การพัฒนาตนเองของข้าราชการตำรวจ สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการพัฒนาตนเองของข้าราชการตำรวจ สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 และเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของการพัฒนาตนเอง จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยสภาพการทำงาน กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยใช้การเทคนิคการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) และการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ได้จำนวนตัวอย่างเป็นข้าราชการตำรวจ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 327 อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย จำนวน 173 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลสถิติ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่า T-Test การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการหาความสัมพันธ์โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน โดยกำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
ผลการวิจัย พบว่า ข้าราชการตำรวจสังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 มีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการทำงานในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง และมีระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เช่นเดียวกัน สำหรับผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ข้าราชการตำรวจที่มีปัจจัยส่วนบุคคลในด้านอายุ ระดับการศึกษา ชั้นยศ ระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งปัจจุบัน อัตราเงินเดือนที่ได้รับปัจจุบันต่างกันมีผลต่อการพัฒนาตนเองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และสภาพการทำงานมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาตนเองของข้าราชการตำรวจอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
Article Details
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารกระบวนการยุติธรรม แต่ความคิดเห็นที่ปรากฏในเนื้อหาของบทความในวารสารกระบวนการยุติธรรม ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว
เอกสารอ้างอิง
ขนิษฐา นิ่มแก้ว. 2554. ปัจจัยสภาพแวดล้อมที่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันของบุคลากรในองค์การ: กรณีศึกษา สำนักบริหารโครงการกรมชลประทานสามเสน. ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิชาเอกการจัดการทั่วไป คณะบริหารธุรกิจ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ทวีศักดิ์ รองแขวง. 2555. ความสัมพันธ์ของคุณลักษณะงานกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน: กรณีศึกษาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ นิคมอุตสาหกรรมนวนคร. ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิชาเอกการจัดการทั่วไป คณะบริหารธุรกิจ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
บุรินทร์ ล่วงเขต. 2558. การพัฒนาตนเองของข้าราชการทหาร กองพันทหารสื่อสารที่ 21. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ปราณี รามสูตร. 2548. จิตวิทยาในองค์กร. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฎธนบุรี.
ปารณีย์ ด้วงสงค์. 2555. ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการพัฒนาตนเองของพนักงานเทเลเซลล์: กรณีศึกษา พนักงานธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน). วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะพาณิชยศาสตร์และบัญชี, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ปาริชาต บัวเป็ง. 2554. ปัจจัยที่มีผลต่อความผูกพันต่อองค์กรของพนักงานบริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ ประเทศไทย (จำกัด). ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต วิชาเอกธุรกิจระหว่างประเทศ คณะบริหารธุรกิจ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. 2553. จิตวิทยาการบริหารงานบุคคล. กรุงเทพ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ. บริษัท พิมพ์ดี จำกัด กรุงเทพ.
พนานันท์ โกสินานนท์. 2551. แนวทางการพัฒนาวิทยาลัยราชพฤกษ์สู่องค์กรแห่งการเรียนรู้. รายงานการวิจัยโดยทุนอุดหนุนจากวิทยาลัยราชพฤกษ์.
พงษ์ศธร กิ่มเพ็ชร. 2556. ทัศนะของตำรวจตระเวนชายแดนกองร้อยที่ 135 ต่อปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการพัฒนาตนเองในการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม. สารนิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารงานยุติธรรม, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
เมธาวี อุดมธรรมานุภาพ และคณะ. 2551. พฤติกรรมมนุษย์กับการพัฒนาตน. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต.
วัชรี ขันธเนตร. 2554. ความต้องการพัฒนาตนเองในการทำงานของข้าราชการตำรวจ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
วินัย เพชรช่วย. 2551. พฤติกรรมมนุษย์กับการพัฒนาตน. กรุงเทพฯ: สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา.
Bass, B. M., and G. V. Barrett, 1981. People, work and organizations: An introduction to industrial and organizational psychology. Boston: Allyn & Bacon.
Harbison, F., and C. A. Myers, 1964. Education, manpower, and economic growth: Strategies of human resource development. New York: McGraw-Hill.
Schermerhorn, J.R. 1996. Organizational behavior. New York: John Wiley.
Stoner, J.A. and C. Wankel. 1986. Management. 3rd ed. New Jersey: Prentice-Hall, Inc.