Phrakru Udonphawanakun Sajjasapho. (2020). Promoting Approach for Buddhist Tourism Management of Temples in Nayung District, Udonthani Province. Journal of MCU Peace Studies, 8(3), 1024-1037.
Phramaha Samran Thanuttamo Prasertsueng. (2018). The Monasteries Management for Cultural Tourism Attraction of Samutsonkhram Province. [Unpublished doctoral dissertation]. Mahachulalongkornrajavidyalaya University. Phra Nakhon Si Ayutthaya, Thailand.
Prasasakul, L. (2012). Tourist Behavior. Bangkok, Thailand: V.Print (1991) Company Limited.
Saefang, Y. (2021). Taking Tourism Promotion Policy for Implementation for Personnel of Mae Hong Son Provincial Administrative Organization. Journal of Arts Management, 5(1), 134-149.
Saelee, T. (2018). Suitable Community Tourism Management Network Model of the Ali Community and Ban Om Kaew Community Surin Province. [Unpublished master's thesis]. Ubon Ratchathani University. Ubon Ratchathani, Thailand.
Somanat, J. (2024). The Policies to Promote Buddhist Way of Tourism. (Yiamsuan, A., Interviewer).
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




