แนวโน้มผลกระทบในการเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทยของชาวต่างชาติที่เกิดจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

บทคัดย่อ

การศึกษาวิจัยเรื่องแนวโน้มผลกระทบในการเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทยของชาวต่างชาติ ที่เกิดจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนมีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาสาเหตุและสภาพปัญหาการเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทยของชาวต่างชาติที่เกิดจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และ (2) เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มการเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทยของชาวต่างชาติที่เกิดจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในเชิงลึก โดยใช้วิธีการเก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลคนสำคัญ ควบคู่ไปกับการจัดสัมมนากลุ่ม 2 ครั้ง ผลการศึกษาพบว่า 3 ปัญหาอาชญากรรมหลัก ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยทั้งก่อนและหลังที่จะมีการเปิดประชาคมอาเซียน คือ ปัญหาเรื่องการลักลอบเข้าประเทศ ปัญหายาเสพติด และปัญหาเรื่องการปลอมแปลงเอกสารราชการ แต่หลังจากที่มีการเปิดประชาคมอาเซียน เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารของประเทศไทย เมียนมา กัมพูชา และลาว ก็ได้เพิ่มความสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกัน ติดต่อประสานงานกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันเพื่อป้องกันและติดตามจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิด นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แนวโน้มผลกระทบในการเข้ามากระทำความผิดในประเทศไทยของชาวเมียนมา ชาวลาว และชาวกัมพูชา ในช่วงระยะเวลา 1-10 ปีนี้ จำนวนผู้ถูกจับกุมในคดียาเสพติดจะมีแนวโน้มลดลง เพราะมีการทำงานร่วมกันของเจ้าหน้าที่มากขึ้น สำหรับคดีการลักลอบเข้าประเทศ ในช่วง 1-3 ปีนี้ ทั้ง 3 สัญชาติน่าจะมีจำนวนผู้ที่กระทำผิดสูงอยู่ และจะเริ่มลดลงในช่วง 3-10 ปี ข้างหน้าเมื่อคนต่างด้าวเข้าใจถึงผลประโยชน์ในการเข้าเมืองแบบถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับคดีการปลอมแปลงเอกสารราชการ ในช่วง 1-5 ปี นี้ยังคงมีการจับกุมผู้กระทำผิดได้น้อยอยู่ แต่ในช่วง 5-10 ปี ข้างหน้า จำนวนผู้กระทำผิดจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าเมื่อแรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่ต้องการเข้ามาทำงานในประเทศแบบถูกกฎหมาย ในส่วนของการปลอมแปลงเอกสารราชการจะมีการกระทำความผิดเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย และการจับกุมก็จะยากขึ้นมากด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าเทคโนโลยีมีความทันสมัยมากขึ้นทำให้การบ่งชี้ความแตกต่างของเอกสารราชการที่ถูกปลอมแปลงอาจจะยากต่อการตรวจสอบ