กระบวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมจิตสาธารณะเชิงพุทธของนิสิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
คำสำคัญ:
กระบวนการจัดกิจกรรม, การส่งเสริม, จิตสาธารณะเชิงพุทธ, นิสิต มจรบทคัดย่อ
ความเป็นมาและวัตถุประสงค์: บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาจิตสาธารณะเชิงพุทธของนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เพื่อวิเคราะห์กระบวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมจิตสาธารณะเชิงพุทธของนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และเพื่อนำเสนอกระบวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมจิตสาธารณะ
เชิงพุทธของนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิธีดำเนินการวิจัย: โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research) การวิจัยเชิงปริมาณ
กลุ่มตัวอย่าง คือ นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน 375 คน ได้มาจากตารางเปรียบเทียบสำเร็จของรูปเครซี่และมอร์แกน สถิติที่ใช้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 20 คน การสนทนากลุ่ม จำนวน 10 คน และผู้เชี่ยวชาญประเมินกระบวนการ จำนวน 15 คน
ผลการวิจัย: พบว่า 1) จิตสาธารณะเชิงพุทธของนิสิต แบ่งออกเป็น 2 ข้อ 7 ด้าน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ดังนี้ 1.1) การส่งเสริมจิตสาธารณะ จำนวน 3 ด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการถือเป็นหน้าที่ในการดูแลรักษาของส่วนรวม ( = 4.05) ด้านการเคารพสิทธิในการใช้ของส่วนรวมร่วมกัน (
= 4.04) และ
ด้านการหลีกเลี่ยงการใช้หรือกระทำให้เกิดความเสียหายต่อสมบัติของส่วนรวม ( = 3.97) ตามลำดับ และ
1.2) จิตสาธารณะตามหลักสังคหวัตถุ 4 จำนวน 4 ด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านปิยวาจา
( = 4.17) ด้านสมานัตตตา (
= 4.14) ด้านทาน (
= 4.01) และด้านอัตถจริยา (
= 3.96) ตามลำดับ
2) ผลการวิเคราะห์กระบวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมจิตสาธารณะเชิงพุทธของนิสิตแบ่งออกเป็น 5 ด้าน ได้แก่
2.1) ด้านหลักการส่งเสริมจิตสาธารณะ 2.2) ด้านวิธีการส่งเสริมจิตสาธารณะ 2.3) ด้านกิจกรรมส่งเสริม
จิตสาธารณะ 2.4) ด้านการประเมินผลกิจกรรมส่งเสริมจิตสาธารณะ และ 2.5) หลักสังคหวัตถุ 4 บูรณาการกับ
การส่งเสริมจิตสาธารณะ และ 3) ผลการนำเสนอกระบวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมจิตสาธารณะเชิงพุทธของนิสิต ตามขั้นตอนของ PDCA “Deming Cycle” (Plan-Do-Check-Act) แก่ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 15 คน พบว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความเห็นว่า กระบวนการจัดกิจกรรมส่งเสริมจิตสาธารณะเชิงพุทธของนิสิต มีความเหมาะสมมาก จำนวน 12 คน คิดเป็นร้อยละ 80.00 มีความเห็นว่าค่อนข้างเหมาะสม จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 13.33 และมีความเห็นว่าเหมาะสมบางส่วน จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 6.67 ตามลำดับ และเมื่อพิจารณาโดยภาพรวม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันความเหมาะสม เป็นประโยชน์และสามารถนำไปเป็นกระบวนการจัดกิจกรรมส่งเสริม
จิตสาธารณะเชิงพุทธของนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้อย่างเหมาะสม
ความเกี่ยวข้องกับหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา: บทความวิจัยนี้มีหลักธรรมที่นำมาประยุกต์ใช้ คือ หลักสังคหวัตถุ 4 หมายถึง ธรรมที่เป็นที่ตั้งแห่งการสงเคราะห์กัน เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจกัน เป็นหลักการครองใจคน เป็นหลักสังคมสงเคราะห์ ทำให้คนอยู่กันด้วยความรักความปรารถนาดีต่อกัน ได้แก่ ทาน ปิยวาจา
อัตถจริยา และสมานัตตตา
สรุป: ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมจิตสาธารณะเชิงพุทธของนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ควรมีกระบวนการในการจัดกิจกรรม ได้แก่ หลักการ วิธีการ กิจกรรม การประเมินผล และการนำหลักสังคหวัตถุ 4 มาประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรม เพื่อเป็นแบบแผนหรือแนวทางในการจัดกิจกรรมส่งเสริมจิตสาธารณะให้กับนิสิตเพื่อนำไปพัฒนาตน สังคม และมหาวิทยาลัยให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป
เอกสารอ้างอิง
Ajpru, H. (2001). The Relationship Between Personal Factors, Leadership, Lifestyle, and Self-Learning Ability with Public Consciousness of Nursing Students in Bangkok. [Unpublished master's thesis]. Chulalongkorn University. Bangkok, Thailand.
Department of Education Bangkok Metropolitan Administration. (2012). White School Project (Anti-Corruption): Growing Up without Corruption Curriculum, Mathayom 3. Bangkok, Thailand: Department of Education Bangkok Metropolitan Administration.
Mahachulalongkornrajavidyalaya University. (2015). History and Development of Mahachulalongkornrajavidyalaya University. (1st ed.). Bangkok, Thailand: 21 Century Company Limited.
Maneechoti, B. (1987). A Study of the Format of Questions to Measure Self-Sacrifice Personality Traits: Text Type and Situation Type that Affect the Quality of the Test. [Unpublished master's thesis]. Srinakharinwirot University. Bangkok, Thailand.
Office of Registrar and Evaluation, MCU. (2023). Statistics of Students of Mahachulalongkornrajavidyalaya University, Academic Year 2022. Phra Nakhon Si Ayutthaya, Thailand: Office of Registration and Evaluation, MCU.
Phrakru Niwetsilakorn, Theunchang, W. & Tossakrai, T. (2020). Guidelines for Strengthening Public Consciousness for Secondary School Students in Nakhon Sawan Province. Graduate Studies Review Nakhon Sawan Sangha College, 8(2), 55-66.
Phramaha Chatuporn Sutanon. (2009). Development of Public Consciousness of Students Regarding the Preservation of Religious Properties at Sripariyakhunsuksa School, Prathai District, Nakhon Ratchasima Province. [Unpublished master's independent study]. Mahasarakham University. Maha Sarakham, Thailand.
Saeng-Arun, K. (2008). Guidelines for the Development of Thai Youth Public Consciousness: A Case Study of Groups and Networks of Youth for Public Consciousness. [Master's thesis, Chulalongkorn University]. Chulalongkorn University Intellectual Repository. http://cuir.car.chula.ac.th/handle/123456789/56612.
Sinlacharu, T. (2020). Research and Statistical Analysis with SPSS and AMOS. (18th ed.). Nonthaburi, Thailand: S. R. Printing Massproducts Company Limited.
Sriplang, P. (2016). Development of Activities to Promote Public Consciousness for Education Students. [Doctoral dissertation, Burapha University]. DSpace Repository. https://buuir.buu.ac.th/xmlui/handle/1234567890/11539.
Thongyim, S. (2007). Participation in Community Development of the Village Committee Nong Pradu Subdistrict, Lao Khwan District, Kanchanaburi Province. [Unpublished master's thesis]. Suan Sunandha Rajabhat University. Bangkok, Thailand.
Warunpitikul, Y. (1999). Civic Consciousness: An Essay on Citizens on the Community Path. Bangkok, Thailand: Civic Net Foundation.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2024 วารสารมานุษยวิทยาเชิงพุทธ

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.




